บลจ.วรรณยิ้มออก "วรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์" ได้อานิสงส์ดาวน์โจนส์เด้งกลับ ดันราคาเอ็นเอวีพุ่ง เผยลูกค้าเริ่มเห็นโอกาส กลับเข้ามาลงทุนบ้างแล้ว ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐ ประเมินมีแนวโน้มดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเกินคาด ราคาบ้านต่ำสุดแล้ว
นางสาวสหัทยา สรรค์ประสิทธิ์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ว่า ขณะนี้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ราคาบ้านได้ปรับตัวลดลงมามาก จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จนหลายฝ่ายคาดว่าราคาบ้านน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จึงทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อบ้านอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดตัวเลขซื้อบ้านและราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจากจุดนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขต่างๆที่สหรัฐได้ประกาศออกมานั้น ดีกว่าที่หลายฝ่ายได้มีการคาดการณ์ไว้มาก จึงทำให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทั้งนี้โอกาสที่ตลาดจะปรับตัวลดลงไปบ้างเพียงเล็กน้อยแต่จะไม่ปรับตัวลดลงไปมากเหมือนอย่างช่วงที่ผ่านมา
"หลายคนคาดว่าดัชนีได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยหลังจากนี้ดัชนีตลาดจะค่อยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สะท้อนเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนล่วงหน้าว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร ทั้งนี้หลายคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะไม่เลวร้ายลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว"นางสาวสหัทยา กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ นั้น เริ่มมีนักลงทุนทยอยกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนได้มองถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงราคาหุ้นที่ต่ำมาก จึงทำให้กลับเข้ามาลงทุนเพื่อหวังทำกำไรและเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากได้รับอานิสงส์จากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
"การลงทุนในกองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ของเรานั้น เริ่มมีเม็ดเงินและนักลงทุนทยอยกลับเข้ามาลงทุนบ้างแล้ว เนื่องจากนักลงทุนอาจจะมองว่าราคาหุ้นต่ำ อีกทั้งความเสี่ยงก็ลดน้อยลง ที่สำคัญผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก นักลงทุนจึงเลือกที่จะลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น ณ ความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้"นางสาวสหัทยา กล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์(1US-OPP) เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กําหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสาร แห่งทุน ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) โดยมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยผลการดำเนินงานล่าสุด กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน (16 เม.ย.52) อยู่ที่ 5.8196 บาท และมีมูลทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 93,941,697.55 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุน 1US-OPP เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งระดับราคาได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ และกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 พบว่า กองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.02% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเท่ากับ -6.51% ด้านผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -35.36% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -32.75% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่วันจดทะเบียนอยู่ที่ -47.49% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -40.01% โดยเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับค่าเฉลียของอัตราผลตอบแทนของ S&P 500 Index
ทั้งนี้ พบว่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 สัดส่วนการลงทุนของกองทุน 1US-OPP ประกอบด้วย อันดับ 1 JPMORGAN CHASE AND CO 8.61% อันดับ2 INTEL CORP 8.443% อันดับ3 TOLL BROTHERS INC 8.15% อันดับ 4 BEST BUY INC8.03 % อันดับ 5 APPLE INC 7.62%อันดับ6 APPLIED MATERIALS INC 7.57%อันดับ 7 DOVER CORP 7.29% อันดับ 8 EMERSON ELECTRIC CO 6.66 % อันดับ9 CORNING INC 4.41%และอันดับ10 GOLDMAN SACHS GROUP INC 4.39%
นางสาวสหัทยา สรรค์ประสิทธิ์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ว่า ขณะนี้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ราคาบ้านได้ปรับตัวลดลงมามาก จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จนหลายฝ่ายคาดว่าราคาบ้านน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จึงทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อบ้านอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดตัวเลขซื้อบ้านและราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจากจุดนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขต่างๆที่สหรัฐได้ประกาศออกมานั้น ดีกว่าที่หลายฝ่ายได้มีการคาดการณ์ไว้มาก จึงทำให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทั้งนี้โอกาสที่ตลาดจะปรับตัวลดลงไปบ้างเพียงเล็กน้อยแต่จะไม่ปรับตัวลดลงไปมากเหมือนอย่างช่วงที่ผ่านมา
"หลายคนคาดว่าดัชนีได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยหลังจากนี้ดัชนีตลาดจะค่อยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สะท้อนเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนล่วงหน้าว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร ทั้งนี้หลายคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะไม่เลวร้ายลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว"นางสาวสหัทยา กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ นั้น เริ่มมีนักลงทุนทยอยกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนได้มองถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงราคาหุ้นที่ต่ำมาก จึงทำให้กลับเข้ามาลงทุนเพื่อหวังทำกำไรและเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากได้รับอานิสงส์จากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
"การลงทุนในกองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ของเรานั้น เริ่มมีเม็ดเงินและนักลงทุนทยอยกลับเข้ามาลงทุนบ้างแล้ว เนื่องจากนักลงทุนอาจจะมองว่าราคาหุ้นต่ำ อีกทั้งความเสี่ยงก็ลดน้อยลง ที่สำคัญผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก นักลงทุนจึงเลือกที่จะลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น ณ ความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้"นางสาวสหัทยา กล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์(1US-OPP) เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กําหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสาร แห่งทุน ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) โดยมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยผลการดำเนินงานล่าสุด กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน (16 เม.ย.52) อยู่ที่ 5.8196 บาท และมีมูลทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 93,941,697.55 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุน 1US-OPP เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งระดับราคาได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ และกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 พบว่า กองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.02% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเท่ากับ -6.51% ด้านผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -35.36% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -32.75% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่วันจดทะเบียนอยู่ที่ -47.49% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -40.01% โดยเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับค่าเฉลียของอัตราผลตอบแทนของ S&P 500 Index
ทั้งนี้ พบว่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 สัดส่วนการลงทุนของกองทุน 1US-OPP ประกอบด้วย อันดับ 1 JPMORGAN CHASE AND CO 8.61% อันดับ2 INTEL CORP 8.443% อันดับ3 TOLL BROTHERS INC 8.15% อันดับ 4 BEST BUY INC8.03 % อันดับ 5 APPLE INC 7.62%อันดับ6 APPLIED MATERIALS INC 7.57%อันดับ 7 DOVER CORP 7.29% อันดับ 8 EMERSON ELECTRIC CO 6.66 % อันดับ9 CORNING INC 4.41%และอันดับ10 GOLDMAN SACHS GROUP INC 4.39%