xs
xsm
sm
md
lg

"ENGY"ผลตอบแทนปรับตัวลง หุ้นพุ่งแรงนักลงทุนขายทำกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุน MTrack Energy ETF บลจ.ทหารไทย ยิลด์ปรับตัวลง หลังตลาดหุ้นปรับฐาน จากการเทขายทำกำไร พบผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 37.28% ลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งพุ่งขึ้นไปถึง 60%

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงรายงานผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด MTrack Energy ETF (ENGY) ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2552 พบว่า กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 37.28% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี SET Energy & Utilities Sector Index อยู่ที่ 37.40% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 29.05% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 27.56%

สำหรับกองทุนเปิด MTrack Energy ETF มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุน (ก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย) ให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (SET Energy & Utilities Sector Index) โดยมีนโยบายการลงทุน กองทุนมีนโยบายที่จะพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) โดยอาจเลือกใช้วิธี Full Replication หรือ Optimization และจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (SET Energy & Utilities Index) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุนดังกล่าวนั้นได้ปรับตัวลดลงมาจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่ดีดตัวขึ้นไปมากเพราะผลจากราคานํ้ามันที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้นายไพศาล ครุฑดำรงชัย ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ทิศทางของราคานํ้ามันในขณะนี้ไม่น่าที่จะวิ่งขึ้นไปอย่างแรกเหมือนกับในช่วงก่อนเกิดวิกฤต เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังไม่น่าที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างปกติในช่วงนี้ แต่เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงมีปัญหาในด้านต่างๆอยู่ และมองว่าราคานํ้ามันจะวิ่งไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยถูกนักลงทุนเทขายทำกำไรกัน ทำให้ดัชนีปรับตัวลงมา อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

"ทิศทางของราคานํ้ามันในขณะนี้ ไม่น่าที่จะวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วนัก เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงมีปัญหาอยู่มาก ดังนั้นภาวะราคานํ้ามันจากนี้จะเป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก" นายไพศาล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น