ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ.พรีมาเวสท์ จับจังหวะราคาน้ำมันถูก คลอด “พรีมาเวสท์ ออยล์ ฟันด์” ลุยอีทีเอฟในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ชูจุดขายซื้อได้ถูกกว่า มั่นใจขาขึ้นมีสูง เหตุเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้น จีนความต้องการยังสูง คาดปลายปีนี้ ราคาแตะระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล เปิดขาย IPO 7-26 พฤษภาคมนี้ พร้อมจ่อคิวกองหุ้น ลุยดัชนีฮั่งเส็งไตรมาส 3 หนีหุ้นไทยถูกการเมืองกดดัน
นางสาวศรีเนตร ฤทธิ์รงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 7-26 พฤษภาคมนี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิด พรีมาเวสท์ ออยล์ ฟันด์ (POIL) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าว เน้นสร้างผลตอบแทนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ โดยจะเข้าไปลงทุนในกองทุนของ PowerShares DB Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา
โดยกองทุนหลักดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ (light sweet crude oil) โดยคาดหวังให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity - Optimum Yield Crude Oil Excess Return ซึ่งให้น้ำหนักการลงทุน DB Crude Oil Index Commodities 100% Light Sweet Crude oil
ทั้งนี้ กองทุนหลักดังกล่าว จะใช้กลยุทธ์การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อให้ผลตอบแทนมีความใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดิบมากที่สุด โดยกองทุนจะเข้าไปซื้อสัญญาล่วงหน้าน้ำมันในราคาที่ถูกและขายในช่วงที่ราคาแพง โดยจะไม่ถือสัญญาล่วงหน้าดังกล่าวไปจนครบอายุสัญญา ถึงแม้ว่าขณะนั้นจะขาดทุนก็ตาม
สำหรับสาเหตุที่เปิดขายกองทุนน้ำมันในช่วงนี้ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาตลาดทุนและตลาดเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มส่งสัญญาณที่ดีซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านทั้งนโยบายการเงิน การคลัง ดังนั้น จึงคาดหมายว่าในช่วงปลายปีเศรษฐกิจของสหรัฐน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้
ขณะเดียวกัน ยังมองว่าประเทศจีน ยังเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้น้ำมันในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง รวมถึงกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเชียเองด้วย ทั้งนี้ เพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นไปได้อีก
นางสาวศรีเนตรกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันหลังจากนี้ มองว่าในช่วงปลายปี น่าจะขยับขึ้นที่ระดับ 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่ระดับ 48 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับลดลงไปต่ำกว่านี้ ยังมีความเป็นไปได้ แต่คงเป็นการปรับลงไม่มาก เพราะมีต้นทุนในการขุดเจาะน้ำมันอยู่ ซึ่งกลุ่มโอเปกเอง มีต้นทุนดังกล่าวอยู่ที่ 38 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
“จุดเด่นของกองทุนที่ต่างกับกองทุนที่ออกมาก่อนหน้านี้ อยู่ที่จังหวะในการลงทุนต่างกัน นอกจากนี้ กองทุนยังมีบริการให้ข้อมูลกับนักลงทุนเป็นรายสัปดาห์และรายเดือนด้วย”นางสาวศรีเนตรกล่าว
สำหรับนักลงทุนส
นใจลงทุนในกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ ออยล์ ฟันด์ สามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาทและหากลงทุนในช่วง IPO จะได้รับเช็คของขวัญจำนวน 1 พันบาทสำหรับการลงทุนทุกๆ 2 แสนบาท โดยหลังจากปิเสนอขายช่วง IPO แล้ว บริษัทจะเสนอขายหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
นางสาวศรีเนตรกล่าวต่อว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเปิดขายกองทุนใหม่ไปแล้วประมาณ 5 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถระดมทุนได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะออกกองทุนต่อเนื่องเดือนละกองทุน โดยจะเน้นกองทุนที่ให้ความรู้แก่นักลงทุนและกองทุนที่มีโอกาสเติบโตด้วย ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 บริษัทมีแผนจะออกกองทุนหุ้นที่ลงทุนในดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงด้วย เนื่องจากมองว่าการลงทุนในหุ้นไทยเอง ยังมีความเสี่ยงเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองอยู่
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัญหาการเมือง การลงทุนในตลาดหุ้นไทยถือว่าน่าสนใจ เพราะหุ้นบางตัวราคาปรับลงไปค่อนข้างต่ำจนน่าซื้อ ทั้งที่โกรธยังมีอยู่ เช่น หุ้นกลุ่มอาหาร และพลังงาน นอกจากนี้ เรายังสนใจหุ้นเทเลคอมด้วย เนื่องจากมองว่ามีปัจจัยสนับสนุนให้น่าลงทุน ซึ่งกองทุนหุ้นของพรีมาเวสท์เอง ก็ให้น้ำหนักในการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายคืนหนี้ของบริษัท หลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด หรือ TSFC นั้น นางสาวศรีเนตรกล่าวขณะนี้ ได้รับการชำระหนี้มาบางส่วนแล้วหรือประมาณ 50% และคาดว่าประมาณกลางปีหน้า น่าจะได้รับชำระหนี้ทั้งหมด จากแผนปรับโครงสร้างหนี้ของ TSFC ซึ่งในช่วงนี้ เงินลงทุนจากลูกค้าเริ่มไหลกลับเข้ามาบ้างแล้ว หลังจากไถ่ถอนออกไปในช่วงที่เกิดความเสียหายช่วงแรก