xs
xsm
sm
md
lg

บัวหลวงโชว์ศักยภาพ"TFUND" จบQ1ฟันกำไรตามเป้า159ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.บัวหลวงเผยผลการดำเนินงาน "TFUND" เป็นไปตามเป้า จบไตรมาสแรกทำไร 159.51 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง ระบุเจอวิกฤตเศรษฐกิจกระทบเล็กน้อย แต่ยังให้ผลตอบแทนดี

นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ
นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ในไตรมาส 1 ว่า สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 159.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนอยู่ที่ 113.51 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2098 บาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 0.2009 บาท โดยก่อนหน้านี้ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2551 ที่ผ่านมา กองทุนได้ทำการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไปถึง 2 ครั้ง รวม 0.21 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ การบริหารกองทุนถือว่าประสบความสำเร็จเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ เพราะกองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ากองทุนจะมีผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเองด้วยก็ตาม

นายสุทธิพงศ์ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือ TFUND ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากเซกเตอร์ที่กองทุนเข้าไปลงทุน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้เช่าโรงงานที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับชิ้นส่วนอิเล็กโทนิกส์ ประเภทอะไหล่รถยนต์ เป็นหลัก ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าว ทำให้บริษัทรถยนต์ต่างปิดตัวลง และปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนมีการปรับตัวลดลงมาบ้าง

ดังนั้น บริษัทจึงมีการปรับแผนการลงทุนใหม่ โดยจะเน้นการลงทุนไปยังกลุ่มผู้เช่าลอจิสติกต์แทน เนื่องจากกลุ่มดังกล่าว ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก อีกทั้งยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากองทุน TFUND จะได้รับผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจก็ตาม แต่เป็นผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในส่วนของผลตอบแทนก็มีการปรับตัวลดลงไม่มาก ซึ่งถ้าเทียบกับผลตอแทนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่มีการปรับตัวลดลงไปกองทุนดังกล่าวยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี

สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 10 ราย ณ วันที่ 16 มีนาคม 2552 ดังนี้ อันดับที่ 1.บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) มีหน่วยลงทุนในกองทุนถึง 32.14%อันดับที่ 2.ธนาคารกรุงเทพ 8.25% อันดับที่ 3.บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 7.39% อันดับที่4. AYUDHYA ALLIANZ C.P. LIFE PUBLIC COMPANY 6.85% อันดับที่ 5.สำนักงานประกันสังคม (2 กรณี) 6.59% อันดับที่ 6. GE REAL ESTATE INVESTMENT HOLDINGS. 6.58% อันดับที่ 7.STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON 5.10% อันดับที่ 8. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2.66% อันดับที่ 9.ธนาคาร ทหารไทย 1.52% เเละอันดับที่ 10 บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) 1.26%

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน เป็นการลงทุนที่กองทุนได้รับกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (Free Hold Interest) เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กองทุนสามารถขายหรือ จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนเป็นเจ้าของไปได้ โดยทั่วไปมูลค่าของที่ดินมักจะเพิ่มตามระยะเวลาที่ถือครอง ส่วนมูลค่าของสิ่งปลูกสร้างจะลดลงตามการเสื่อมค่าระยะเวลาที่ถือครอง แต่จะถูกชดเชยด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาก่อสร้างทดแทนที่เพิ่มขึ้น มากน้อยตามปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวได้ลงทุนในที่ดินแลอาคารโรงงานมาตรฐาน จำนวนทั้งสิ้น 130 โรง ของบริษัท ไทนคอน อินดัสเทรียล คอนแน็คชั่น จำกัด (มหาชน) มีพื้นที่โรงงานรวม 287,ตารางเมตร บนพื้นที่ดินรวมขนาด 428 ไร่ 1 งาน 68.94 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม รวม 8 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง 2.นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี 3.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.อยุธยา 4.นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ 5.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จ.อยุธยา 6.เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี 7.นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.อยุธยา
กำลังโหลดความคิดเห็น