สำนักงาน ก.ล.ต. ซักซ้อมความเข้าใจ ต่ออายุกองทุน ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถเลือกได้ว่าจะขายคืนหรือจะถือหน่วยลงทุนต่อไป
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานได้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขโครงการเพื่อขยายอายุโครงการจัดการกองทุนรวมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดความผันผวน ซึ่งมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของหลายกองทุนรวม โดยเฉพาะกรณีของกองทุนรวมที่มีอายุและจะครบกำหนดอายุโครงการในช่วงนี้ เนื่องจากมูลค่าหน่วยลงทุนต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ บริษัทจัดการหลายแห่งจึงแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อแก้ไขโครงการในการขยายอายุโครงการทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนว่าต้องการจะลงทุนต่อหรือไม่
ดังนั้น สำนักงานก.ล.ต. จึงขอซักซ้อมว่า ในการขยายอายุโครงการตามที่กล่าวข้างต้นนั้น บริษัทจัดการควรเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถเลือกได้ว่าจะขายคืนหรือจะถือหน่วยลงทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการควรให้เวลาผู้ถือหน่วยลงทุนพอสมควรในการแจ้งความจำนงขายคืนหน่วยลงทุน กล่าวคือ บริษัทจัดการควรจะกำหนดให้มีระยะเวลาในการแจ้งความจำนงในการรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ และบริษัทจัดการควรจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบถึงระยะเวลาในการแจ้งความจำนงในการรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนที่แน่นอนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบโดยเร็วภายหลังจากได้รับมติให้ขยายอายุโครงการแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีบริษัทจัดการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนในการยืดอายุโครงการของกองทุนไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะกองทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ซึ่งผลพวงของวิกฤตการเงินในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กองทุนเหล่านี้ประสบกับปัญหาขาดทุนไปตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลียและกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรนิวซีแลนด์ เพื่อขอขยายอายุกองทุนออกไปอีก รวมถึงกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักรด้วย ซึ่งกองทุนเหล่านี้ ประสบกับปัญหาการขาดทุนจากค่าเงินของประเทศที่ออกไปลงทุน เนื่องจากไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเอาไว้
ล่าสุด กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักร จะมีการเพิ่มเงื่อนไขในการครบกำหนดอายุ กล่าวคือจะมีเป้าหมายในการลงทุนหากหน่วยลงทุนปรับตัวขึ้นในระดับที่กำหนดไว้คือ 10 บาทต่อหน่วยก็จะทำการยกเลิกโครงการและคืนเงินให้แก่นักลงทุนทันที
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และ ที่กำลังใกล้จะครบกำหนดทางบริษัทเองจะทำในแนวทางเดียวกัน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างยื่นขอมติกับผู้ถือหน่วยลงทุน และคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือนก่อนที่ผู้ถือหน่วยจะตอบกลับแล้วจึงยื่นเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลงทุนในกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์น่าจะผลการดำเนินงานดีขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9 บาทกว่าต่อหน่วยแล้ว โดยหากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึนมาเล็กน้อยก็น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศในแถบนี้ได้
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานได้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขโครงการเพื่อขยายอายุโครงการจัดการกองทุนรวมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดความผันผวน ซึ่งมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของหลายกองทุนรวม โดยเฉพาะกรณีของกองทุนรวมที่มีอายุและจะครบกำหนดอายุโครงการในช่วงนี้ เนื่องจากมูลค่าหน่วยลงทุนต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ บริษัทจัดการหลายแห่งจึงแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อแก้ไขโครงการในการขยายอายุโครงการทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนว่าต้องการจะลงทุนต่อหรือไม่
ดังนั้น สำนักงานก.ล.ต. จึงขอซักซ้อมว่า ในการขยายอายุโครงการตามที่กล่าวข้างต้นนั้น บริษัทจัดการควรเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถเลือกได้ว่าจะขายคืนหรือจะถือหน่วยลงทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการควรให้เวลาผู้ถือหน่วยลงทุนพอสมควรในการแจ้งความจำนงขายคืนหน่วยลงทุน กล่าวคือ บริษัทจัดการควรจะกำหนดให้มีระยะเวลาในการแจ้งความจำนงในการรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ และบริษัทจัดการควรจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบถึงระยะเวลาในการแจ้งความจำนงในการรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนที่แน่นอนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบโดยเร็วภายหลังจากได้รับมติให้ขยายอายุโครงการแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีบริษัทจัดการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนในการยืดอายุโครงการของกองทุนไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะกองทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ซึ่งผลพวงของวิกฤตการเงินในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กองทุนเหล่านี้ประสบกับปัญหาขาดทุนไปตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลียและกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรนิวซีแลนด์ เพื่อขอขยายอายุกองทุนออกไปอีก รวมถึงกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักรด้วย ซึ่งกองทุนเหล่านี้ ประสบกับปัญหาการขาดทุนจากค่าเงินของประเทศที่ออกไปลงทุน เนื่องจากไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเอาไว้
ล่าสุด กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักร จะมีการเพิ่มเงื่อนไขในการครบกำหนดอายุ กล่าวคือจะมีเป้าหมายในการลงทุนหากหน่วยลงทุนปรับตัวขึ้นในระดับที่กำหนดไว้คือ 10 บาทต่อหน่วยก็จะทำการยกเลิกโครงการและคืนเงินให้แก่นักลงทุนทันที
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และ ที่กำลังใกล้จะครบกำหนดทางบริษัทเองจะทำในแนวทางเดียวกัน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างยื่นขอมติกับผู้ถือหน่วยลงทุน และคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือนก่อนที่ผู้ถือหน่วยจะตอบกลับแล้วจึงยื่นเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลงทุนในกองทุนเปิดทิสโก้พันธบัตรออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์น่าจะผลการดำเนินงานดีขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9 บาทกว่าต่อหน่วยแล้ว โดยหากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึนมาเล็กน้อยก็น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศในแถบนี้ได้