xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนโวยตลท.โขกค่าฟีโหด นักลงทุนต้องแบกภาระเพิ่มอีก0.1%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ครวญตลาดหลักทรัพย์ เตรียมโขกค่าฟีโหดกองทุนหุ้นอิงดัชนี ระบุอัตรา 0.1% อาจไม่คุ้มค่าต่อการบริหารงาน ชี้นักลงทุนอาจเป็นผู้ต้องแบกภาระแทนหากยังคงใช้ประโยชน์จากดัชนีอยู่ แต่อาจมีการยกเลิกได้ถ้าค่าใช้จ่ายไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทน ด้านเลขาสมาคมฯ แจงยังไม่ได้รับรายละเอียด แต่เชื่อตลท.จะต้องสอบถามความคิดเห็นก่อนตัดสินใจแน่นอน
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงแนวคิดการจัดเก็บค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) และสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ที่นำดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET50 และ ดัชนี SET100 ไปอ้างอิงกับกองทุนเพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนของตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ปัจจุบันกองทุนดัชนีของบลจ.ทหารไทยมีอยู่หลายกองทุนที่อ้างอิงดัชนี SET50 ซึ่งหากมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวจริง คงต้องกลับไปหารือกันอีกครั้งว่า มีความจำเป็นและคุ้มค่าหรือไม่ เพราะอัตราค่าธรรเนียมที่จะจัดเก็บจากกองทุนรวมทั่วไปในอัตรา 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิถือว่าเป็นอัตราที่แพงมาก

ทั้งนี้ หากมีการจัดเก็บจริง ภาระนี้อาจจะตกไปอยู่กับผู้ถือหน่วยกองทุน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องสอบถามไปยังผู้ถือหน่วยด้วยว่า เต็มใจจะรับภาระดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น หรือเกิดประโยชน์ต่อการบริหารจัดการกองทุน ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องอ้างอิง หรือเปลี่ยนชื่อกองทุนไปเลย เพราะต้องยอมรับว่าผู้ลงทุนในบ้านเรา มีความเข้าใจน้อยอยู่แล้วเกี่ยวกับดัชนีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คงต้องกับไปพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง

"ปัจจุบันกองทุนในบ้านเราเองมีน้อยมากที่ใช้ประโยชน์จากดัชนีนี้ ซึ่งหากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการจัดเก็บจริง แน่นอนว่ากองทุนของเราก็ต้องจ่ายด้วยจากที่ไม่เคยจ่ายมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องกลับไปดูก่อนว่า เมื่อมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นมา เรายังอยากใช้เหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนชื่อกองทุน หรืออาจจะยอมจ่ายตามที่ตลาดเรียกเก็บ แต่ส่วนนี้อาจจะต้องกลับไปเก็บกับลูกค้าเพิ่ม"นายไพศาลกล่าว

ด้าน นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน(สมาคมฯ) เปิดเผยว่า การเตรียมเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับกองทุนที่นำดัชนีตลดาหุ้นไทยไปอ้างอิงเพื่อเปิดขายให้กับนักลงทุนทั่วไปนั้น ขณะที่ทางสมาคมฯ ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ทราบเพียงแต่ข่าวทางสื่อต่างๆ เท่านั้นว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เตรียมจะมีนโยบายนี้ออกมา

"ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเป็นแค่ข่าว ซึ่งปกติแล้วทางตลาดฯจะเรียกเราเข้าไปฟังความคิดเห็น และหลังจากนั้นเราก็จะต้องมาปรึกษากันอีกว่ามีผลกระทบอย่างไรกับนโยบายนี้ โดยขณะนี้ยังไม่ความแน่นอน จึงไม่อยากให้ความเห็นมากนักว่าจะมีผลอย่างไรบ้างต่อไป"นางสาวดวงกมลกล่าว

ส่วนการที่จะมีการบังคับใช้ในช่วงต้นปีหน้านั้น ทางสมาคมฯเชื่อว่าจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็น และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนก่อน ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเป็นการตั้งเป้าบังคับใช้กฎเกณฑ์หากมีความเห็นชอบมากกว่า ส่วนจะเร็วไปหรือช้าไปนั้นจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง โดยบางเรื่องทางตลาดฯ ก็สามารถทำได้รวดเร็วอย่างไม่ติดขัด แต่บางเรื่องก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว ทางตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดเผยว่า จะสามารถทำได้กับสถาบันการเงินต่างชาติก่อนในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนบลจ.ของไทยตั้งเป้าจะจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวในช่วงต้นปีหน้า โดยอัตราค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บจะคิดจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร(AUM)ซึ่งหากเป็นกองทุนที่อ้างอิงกับดัชนีอีทีเอฟจะจัดเก็บในอัตราประมาณ 0.04% ของเอยูเอ็ม ส่วนกองทุนทั่วไปจะจัดเก็บในอัตรา 0.1% ของเอยูเอ็ม
กำลังโหลดความคิดเห็น