บลจ. บัวหลวง ปลื้มลูกค้าตอบรับกองทุนตราสารหนี้เกาหลี ล่าสุด “บัวหลวงธนสารพลัส” อายุ 6 เดือน ต้องปิดขายไอพีโอก่อนกำหนด หลังยอดจองซื้อล้น ยิ้มรับดีมานด์ลูกค้าใหม่เพิ่ม หลังเงินฝากแบงก์ให้ดอกเบี้ยต่ำ เผยเดือนหน้า จ่อคิว 2กองใหม่ เสนอทางเลือกหาผลตอบแทนสูง
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 9/09 (BP9/09) กองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ เน้นลงทุนในตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลี ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ขนาดเงินทุน 2,000 ล้านบาท ไประหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2552 นั้น ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวนแล้วในวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว มีทั้งนักลงทุนรายใหม่ และรายเก่า ที่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้กองทุนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังคงให้ผลตอบแทนไม่น่าจูงใจมากนัก จึงเป็นผลให้นักลงทุนต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน และแสวงหาผลตอบแทนที่สูงด้วย
"นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจ และไว้วางใจกับ บลจ.บัวหลวงในการบริหารกองทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีลูกค้ารายใหม่ต่างเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งนักลงทุนรายเก่าเองก็ยังคงเข้ามาลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุที่นักลงทุนต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในบ้านเรามีการปรับตัวลดลง จนทำให้นักลงทุนต่างต้องหาช่องทางใหม่ ๆ แทน" นายวศินกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 และ 8/09 มีอายุ 6 เดือน และ 1 ปี ตามลำดับ โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารสถาบันการเงินเกาหลีใต้ และมีมูลค่ากองทุนทุนละ 3,000 ล้านบาท โดยได้เริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วระหว่างวันที่ 18 - 27 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวนที่กำหนดไว้เช่นกัน
นายวศิน กล่าวต่อว่า หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 , 8/09 และ 9/09 ที่สามารถปิดยอดขายได้เต็มจำนวนนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ส่งผลให้ในเดือนมิถุนายน 2552 นี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศอีก 2 - 3 กองทุนด้วยกัน เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มนักลงทุนที่ยังต้องการจะเข้ามาลงทุนอีก
สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 , 8/09 และ 9/09 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Foreign Investment Fund) โดยลงทุนในตราสารภาครัฐต่างประเทศ หรือตราสารที่ออก โดยรัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตั้งแต่ A- ขึ้นไป ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ
อนึ่ง การลงทุนในประเทศ จะเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะเป็นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝากที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงินไม่เกินหนึ่งปี และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives contract) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) เฉพาะกรณีที่ตราสารแห่งหนี้นั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ขณะที่กองทุนลงทุนเท่านั้น
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 9/09 (BP9/09) กองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ เน้นลงทุนในตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลี ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ขนาดเงินทุน 2,000 ล้านบาท ไประหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2552 นั้น ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวนแล้วในวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว มีทั้งนักลงทุนรายใหม่ และรายเก่า ที่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้กองทุนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังคงให้ผลตอบแทนไม่น่าจูงใจมากนัก จึงเป็นผลให้นักลงทุนต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน และแสวงหาผลตอบแทนที่สูงด้วย
"นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจ และไว้วางใจกับ บลจ.บัวหลวงในการบริหารกองทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีลูกค้ารายใหม่ต่างเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งนักลงทุนรายเก่าเองก็ยังคงเข้ามาลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุที่นักลงทุนต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในบ้านเรามีการปรับตัวลดลง จนทำให้นักลงทุนต่างต้องหาช่องทางใหม่ ๆ แทน" นายวศินกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 และ 8/09 มีอายุ 6 เดือน และ 1 ปี ตามลำดับ โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารสถาบันการเงินเกาหลีใต้ และมีมูลค่ากองทุนทุนละ 3,000 ล้านบาท โดยได้เริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วระหว่างวันที่ 18 - 27 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวนที่กำหนดไว้เช่นกัน
นายวศิน กล่าวต่อว่า หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 , 8/09 และ 9/09 ที่สามารถปิดยอดขายได้เต็มจำนวนนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ส่งผลให้ในเดือนมิถุนายน 2552 นี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศอีก 2 - 3 กองทุนด้วยกัน เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มนักลงทุนที่ยังต้องการจะเข้ามาลงทุนอีก
สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 7/09 , 8/09 และ 9/09 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Foreign Investment Fund) โดยลงทุนในตราสารภาครัฐต่างประเทศ หรือตราสารที่ออก โดยรัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตั้งแต่ A- ขึ้นไป ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ
อนึ่ง การลงทุนในประเทศ จะเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะเป็นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝากที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงินไม่เกินหนึ่งปี และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives contract) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) เฉพาะกรณีที่ตราสารแห่งหนี้นั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ขณะที่กองทุนลงทุนเท่านั้น
