บลจ.อเบอร์ดีน มองกลุ่มประเทศเกิดใหม่แนวโน้มสดใส เหตุภาคสถาบันการเงินยังดี แม้ว่าที่ผ่านมาเงินทุนจากต่างประเทศจะหายไปมาก แต่ภาคการบริโภคในประเทศยังเป็นตัวดันเศรษฐกิจให้โต ล่าสุด ผลตอบแทนกอง"โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์" พุ่งต่อเนื่อง "ผู้บริหาร" เผยกลยุทธ์เลือกลงทุนหุ้นของบริษัทที่เป็นมาตรฐานโลก และสามารถประเมินแนวโน้มได้
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยถึง ภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกว่า จากสถานการณ์ของวิกฤตที่มองว่าน่าจะผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว จึงมองว่าเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีในระยะยาว โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินในประเทศเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนกับสหรัฐฯและยุโรป อีกทั้งประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มาจากการในเรื่องของการอุปโภคบริโภคภายประเทศเป็นหลัก
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมากลุ่มประเทศเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินทำให้เงินทุนจากต่างประเทศหายไป แต่แนวโน้มจากนี้มองว่าเงินลงทุนจะไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศเหล่านี้ จะไม่ใช่เพียงแต่เงินลงทุนจากสหรัฐฯและยุโรปเท่านั้น แต่จะเป็นเงินทุนที่มาจากทั่วโลก
ส่วนในเรื่องของตลาดหุ้นนั้น แม้ว่าตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่จะมีความผันผวนที่มากกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป แต่เชื่อว่าในระยะยาวแล้วกลุ่มประเทศเกิดใหม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นมีอัตราการเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง
นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า หุ้นของบริษัททั่วโลกที่เลือกเข้าไปลงทุนอยู่ในกองทุนเปิด อเบอร์ดีนโกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์นั้น ทางบริษัทได้เลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีรวมทั้งต้องเป็นหุ้นของบริษัทที่สามารถคาดการณ์รวมถึงประเมิณตัวเลขต่างๆได้และต้องเป็นบริษัทที่มาตรฐานระดับโลกด้วย
โดยในส่วนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์นั้น ทางบริษัทได้เลือกลงทุนอยู่ในหุ้นบริษัทต่างๆกระจายกันไปทั่วโลกทั้งใน เอเชีย ยุโรป อเมริกา ละตินอเมริกาและแอฟริกาโดยให้นํ้าหนักการลงทุนไปที่ ละตินอเมริกาเป็นหลัก ได้แก่ ประเทศบราซิลและเม็กซิโก ซึ่งเน้นไปที่เรื่องของการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รองลงมาคือ ในส่วนของพลังงานและการก่อสร้าง
"เรามองว่าประเทศเกิดใหม่นั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มาจากเรื่องการอุปโภคบริโภคในภายประเทศเป็นหลัก มากกว่าในเรื่องของการลงทุนในด้านอื่นๆ ดังนั้นการจัดพอร์ตลงทุนของกองทุนนี้เราจึงเน้นหนักไปที่หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภคเป็นหลัก" หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2552 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 52.16% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI Emerging Markets Indexอยู่ที่ 51.32% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.70% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 39.38% และตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 34.18% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 33.31% โดยมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศต่างๆ 5 อันดับได้แก่ บราซิล 15.2% จีน/ฮ่องกง 15.2% อินเดีย 11.8% เม็กซิโก 8.9% และเกาหลีใต้ 6.6%
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยถึง ภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกว่า จากสถานการณ์ของวิกฤตที่มองว่าน่าจะผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว จึงมองว่าเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีในระยะยาว โดยจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินในประเทศเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนกับสหรัฐฯและยุโรป อีกทั้งประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มาจากการในเรื่องของการอุปโภคบริโภคภายประเทศเป็นหลัก
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมากลุ่มประเทศเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินทำให้เงินทุนจากต่างประเทศหายไป แต่แนวโน้มจากนี้มองว่าเงินลงทุนจะไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศเหล่านี้ จะไม่ใช่เพียงแต่เงินลงทุนจากสหรัฐฯและยุโรปเท่านั้น แต่จะเป็นเงินทุนที่มาจากทั่วโลก
ส่วนในเรื่องของตลาดหุ้นนั้น แม้ว่าตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่จะมีความผันผวนที่มากกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป แต่เชื่อว่าในระยะยาวแล้วกลุ่มประเทศเกิดใหม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นมีอัตราการเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง
นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า หุ้นของบริษัททั่วโลกที่เลือกเข้าไปลงทุนอยู่ในกองทุนเปิด อเบอร์ดีนโกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์นั้น ทางบริษัทได้เลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีรวมทั้งต้องเป็นหุ้นของบริษัทที่สามารถคาดการณ์รวมถึงประเมิณตัวเลขต่างๆได้และต้องเป็นบริษัทที่มาตรฐานระดับโลกด้วย
โดยในส่วนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์นั้น ทางบริษัทได้เลือกลงทุนอยู่ในหุ้นบริษัทต่างๆกระจายกันไปทั่วโลกทั้งใน เอเชีย ยุโรป อเมริกา ละตินอเมริกาและแอฟริกาโดยให้นํ้าหนักการลงทุนไปที่ ละตินอเมริกาเป็นหลัก ได้แก่ ประเทศบราซิลและเม็กซิโก ซึ่งเน้นไปที่เรื่องของการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รองลงมาคือ ในส่วนของพลังงานและการก่อสร้าง
"เรามองว่าประเทศเกิดใหม่นั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มาจากเรื่องการอุปโภคบริโภคในภายประเทศเป็นหลัก มากกว่าในเรื่องของการลงทุนในด้านอื่นๆ ดังนั้นการจัดพอร์ตลงทุนของกองทุนนี้เราจึงเน้นหนักไปที่หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภคเป็นหลัก" หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2552 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 52.16% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI Emerging Markets Indexอยู่ที่ 51.32% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.70% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 39.38% และตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 34.18% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 33.31% โดยมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศต่างๆ 5 อันดับได้แก่ บราซิล 15.2% จีน/ฮ่องกง 15.2% อินเดีย 11.8% เม็กซิโก 8.9% และเกาหลีใต้ 6.6%