บลจ. ธนชาต โชว์ผลงานครึ่งปีแรก เอยูเอ็มโตเข้าเป้า พุ่งทะลุ 99,000 ล้านบาท เผยอานิสงส์ดอกเบี้ยเงินฝากลดลงต่อเนื่อง ดึงนักลงทุนแห่ซื้อมันนี่มาร์เก็ต บอนด์เกาหลีใต้แทน
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผานมา ถือว่าประสบความสำเร็จมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ หรือเอยูเอ็มอยู่ที่ประมาณ 99,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมามีสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 78,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในบลจ. ธนชาต ส่วนใหญ่แล้ว เข้ามาลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนมันนี่มาร์เก็ตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในช่วงที่ผ่านมามีการปรับลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างออกมาหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิมนั้นเอง ซึ่งช่วงที่ผ่านมา บลจ. ได้ออกกองทุนที่มีนโนบายลงทุนในประเทศเกาหลี เพื่อออกมารองรับกลุ่มนักลงทุน และสามารถได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกเช่นกัน เนื่องจากว่าเมื่อเป็นขายกองทุนออกมาแล้วก็สามารถปิดยอดขายกองทุนได้ก่อนกำหนดเกือบทุกกองทุน
"ในช่วงครึ่งปีแรกจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างเข้ามาลงทุนในกองทุนเกาหลีมาก เพราะจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ บลจ. ต่างออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมารองรับนักลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่มีความกล้าลงทุนขึ้นมาหน่อย อาจจะไปลงทุนในจำพวกน้ำมัน ทองคำ หรือในตลาดอิเมอร์จิ้งมาร์เก็ตต่าง ๆ ด้วย เพราะกองทุนจำพวกนี้ ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน" นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกองทุนรวมตลาดเงินของบริษัทมีอยู่ด้วยกัน 2 กองทุนประกอบด้วย กองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน หรือ T-CASH ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อยู่ที่ 35,954.46 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.32 บาทต่อหน่วย ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.97% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.21% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.68% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.16% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.20%
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตตลาดเงิน หรือ T-MONEY มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อยู่ที่ 2,258.32 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.30 บาทต่อหน่วย ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.76% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.68% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.88% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.20%
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผานมา ถือว่าประสบความสำเร็จมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ หรือเอยูเอ็มอยู่ที่ประมาณ 99,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมามีสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 78,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในบลจ. ธนชาต ส่วนใหญ่แล้ว เข้ามาลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนมันนี่มาร์เก็ตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในช่วงที่ผ่านมามีการปรับลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างออกมาหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิมนั้นเอง ซึ่งช่วงที่ผ่านมา บลจ. ได้ออกกองทุนที่มีนโนบายลงทุนในประเทศเกาหลี เพื่อออกมารองรับกลุ่มนักลงทุน และสามารถได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกเช่นกัน เนื่องจากว่าเมื่อเป็นขายกองทุนออกมาแล้วก็สามารถปิดยอดขายกองทุนได้ก่อนกำหนดเกือบทุกกองทุน
"ในช่วงครึ่งปีแรกจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างเข้ามาลงทุนในกองทุนเกาหลีมาก เพราะจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ บลจ. ต่างออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมารองรับนักลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่มีความกล้าลงทุนขึ้นมาหน่อย อาจจะไปลงทุนในจำพวกน้ำมัน ทองคำ หรือในตลาดอิเมอร์จิ้งมาร์เก็ตต่าง ๆ ด้วย เพราะกองทุนจำพวกนี้ ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน" นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกองทุนรวมตลาดเงินของบริษัทมีอยู่ด้วยกัน 2 กองทุนประกอบด้วย กองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน หรือ T-CASH ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อยู่ที่ 35,954.46 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.32 บาทต่อหน่วย ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.97% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.21% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.68% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.16% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.20%
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตตลาดเงิน หรือ T-MONEY มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อยู่ที่ 2,258.32 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.30 บาทต่อหน่วย ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.76% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.62% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.68% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.88% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.20%