บลจ. อเบอร์ดีน โชว์พอร์ตกองทุนส่วนบุคคล ขยับขึ้นกว่า 100 ล้านจากสิ้นปี 51 พร้อมชูจุดเด่นเหนือกองทุนรวม บริหารพอร์ได้ตามสไตล์ เดินหน้าขยายฐาน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสถาบันรายใหญ่
รายงานข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยถึงสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทว่า ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 3,404.90 ล้านบาท จากสิ้นปี 2551 ที่อยู่ที่ 3,281.16 ล้านบาท โดยมีเม็ดเงินมาจากนักลงทุนสถาบันที่เริ่มมองเห็นความสำคัญของการลงทุนในกองทุนชนิดนี้
โดยบริษัทมองว่า นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนรวมที่มีการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนที่ทำหน้าที่บริหารพอร์ตการลงทุนเอง โดยที่นักลงทุนไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เนื่องจากผู้จัดการกองทุนจะทำการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนที่ได้มีการกำหนดตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวมแล้ว การลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนักลงทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ หรือนำไปลงทุนยังกองทุนรวมที่บริษัทจัดการกองทุนนั้นๆบริหารอยู่ ตามความต้องการของนักลงทุนเอง
ในขณะเดียวกับ นักลงทุนสถาบันที่มีขนาดใหญ่และต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ก็สามารถทำได้ รวมไปถึงนักลงทุนสถาบันยังสามารถที่จะกำหนดเป้าหมายการลงทุนได้เอง หรือ นักลงทุนสามารถสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุน ณ เวลานั้นได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันรายใดที่สนใจจะจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคลนั้น ควรทำความเข้าใจถึงการลงทุนชนิดนี้ โดยขณะนี้ได้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนหลายบริษัทด้วยกัน ดังนั้น นักลงทุนควรเลือกบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ที่มีรูปแบบการบริหารที่สอดคล้องกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของนักลงทุนเอง เพราะระยะเวลาของการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลนั้นค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาในการลงทุนระยะยาว
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับประโยชน์ของกองทุนส่วนบุคคลอีกประการหนึ่งคือ ผู้จัดการกองทุนของแต่ละบริษัท จะมาเข้าพบปะเพื่อพูดคุยรับทราบความต้องการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของลูกค้า เพื่อนำไปปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาด และผลการดำเนินงานของกองทุนของนักลงทุนเอง ซึ่งในส่วนของ บลจ.อเบอร์ดีนเอง คาดว่านักลงทุนกลุ่มสถาบันที่มีขนาดใหญ่ จะเล็งเห็นความสำคัญและโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพึงพอใจผ่านกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนรวม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บลจ.อเบอร์ดีน ได้เข้าไปนำเสนอและพูดคุยเพื่อที่จะขยายสินทรัพย์ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล โดยการเข้าไปนำเสนอการบริหารกองทุนส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้ากลุ่มสถาบันต่างๆเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ กองทุนส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การบริหารของ บลจ.อเบอร์ดีน พบว่า กลุ่มนักลงทุนสถาบันมีการเพิ่มเม็ดเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทำให้ขนาดของกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า กองทุนส่วนบุคคลสินทรัพย์ปรับลดลงไปค่อนข้างมาก คิดเป็นสัดส่วนถึง -11.51% โดยเงินลงทุนรวมทั้งระบบลดลงประมาณ 19,376.71 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 168,276.96 ล้านบาทในช่วงปลายปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 148,900.25 ล้านบาทในปัจจุบัน
ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทจัดการที่มีสินทรัพย์รวมในอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 บลจ.กสิกรไทย ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 34,925.30 ล้านบาท โดยมี บลจ.วรรณ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งหมด 22,489.66 ล้านบาท ส่วนบลจ.ทิสโก้ ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยสินทรัพย์รวม 20,923.13 ล้านบาท อันดับ 4 บลจ.เอ็มเอฟซี กับสินทรัพย์ 20,290.05 ล้านบาท และอันดับที่ 5 บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 15,830.21 ล้านบาท
รายงานข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยถึงสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทว่า ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 3,404.90 ล้านบาท จากสิ้นปี 2551 ที่อยู่ที่ 3,281.16 ล้านบาท โดยมีเม็ดเงินมาจากนักลงทุนสถาบันที่เริ่มมองเห็นความสำคัญของการลงทุนในกองทุนชนิดนี้
โดยบริษัทมองว่า นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนรวมที่มีการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนที่ทำหน้าที่บริหารพอร์ตการลงทุนเอง โดยที่นักลงทุนไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เนื่องจากผู้จัดการกองทุนจะทำการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนที่ได้มีการกำหนดตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวมแล้ว การลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนักลงทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ หรือนำไปลงทุนยังกองทุนรวมที่บริษัทจัดการกองทุนนั้นๆบริหารอยู่ ตามความต้องการของนักลงทุนเอง
ในขณะเดียวกับ นักลงทุนสถาบันที่มีขนาดใหญ่และต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ก็สามารถทำได้ รวมไปถึงนักลงทุนสถาบันยังสามารถที่จะกำหนดเป้าหมายการลงทุนได้เอง หรือ นักลงทุนสามารถสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุน ณ เวลานั้นได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันรายใดที่สนใจจะจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคลนั้น ควรทำความเข้าใจถึงการลงทุนชนิดนี้ โดยขณะนี้ได้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนหลายบริษัทด้วยกัน ดังนั้น นักลงทุนควรเลือกบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ที่มีรูปแบบการบริหารที่สอดคล้องกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของนักลงทุนเอง เพราะระยะเวลาของการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลนั้นค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาในการลงทุนระยะยาว
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับประโยชน์ของกองทุนส่วนบุคคลอีกประการหนึ่งคือ ผู้จัดการกองทุนของแต่ละบริษัท จะมาเข้าพบปะเพื่อพูดคุยรับทราบความต้องการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของลูกค้า เพื่อนำไปปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาด และผลการดำเนินงานของกองทุนของนักลงทุนเอง ซึ่งในส่วนของ บลจ.อเบอร์ดีนเอง คาดว่านักลงทุนกลุ่มสถาบันที่มีขนาดใหญ่ จะเล็งเห็นความสำคัญและโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพึงพอใจผ่านกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนรวม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บลจ.อเบอร์ดีน ได้เข้าไปนำเสนอและพูดคุยเพื่อที่จะขยายสินทรัพย์ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล โดยการเข้าไปนำเสนอการบริหารกองทุนส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้ากลุ่มสถาบันต่างๆเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ กองทุนส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การบริหารของ บลจ.อเบอร์ดีน พบว่า กลุ่มนักลงทุนสถาบันมีการเพิ่มเม็ดเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทำให้ขนาดของกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า กองทุนส่วนบุคคลสินทรัพย์ปรับลดลงไปค่อนข้างมาก คิดเป็นสัดส่วนถึง -11.51% โดยเงินลงทุนรวมทั้งระบบลดลงประมาณ 19,376.71 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 168,276.96 ล้านบาทในช่วงปลายปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 148,900.25 ล้านบาทในปัจจุบัน
ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทจัดการที่มีสินทรัพย์รวมในอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 บลจ.กสิกรไทย ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 34,925.30 ล้านบาท โดยมี บลจ.วรรณ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งหมด 22,489.66 ล้านบาท ส่วนบลจ.ทิสโก้ ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยสินทรัพย์รวม 20,923.13 ล้านบาท อันดับ 4 บลจ.เอ็มเอฟซี กับสินทรัพย์ 20,290.05 ล้านบาท และอันดับที่ 5 บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 15,830.21 ล้านบาท