กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ จบไตรมาสแรกขยายตัว 1.3% ด้วยสินทรัพย์รวม 471,336 ล้านบาท จับตา ศก. ตกต่ำ นายจ้าง-ลูกจ้าง ขอถอนตัวออกจากกองทุน เหตุไม่มีเงินจ่าย ล่าสุด สมาชิกใหม่ลดลง หลังเพิ่มขึ้นมาตลอด
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่าตัวเลขเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ณ สิ้นไตรมาส 1 ที่ผ่านมาว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) โดยรวมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ที่ 471,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลงทุนในตราสารหนี้มากที่สุด 77.5% ของ NAV ตามด้วยเงินฝาก 13.2% และตราสารทุน 7.0% ไตรมาสนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในตราสารที่มีความมั่นคงสูง ได้แก่ ตราสารหนี้ภาครัฐ และเงินฝาก เป็นส่วนใหญ่ โดยสัดส่วนการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ภาครัฐต่อNAV เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา
สำหรับบริษัทจัดการที่มี NAV ภายใต้การบริหารสูงสุด ในไตรมาสนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่น่าสนใจ คือ บลจ.กสิกรไทย ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ณ สิ้นไตรมาส 1/2552 มี NAV ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 64,891 ล้านบาท ตามด้วย บลจ. กรุงไทย 60,455 ล้านบาท และ บลจ. ไทยพาณิชย์ 60,109 ล้านบาท โดยบริษัทจัดการที่มีอัตราการเติบโตของ NAV ภายใต้การบริหารจัดการสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ บลจ.กสิกรไทย เพิ่มขึ้น 22.6 %
ในไตรมาส 1/2552 มีเงินนำส่งเข้ากองทุนทั้งสิ้น 15,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นเงินสะสม 45.8% และเงินสมทบ 54.2%ขณะที่มีเงินจ่ายออกจากกองทุนทั้งสิ้น 12,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นเงินจ่ายคืนให้สมาชิก 93.8% และเป็นเงินจ่ายคืนนายจ้างทั้งสิ้น 6.2%
สำหรับจำนวนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ ไตรมาส 1/2552 มีทั้งสิ้น 509 กองทุน 73.5% เป็นกองทุนขนาดใหญ่กว่า 100 ล้านบาท 64.4% มีจำนวนสมาชิกกองทุนมากกว่า 500 คน และเกือบ 60% เป็นกองทุนหลายนายจ้าง โดยในไตรมาสนี้จำนวนกองทุนลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 2 กองทุน ซึ่งเป็นการจัดตั้งกองทุนใหม่จำนวน 4 กองทุน ซึ่งเป็น master fund 1 กองทุน และเลิกกองทุนจำนวน 6 กองทุนส่วนใหญ่เป็นการเลิกกองเดี่ยวเพื่อเข้าร่วมกองทุนหลายนายจ้าง
ส่วนจำนวนนายจ้าง ณ สิ้นไตรมาส 1/2552 อยู่ที่ 9,260 ราย เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนนายจ้างยังคงเพิ่มขึ้น แต่จำนวนลูกจ้างในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในไตรมาสนี้กลับลดลง 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีจำนวนลูกจ้างอยู่ที่ประมาณ 2.0 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม โดยรวมในไตรมาส 1 ปี 2552 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังคงขยายตัวจากการเพิ่มขึ้นของ NAV และจำนวนนายจ้าง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยที่ชะลอการขยายตัวของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากนายจ้างและลูกจ้างบางส่วนขอถอนตัวออกจากกองทุน เพราะไม่สามารถจ่ายเงินเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่องได้ ประกอบกับการลดจำนวนพนักงานหรือเลิกกิจการน่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนนายจ้าง และจำนวนสมาชิกในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเช่นกัน โดยจำนวนสมาชิกในไตรมาสนี้เริ่มลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่าตัวเลขเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ณ สิ้นไตรมาส 1 ที่ผ่านมาว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) โดยรวมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ที่ 471,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลงทุนในตราสารหนี้มากที่สุด 77.5% ของ NAV ตามด้วยเงินฝาก 13.2% และตราสารทุน 7.0% ไตรมาสนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในตราสารที่มีความมั่นคงสูง ได้แก่ ตราสารหนี้ภาครัฐ และเงินฝาก เป็นส่วนใหญ่ โดยสัดส่วนการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ภาครัฐต่อNAV เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา
สำหรับบริษัทจัดการที่มี NAV ภายใต้การบริหารสูงสุด ในไตรมาสนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่น่าสนใจ คือ บลจ.กสิกรไทย ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ณ สิ้นไตรมาส 1/2552 มี NAV ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 64,891 ล้านบาท ตามด้วย บลจ. กรุงไทย 60,455 ล้านบาท และ บลจ. ไทยพาณิชย์ 60,109 ล้านบาท โดยบริษัทจัดการที่มีอัตราการเติบโตของ NAV ภายใต้การบริหารจัดการสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ บลจ.กสิกรไทย เพิ่มขึ้น 22.6 %
ในไตรมาส 1/2552 มีเงินนำส่งเข้ากองทุนทั้งสิ้น 15,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นเงินสะสม 45.8% และเงินสมทบ 54.2%ขณะที่มีเงินจ่ายออกจากกองทุนทั้งสิ้น 12,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นเงินจ่ายคืนให้สมาชิก 93.8% และเป็นเงินจ่ายคืนนายจ้างทั้งสิ้น 6.2%
สำหรับจำนวนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ ไตรมาส 1/2552 มีทั้งสิ้น 509 กองทุน 73.5% เป็นกองทุนขนาดใหญ่กว่า 100 ล้านบาท 64.4% มีจำนวนสมาชิกกองทุนมากกว่า 500 คน และเกือบ 60% เป็นกองทุนหลายนายจ้าง โดยในไตรมาสนี้จำนวนกองทุนลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 2 กองทุน ซึ่งเป็นการจัดตั้งกองทุนใหม่จำนวน 4 กองทุน ซึ่งเป็น master fund 1 กองทุน และเลิกกองทุนจำนวน 6 กองทุนส่วนใหญ่เป็นการเลิกกองเดี่ยวเพื่อเข้าร่วมกองทุนหลายนายจ้าง
ส่วนจำนวนนายจ้าง ณ สิ้นไตรมาส 1/2552 อยู่ที่ 9,260 ราย เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนนายจ้างยังคงเพิ่มขึ้น แต่จำนวนลูกจ้างในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในไตรมาสนี้กลับลดลง 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีจำนวนลูกจ้างอยู่ที่ประมาณ 2.0 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม โดยรวมในไตรมาส 1 ปี 2552 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังคงขยายตัวจากการเพิ่มขึ้นของ NAV และจำนวนนายจ้าง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยที่ชะลอการขยายตัวของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากนายจ้างและลูกจ้างบางส่วนขอถอนตัวออกจากกองทุน เพราะไม่สามารถจ่ายเงินเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่องได้ ประกอบกับการลดจำนวนพนักงานหรือเลิกกิจการน่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนนายจ้าง และจำนวนสมาชิกในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเช่นกัน โดยจำนวนสมาชิกในไตรมาสนี้เริ่มลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด
