xs
xsm
sm
md
lg

ต่างชาติยังหอบเงินลุยหุ้นจีน อเบอร์ดีนไม่ห่วงเงินเฟ้อแม้สภาพคล่องสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"อเบอร์ดีน" เผย ต่างชาติยังหอบเงินเข้าลงทุนจีน ส่งผลให้อุตสาหกรรมแดนมังกร มีผลผลิตต่อเนื่อง พร้อมชี้ เงินเฟ้อโลกในระยะสั้น ยังไม่เกิด แม้มีเงินในระบบมาก เหตุการหมุนเวียนในระบบขาดหายและคนมีการเก็บออมมากขึ้น
นายนิโคลัส โยว
นายนิโคลัส โยว ผู้จัดการกองทุนตราสารทุน-เอเชีย Aberdeen International Fund Managers Limited ในฮ่องกง กล่าวถึง ความน่าลงทุนในประเทศจีนว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่น่าลงทุนสำหรับบริษัทต่างชาติ และมีบริษัทต่างชาติจำนวนมากสามารถช่วยให้จีนพัฒนาการเพิ่มผลผลิตของอุตสาหกรรมภายในประเทศของตนได้ต่อไปอีกหลายปี แต่สิ่งที่สำคัญคือ ตลาดจะต้องรักษาระดับไว้ และต้องไม่มีการนำกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของต่างชาติมาใช้ แต่ควรจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันเท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติจะมองว่าตลาดไหนจะสร้างมูลค่าให้ได้ดีกว่า เช่น ระหว่างการไปซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์กับการไปซื้ออสังหาริมทรัพย์จริงๆ อะไรจะราคาถูกกว่ากัน ขณะเดียวกันบางกองทุนเป็นกองทุนที่กำหนดการลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นอาจนักลงทุนจะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะไปลงทุนในสินทรัพย์ใด

นายนิโคลัส โยว ยังกล่าวถึงภาวะเงินเฟ้อด้วยว่า ในขณะนี้ราคาสินค้าไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าเม็ดเงินจะมีมากแต่การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบกลับขาดหายไป เนื่องจากภาคธุรกิจและคนทั่วไปพยายามเก็บออมเงินสดไว้กับตัว ดังนั้น ปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้นในอนาคต น่าจะยังอ่อนแรงต่อไป เนื่องจากปัจจุบันการใช้กำลังการผลิตของทุกแห่งยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก แต่เมื่อกำลังการผลิตไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ และแรงงานก็ถูกลดจำนวนลง แต่มีความเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าจะสูงขึ้นเมื่อการหมุนเวียนเงินในระบบกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯได้คาดการณ์ไว้ และได้จัดเตรียมยุทธศาสตร์ในการออกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (Exit Strategy) และในบางเวลาก็จำเป็นต้องดูดซับสภาพคล่องที่มีมากเกินไปด้วย

อย่างไรก็ตาม อเบอร์ดีนคาดว่ามีความเป็นไปได้มากที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อควบคู่กับภาวะการชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อช่วยกระตุ้นอุปสงค์ของภาคเอกชน แต่เมื่อผู้บริโภคมีภาระหนี้สินมากเชื่อว่าผู้บริโภคก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มการใช้จ่ายได้มากนักในระยะยาว ดังนั้นเมื่อรัฐบาลไม่สามารถกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายให้มากกว่านี้ได้แล้วดังนั้นเป็นไปได้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเกิดการหยุดนิ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น