สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา(27 -31 ก.ค.)นั้น พบว่าตลาดหุ้นยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง โดยดัชนีในรอบสัปดาห์นั้นจะเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าปรับตัวลดลง โดยล่าสุดสามาถยืนเหนือ 620 จุดได้ ซึ่งอาจจะมาจากอานิสงส์ผลประกอบการบริษัทต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้ทยอยประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีเกินกว่าที่หลายฝ่ายได้มีการคาดการณ์กันไว้
ทั้งนี้จากผลประกอบการณ์ที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะไว้วางใจมากนัก ควรที่จะจับตามองถึงปัจจัยต่างๆที่จะมีผลกระทบต่อตลอาหุ้นทำให้ดัชนีเพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ลองมาติดตามตัวเลขดัชนีในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีเคลือนไหวเป็นเช่นไรกันบ้าง...
โดยเปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ (27 ก.ค.)ปิดที่ระดับ 617.83 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.59 จุด (+0.58%)มีมูลค่าการซื้อขาย17,478 ล้านบาท
ขณะที่วันที่สองของสัปดาห์(28 ก.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 621.96 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.13 จุด(+0.67%) มีมูลค่าการซื้อขาย 16,461 ล้านบาท
ด้านดัชนีตลาดหุ้นกลางสัปดาห์(29 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 614.88 จุด ปรับตัวลดลง 7.08 จุด(-1.14%)มีมูลค่าการซื้อขาย 20,431 ล้านบาท
ขณะเดียวกันดัชนีตลาดหุ้นก่อนสุดสัปดาห์(30 ก.ค. )ปิดที่ระดับ 621.95 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.07 จุด(+1.15%)มีมูลค่าการซื้อขาย 18,023 ล้านบาท
สำหรับตลาดหุ้นวันสุดท้ายของสัปดาห์(31 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 624.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด(+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 21,375 ล้านบาท
นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด บอกว่า สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงมีความผันผวน ไม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงแรงเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะยังคงยืนอยู่ที่ 600 จุด ซึ่งสาเหตุมาจากเม็ดเงินจากนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะส่งผลดีมากน้อยแค่ไหนต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะต้องจับตาดูตัวเลขของภาคการส่งออกว่าปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร รวมไปถึงความมีเสถียรภาพทางด้านการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งสิ้น หากทุกอย่างดีขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
การลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้ถือว่ามีความน่าลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาหุ้นถูกและนักลงทุนสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว โดยอยากแนะนำให้นักลงทุนที่มีความสนใจหรือยากลงทุนในตลาดหุ้นตอนนี้ ให้นักลงทุนทยอยเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง เพื่อหวังผลในช่วงที่เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องจับตามองปัจจัยต่างๆให้ดี ว่าจะมีผลทำให้ราคาหุ้นที่อ่อนค่าอยู่แล้วอ่อนค่าลงไปอีกหรือไม่ " ายวิโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้จากผลประกอบการณ์ที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะไว้วางใจมากนัก ควรที่จะจับตามองถึงปัจจัยต่างๆที่จะมีผลกระทบต่อตลอาหุ้นทำให้ดัชนีเพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ลองมาติดตามตัวเลขดัชนีในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีเคลือนไหวเป็นเช่นไรกันบ้าง...
โดยเปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ (27 ก.ค.)ปิดที่ระดับ 617.83 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.59 จุด (+0.58%)มีมูลค่าการซื้อขาย17,478 ล้านบาท
ขณะที่วันที่สองของสัปดาห์(28 ก.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 621.96 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.13 จุด(+0.67%) มีมูลค่าการซื้อขาย 16,461 ล้านบาท
ด้านดัชนีตลาดหุ้นกลางสัปดาห์(29 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 614.88 จุด ปรับตัวลดลง 7.08 จุด(-1.14%)มีมูลค่าการซื้อขาย 20,431 ล้านบาท
ขณะเดียวกันดัชนีตลาดหุ้นก่อนสุดสัปดาห์(30 ก.ค. )ปิดที่ระดับ 621.95 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.07 จุด(+1.15%)มีมูลค่าการซื้อขาย 18,023 ล้านบาท
สำหรับตลาดหุ้นวันสุดท้ายของสัปดาห์(31 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 624.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด(+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 21,375 ล้านบาท
นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด บอกว่า สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงมีความผันผวน ไม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงแรงเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะยังคงยืนอยู่ที่ 600 จุด ซึ่งสาเหตุมาจากเม็ดเงินจากนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะส่งผลดีมากน้อยแค่ไหนต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะต้องจับตาดูตัวเลขของภาคการส่งออกว่าปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร รวมไปถึงความมีเสถียรภาพทางด้านการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งสิ้น หากทุกอย่างดีขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
การลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้ถือว่ามีความน่าลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาหุ้นถูกและนักลงทุนสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว โดยอยากแนะนำให้นักลงทุนที่มีความสนใจหรือยากลงทุนในตลาดหุ้นตอนนี้ ให้นักลงทุนทยอยเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง เพื่อหวังผลในช่วงที่เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องจับตามองปัจจัยต่างๆให้ดี ว่าจะมีผลทำให้ราคาหุ้นที่อ่อนค่าอยู่แล้วอ่อนค่าลงไปอีกหรือไม่ " ายวิโรจน์ กล่าว