บลจ.กรุงไทย สนใจนำ 2 กองทุนอิสลาม อ้างอิงดัชนี "ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์" ระบุต้องเสนอให้บอร์ดศาสนา ไฟเขียวก่อน เหตุครอบคลุมหุ้นเพียง 49 ตัว น้อยกว่าดัชนีที่มีถึง 55 ตัว
นายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสนใจใช้ดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ( FTSE SET Shariah Index) เป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับกองทุนภายใต้การบริหาร 2 กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามเช่นกัน นั่นคือ กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 กองทุนอ้างอิงดัชนี SET Index อยู่
อย่างไรก็ตาม กองทุนทั้ง 2 กองทุนดังกล่าว มีการลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามอยู่ทั้งหมด 49 ตัว ซึ่งใกล้เคียงกับดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ที่ครอบคลุมหุ้นในตลาดทั้งหมด 55 ตัว ดังนั้น หากเราจะใช้ดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ในการอ้างอิง อาจจะต้องให้คณะกรรมการชาริอะห์พิจารณาว่า จะยอมรับหุ้นที่เกินมาได้หรือไม่ และจะอนุญาตให้กองทุนทั้ง 2 กองดังกล่าว สามารถลงทุนได้หรือไม่
"ตอนนี้เรากำลังดูอยู่ว่าจะเอาดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ มาอ้างอิงสำหรับกองทุนของเราหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูหุ้นที่นำมาคำนวนในดัชนีดังกล่าว ก็มีความใกล้เคียงกัน มีบางส่วนที่เกินมาเท่านั้น ดังนั้น หากเราจะใช้เป็นดัชนีอ้างอิง คงต้องปรึกษากับคณะกรรมการลงทุนของเราก่อนว่า สามารถยอมรับได้หรือไม่"นายสมชัยกล่าว
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายการลงทุนคล้ายกัน คือ มีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามที่มีผลประกอบการและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารอื่นๆ ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) โดยหลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทจัดการจะแต่งตั้งบุคคลไม่เกิน 7 ท่าน เพื่อเป็นคณะกรรมการศาสนา ซึ่งบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนาอิสลามเพื่อให้คำปรึกษาในเรื่องหลักเกณฑ์การลงทุนตามหลักของศาสนาอิสลาม โดยคณะที่ปรึกษากองทุนที่บริษัทจัดการจะแต่งตั้งขึ้นดังกล่าว ไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของบริษัทจัดการแต่อย่างใด และค่าตอบแทนของคณะกรรมการจะถือเป็นค่าใช้จ่ายของกองทุน
ทั้งนี้ จากการเปิดพอร์ตการลงทุนของทั้ง 2 กองทุน ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจำนวน 14 ตัว จากหุ้นที่สามารถลงทุนได้ 49 ตัว ซึ่งประกอบด้วย บมจ. บ้านปู บมจ. ผลิตไฟฟ้า บมจ.โกลว์พลังงาน บมจ.ไออาร์พีซี บมจ. ปตท. บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม บมจ.ไทยออลย์ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บลจ.เอ็มเอฟซี ก็มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน นั่นคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิก ฟันด์ (MIF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIFLTF) โดยในส่วนของกองทุน MIF มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน และตราสารแห่งหนี้ ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามร้อยละ 0-100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และมีนโยบายเงินปันผล อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสะสมหรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน (unrealized and/orrealized gain) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ จากการสำรวจพอร์ตการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 27 มีนาคม 2552 พบว่า หลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 10 อันดับแรก ประกอบด้วย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 18.34% บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 14.96% บมจ. บางกอกเชนฮอสปิตอล 9.91% บมจ. บ้านปู 7.94% บมจ. ผลิตไฟฟ้า 7.03% บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง 2.88% บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ 2.21% บมจ. ไดนาสตี้เซรามิค 2.12% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 1.99% และบมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท 0.83%
ส่วนกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท ตราสารแห่งทุนซึ่งผ่านการคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวม โดยมีนโยบายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่เกิน ร้อยละ 30 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิในแต่ละ งวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลแล้วแต่จำนวน
สำหรับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ( FTSE SET Shariah Index) จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคม 2552 นี้ โดยมี Yasaar Limited ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก คัดเลือกหลักทรัพย์ จำนวน 55 หลักทรัพย์ คิดเป็นร้อยละ 44 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด มาจัดทำเป็นดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ซึ่งครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม โดยเป็นหลักทรัพย์ในกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ร้อยละ 47.78 กลุ่มสื่อสาร ร้อยละ 14.96 และ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ร้อยละ 11 เป็นต้น
นายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสนใจใช้ดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ( FTSE SET Shariah Index) เป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับกองทุนภายใต้การบริหาร 2 กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามเช่นกัน นั่นคือ กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 กองทุนอ้างอิงดัชนี SET Index อยู่
อย่างไรก็ตาม กองทุนทั้ง 2 กองทุนดังกล่าว มีการลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามอยู่ทั้งหมด 49 ตัว ซึ่งใกล้เคียงกับดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ที่ครอบคลุมหุ้นในตลาดทั้งหมด 55 ตัว ดังนั้น หากเราจะใช้ดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ในการอ้างอิง อาจจะต้องให้คณะกรรมการชาริอะห์พิจารณาว่า จะยอมรับหุ้นที่เกินมาได้หรือไม่ และจะอนุญาตให้กองทุนทั้ง 2 กองดังกล่าว สามารถลงทุนได้หรือไม่
"ตอนนี้เรากำลังดูอยู่ว่าจะเอาดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ มาอ้างอิงสำหรับกองทุนของเราหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูหุ้นที่นำมาคำนวนในดัชนีดังกล่าว ก็มีความใกล้เคียงกัน มีบางส่วนที่เกินมาเท่านั้น ดังนั้น หากเราจะใช้เป็นดัชนีอ้างอิง คงต้องปรึกษากับคณะกรรมการลงทุนของเราก่อนว่า สามารถยอมรับได้หรือไม่"นายสมชัยกล่าว
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายการลงทุนคล้ายกัน คือ มีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามที่มีผลประกอบการและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารอื่นๆ ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) โดยหลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทจัดการจะแต่งตั้งบุคคลไม่เกิน 7 ท่าน เพื่อเป็นคณะกรรมการศาสนา ซึ่งบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนาอิสลามเพื่อให้คำปรึกษาในเรื่องหลักเกณฑ์การลงทุนตามหลักของศาสนาอิสลาม โดยคณะที่ปรึกษากองทุนที่บริษัทจัดการจะแต่งตั้งขึ้นดังกล่าว ไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของบริษัทจัดการแต่อย่างใด และค่าตอบแทนของคณะกรรมการจะถือเป็นค่าใช้จ่ายของกองทุน
ทั้งนี้ จากการเปิดพอร์ตการลงทุนของทั้ง 2 กองทุน ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจำนวน 14 ตัว จากหุ้นที่สามารถลงทุนได้ 49 ตัว ซึ่งประกอบด้วย บมจ. บ้านปู บมจ. ผลิตไฟฟ้า บมจ.โกลว์พลังงาน บมจ.ไออาร์พีซี บมจ. ปตท. บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม บมจ.ไทยออลย์ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บลจ.เอ็มเอฟซี ก็มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน นั่นคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิก ฟันด์ (MIF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIFLTF) โดยในส่วนของกองทุน MIF มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน และตราสารแห่งหนี้ ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามร้อยละ 0-100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และมีนโยบายเงินปันผล อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสะสมหรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน (unrealized and/orrealized gain) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ จากการสำรวจพอร์ตการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 27 มีนาคม 2552 พบว่า หลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 10 อันดับแรก ประกอบด้วย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 18.34% บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 14.96% บมจ. บางกอกเชนฮอสปิตอล 9.91% บมจ. บ้านปู 7.94% บมจ. ผลิตไฟฟ้า 7.03% บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง 2.88% บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ 2.21% บมจ. ไดนาสตี้เซรามิค 2.12% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 1.99% และบมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท 0.83%
ส่วนกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท ตราสารแห่งทุนซึ่งผ่านการคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวม โดยมีนโยบายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่เกิน ร้อยละ 30 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิในแต่ละ งวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลแล้วแต่จำนวน
สำหรับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ( FTSE SET Shariah Index) จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคม 2552 นี้ โดยมี Yasaar Limited ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก คัดเลือกหลักทรัพย์ จำนวน 55 หลักทรัพย์ คิดเป็นร้อยละ 44 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด มาจัดทำเป็นดัชนี ฟุตซี่ เซ็ท ชาริอะห์ ซึ่งครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม โดยเป็นหลักทรัพย์ในกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ร้อยละ 47.78 กลุ่มสื่อสาร ร้อยละ 14.96 และ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ร้อยละ 11 เป็นต้น