เสน่ห์พันธบัตรรัฐบาลแดนกิมจิยังคงเย้ายวนนักลงทุน บลจ.ทหารไทย ส่งลุยตลาดอีก 3 กอง มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท ชูผลตอบแทนสูงสุดที่ 3.35%ต่อปี เป็นปลื้มระดมทุนได้แล้ว 29,136 ล้านบาท ด้าน บลจ.นครหลวงไทยส่งกองเกาหลีใต้อายุ 12 เดือน พร้อมคลอดกองบอนด์ออสซี่เป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ขาดทุน
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้พร้อมกันอีก 3 รุ่น ระหว่างวันที่ 15 – 21 กันยายน 2552 ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 19 อายุประมาณ 1 ปี 10 เดือน กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 29 อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 30 อายุประมาณ 6 เดือน โดยมีมูลค่ากองทุนละ 1,500 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่เปิดขายรวม 4,500 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี บริษัทได้เปิดขายกองทุนเกาหลีใต้รวมแล้วจำนวน 20 กองทุน มูลค่ารวม 29,136 ล้านบาท โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงสูง เช่น ตราสารหนี้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเกาหลีใต้ และ และพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อผลตอบแทนที่ดีรับกับการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ทั้ง 3 รุ่น ที่เปิดขายจะให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีเช่นเดียวกันคือ ในรุ่น 3 เดือนให้ผลตอบแทน 1.70% รุ่น 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.10% และรุ่น 1 ปี 10 เดือนให้ผลตอบแทน 3.35%
สำหรับกองทุนที่เปิดจองใหม่จะมีนโยบายการลงทุนในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A+/ F1 จากสถาบัน Fitch Rating นอกจากนี้ยังมีการแปลงเงินลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินบาทเต็มจำนวนจึงไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านรายงานจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ (FIF) จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย พลัส 10 เอ (SCI AUSPLUS 10 A) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 11 เดือน หรือมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 11.00 บาทเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของออสเตรเลีย และไม่กำหนดมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำในการซื้อขาย ขณะที่กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 12M1/09 (NKT FFI12M1/09) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 12 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของเกาหลีใต้ และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยทั้งสองกองทุนได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ – 21 กันยายน 2552 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุน SCI AUSPLUS 10 A จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการรองรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย (SCI AUS Bond) ที่จะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 15 กันยายน 2552 ซึ่งประสบกับภาวะขาดทุนประมาณ 2% โดยมีการตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% และจะทำการยกเลิกโครงการทันทีเมื่อผลตอบแทนถึงเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับกองทุนดังกล่าวเหมาะสมกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และเชื่อว่าค่าเงินสกุลออสเตรเลียจะสามารถแข็งค่าขึ้นมาได้ หากไม่ต้องการเสี่ยงสูงก็อาจจะโยกย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เปิดขายในช่วงเดียวกันได้
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้พร้อมกันอีก 3 รุ่น ระหว่างวันที่ 15 – 21 กันยายน 2552 ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 19 อายุประมาณ 1 ปี 10 เดือน กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 29 อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 30 อายุประมาณ 6 เดือน โดยมีมูลค่ากองทุนละ 1,500 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่เปิดขายรวม 4,500 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี บริษัทได้เปิดขายกองทุนเกาหลีใต้รวมแล้วจำนวน 20 กองทุน มูลค่ารวม 29,136 ล้านบาท โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงสูง เช่น ตราสารหนี้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเกาหลีใต้ และ และพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อผลตอบแทนที่ดีรับกับการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ทั้ง 3 รุ่น ที่เปิดขายจะให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีเช่นเดียวกันคือ ในรุ่น 3 เดือนให้ผลตอบแทน 1.70% รุ่น 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.10% และรุ่น 1 ปี 10 เดือนให้ผลตอบแทน 3.35%
สำหรับกองทุนที่เปิดจองใหม่จะมีนโยบายการลงทุนในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A+/ F1 จากสถาบัน Fitch Rating นอกจากนี้ยังมีการแปลงเงินลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินบาทเต็มจำนวนจึงไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านรายงานจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ (FIF) จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย พลัส 10 เอ (SCI AUSPLUS 10 A) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 11 เดือน หรือมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 11.00 บาทเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของออสเตรเลีย และไม่กำหนดมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำในการซื้อขาย ขณะที่กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 12M1/09 (NKT FFI12M1/09) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 12 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของเกาหลีใต้ และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยทั้งสองกองทุนได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ – 21 กันยายน 2552 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุน SCI AUSPLUS 10 A จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการรองรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรออสเตรเลีย (SCI AUS Bond) ที่จะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 15 กันยายน 2552 ซึ่งประสบกับภาวะขาดทุนประมาณ 2% โดยมีการตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% และจะทำการยกเลิกโครงการทันทีเมื่อผลตอบแทนถึงเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับกองทุนดังกล่าวเหมาะสมกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และเชื่อว่าค่าเงินสกุลออสเตรเลียจะสามารถแข็งค่าขึ้นมาได้ หากไม่ต้องการเสี่ยงสูงก็อาจจะโยกย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เปิดขายในช่วงเดียวกันได้
