บลจ.วรรณ แย้มแผนโรดโชว์ กองทุน "TFTSE"ทั้งในและต่างประเทศ หวังดันเอ็นเอวีสิ้นปี 300 ล้านบาท ระบุอานิสงส์ตลาดดีดตัว นักลงทุนกำไรแล้ว 5% ชี้ปัจจัยการเมือง กระทบเม็ดเงินลงทุนดึงตลาดชะลอตัว ขณะที่กองพี่ "TDEX" ยังโตต่อเนื่อง ล่าสุดวางเป้าสิ้นปีโต 3,000 ล้านบาท
นายสุริพล เข็มจินดา กรรมผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ FTSE SET Large Cap ETF (TFTSE) ในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนให้การตอบรับดีมากส่งผลให้ราคาหน่วยลงทุนและขนาดของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยคาดว่าหลังจากนี้จนถึงสิ้นปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ของกองทุน จะสามารถโตได้ถึง 300 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับการขยายตัวของกองทุนนั้น ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก เนื่องจากผลการดำเนินงานของกองทุน TFTSE จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับของตลาด หากเศรษฐกิจสามารถเติบโตและดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโอกาสที่กองทุนจะเติบโตขึ้นตามเป้าที่วางไว้จึงมีความเป็นไปได้สูง
ทั้งนี้ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนTFTSE ตั้งแต่เริ่มเปิดขายไอพีโอจนถึงขณะนี้ พบว่านักลงทุนได้รับกำไรจากการที่ตลาดและราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากราคาพาร์ที่ 7.57บาท โดยราคาหุ้นในขณะนี้ค่อนข้างมีความผันผวนตามตลาดที่มีความผันผวนจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่เกิดขึ้น
ขณะนี้บริษัทได้เตรียมแผนงานการจัดโรดโชว์ของกองทุนเปิดTFTSE เพื่อประชาสัมพันธ์พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนของกองทุน โดยเราจะแนะนำการลงทุน ข้อดีที่เมื่อนักลงทุนตัดสินใจซื้อTFTSE เหมือนนักลงทุนได้ลงทุนในหุ้นถึง 30 ตัวเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
โดยการจัดโรดโชว์ในประเทศเราจะจัดไปพร้อมกับ SET CITY สัญจรและขยายไปยังที่ทำการของโบรกเกอร์ต่างๆ ด้วย ขณะเดียวกัน สำหรับแผนประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ บริษัทจะเลือกไปโรดโชว์ยังประเทศใกล้ๆเช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น แต่สำหรับกำหนดการที่แน่นอนนั้น บริษัทจะต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
นายสุริพล กล่าวว่า จากปัจจัยทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดและการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศไม่กล้าที่จะนำเงินเข้ามาลงทุนมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นหรือกองทุนรวม ซึ่งหากปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนอยู่ในขณะนี้สามารถคลี่คลายหรือยุติลงได้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บลจ.วรรณ กล่าวว่า การที่ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ของกองทุนเปิดTDEX ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552 และคาดว่าจากนี้จนถึงสิ้นปีหากดัชนียังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะมีการปรับฐานบ้างเล็กน้อย โอกาสที่กองทุนจะมีขนาดเพิ่มขึ้นถึง 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีจึงมีความเป็นไปได้
นายสุริพล เข็มจินดา กรรมผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ FTSE SET Large Cap ETF (TFTSE) ในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนให้การตอบรับดีมากส่งผลให้ราคาหน่วยลงทุนและขนาดของกองทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยคาดว่าหลังจากนี้จนถึงสิ้นปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ของกองทุน จะสามารถโตได้ถึง 300 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับการขยายตัวของกองทุนนั้น ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก เนื่องจากผลการดำเนินงานของกองทุน TFTSE จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับของตลาด หากเศรษฐกิจสามารถเติบโตและดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโอกาสที่กองทุนจะเติบโตขึ้นตามเป้าที่วางไว้จึงมีความเป็นไปได้สูง
ทั้งนี้ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนTFTSE ตั้งแต่เริ่มเปิดขายไอพีโอจนถึงขณะนี้ พบว่านักลงทุนได้รับกำไรจากการที่ตลาดและราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากราคาพาร์ที่ 7.57บาท โดยราคาหุ้นในขณะนี้ค่อนข้างมีความผันผวนตามตลาดที่มีความผันผวนจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่เกิดขึ้น
ขณะนี้บริษัทได้เตรียมแผนงานการจัดโรดโชว์ของกองทุนเปิดTFTSE เพื่อประชาสัมพันธ์พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนของกองทุน โดยเราจะแนะนำการลงทุน ข้อดีที่เมื่อนักลงทุนตัดสินใจซื้อTFTSE เหมือนนักลงทุนได้ลงทุนในหุ้นถึง 30 ตัวเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
โดยการจัดโรดโชว์ในประเทศเราจะจัดไปพร้อมกับ SET CITY สัญจรและขยายไปยังที่ทำการของโบรกเกอร์ต่างๆ ด้วย ขณะเดียวกัน สำหรับแผนประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ บริษัทจะเลือกไปโรดโชว์ยังประเทศใกล้ๆเช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น แต่สำหรับกำหนดการที่แน่นอนนั้น บริษัทจะต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
นายสุริพล กล่าวว่า จากปัจจัยทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดและการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศไม่กล้าที่จะนำเงินเข้ามาลงทุนมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นหรือกองทุนรวม ซึ่งหากปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนอยู่ในขณะนี้สามารถคลี่คลายหรือยุติลงได้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บลจ.วรรณ กล่าวว่า การที่ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ของกองทุนเปิดTDEX ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2552 และคาดว่าจากนี้จนถึงสิ้นปีหากดัชนียังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะมีการปรับฐานบ้างเล็กน้อย โอกาสที่กองทุนจะมีขนาดเพิ่มขึ้นถึง 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีจึงมีความเป็นไปได้
