บลจ.ไทยพาณิชย์ โชว์ฝีมือทีมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รุกขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเสนอทางเลือกลงทุน Employee’s Choice ควบคู่การให้ความรู้ ดันสินทรัพย์ขยับขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งครั้งแรก
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในขณะนี้ บริษัทมีนโยบายเชิงรุกในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ลูกค้าองค์กรทุกขนาดตั้งแต่บริษัทขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีการแข่งขันสูงโดยเป็นการโยกย้ายสับเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนเป็นหลัก ดังนั้น นโยบายหลักคือการให้ความสำคัญกับลูกค้าเพื่อรักษาฐานเดิมไว้ให้ได้ ควบคู่กับการเสริมทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
โดยปัจจุบัน บริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในลักษณะกองทุนร่วม หรือ Pooled Fund ให้บริการแก่สมาชิกในรูปแบบ Employee’s Choice ตามความเสี่ยงที่สมาชิกแต่ละคนรับได้ โดยมีทั้งหมด 5 กองทุนประกอบด้วย กองทุนไทยพาณิชย์ทรัพย์มั่นคง 1 ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงและความเสี่ยงต่ำ กองทุนไทยพาณิชย์เพิ่มขวัญมั่นคงที่ลงทุนตราสารหนี้ กองทุนไทยพาณิชย์รวมทรัพย์ที่ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน กองทุน Mixed Fund 1 ที่ลงทุนในตราสารทุน กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศและอสังหาริมทรัพย์ และสุดท้าย กองทุนไทยพาณิชย์ทุนก้าวหน้า ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มทีมงานด้านการตลาดในการสร้างความสัมพันธ์และให้ความรู้กับสมาชิกกองทุน เช่น การจัดอบรม สัมมนา การให้คำแนะนำทั้งเรื่องการลงทุน การกระจายความเสี่ยง ทางเลือกของการออมเงิน รวมทั้ง ขยายขอบเขตการให้บริการครบวงจร เช่น การบริการข้อมูลการลงทุนผ่าน website และ Call Center โดยมีรหัสเฉพาะสำหรับผู้มีอำนาจกระทำการแทนกองทุนและสมาชิกรายบุคคล
นางโชติกากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำในการมอบหมายให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มบริษัทเอ็กโกซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ล่าสุด บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในการบริหารกองทุนฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอันดับ 1 ด้วยเงินลงทุนรวม 71,718.36 ล้านบาท (ณ 30 เม.ย.52) โดยมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 11,609.50 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้านี้มีเงินลงทุน 60,108.85 ล้านบาท
ทั้งนี้ เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้ก้าวขึ้นอันดับหนึ่งในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นปีแรก นับจากที่บริษัทรับโอนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2549 ด้วยความทุ่มเทการบริหารจัดการอย่างเต็มที่โดยบริษัทเล็งเห็นว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นธุรกิจหลักสำคัญของบริษัทฯด้วย ดังนั้นจึงได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการและสมาชิกกองทุนอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นบริษัทฯก็ไม่ละเลยที่จะนำเสนอแผนการลงทุนที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกอย่างต่อเนื่องด้วย
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในขณะนี้ บริษัทมีนโยบายเชิงรุกในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ลูกค้าองค์กรทุกขนาดตั้งแต่บริษัทขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีการแข่งขันสูงโดยเป็นการโยกย้ายสับเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนเป็นหลัก ดังนั้น นโยบายหลักคือการให้ความสำคัญกับลูกค้าเพื่อรักษาฐานเดิมไว้ให้ได้ ควบคู่กับการเสริมทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
โดยปัจจุบัน บริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในลักษณะกองทุนร่วม หรือ Pooled Fund ให้บริการแก่สมาชิกในรูปแบบ Employee’s Choice ตามความเสี่ยงที่สมาชิกแต่ละคนรับได้ โดยมีทั้งหมด 5 กองทุนประกอบด้วย กองทุนไทยพาณิชย์ทรัพย์มั่นคง 1 ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงและความเสี่ยงต่ำ กองทุนไทยพาณิชย์เพิ่มขวัญมั่นคงที่ลงทุนตราสารหนี้ กองทุนไทยพาณิชย์รวมทรัพย์ที่ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน กองทุน Mixed Fund 1 ที่ลงทุนในตราสารทุน กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศและอสังหาริมทรัพย์ และสุดท้าย กองทุนไทยพาณิชย์ทุนก้าวหน้า ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มทีมงานด้านการตลาดในการสร้างความสัมพันธ์และให้ความรู้กับสมาชิกกองทุน เช่น การจัดอบรม สัมมนา การให้คำแนะนำทั้งเรื่องการลงทุน การกระจายความเสี่ยง ทางเลือกของการออมเงิน รวมทั้ง ขยายขอบเขตการให้บริการครบวงจร เช่น การบริการข้อมูลการลงทุนผ่าน website และ Call Center โดยมีรหัสเฉพาะสำหรับผู้มีอำนาจกระทำการแทนกองทุนและสมาชิกรายบุคคล
นางโชติกากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำในการมอบหมายให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มบริษัทเอ็กโกซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ล่าสุด บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในการบริหารกองทุนฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอันดับ 1 ด้วยเงินลงทุนรวม 71,718.36 ล้านบาท (ณ 30 เม.ย.52) โดยมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 11,609.50 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้านี้มีเงินลงทุน 60,108.85 ล้านบาท
ทั้งนี้ เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้ก้าวขึ้นอันดับหนึ่งในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นปีแรก นับจากที่บริษัทรับโอนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2549 ด้วยความทุ่มเทการบริหารจัดการอย่างเต็มที่โดยบริษัทเล็งเห็นว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นธุรกิจหลักสำคัญของบริษัทฯด้วย ดังนั้นจึงได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการและสมาชิกกองทุนอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นบริษัทฯก็ไม่ละเลยที่จะนำเสนอแผนการลงทุนที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกอย่างต่อเนื่องด้วย
