บลจ.บัวหลวง โชว์ผลงานกองทุนรวมผสม ทั้ง 3 กอง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าผลการดำเนินงานไม่ร่วงลงมากนัก ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร เผย ภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวนจึงต้องระมัดระวัง ชูกองทุนเสี่ยงน้อยกว่ากองทุนอื่น เผยกลยุทธ์ล่าสุด โยกเงินลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากเกือบ 100% ไม่ลงทุนในหุ้นแต่อย่างใด
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนรวมแบบผสมทั้ง 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด บีเฟล็กซ์ กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ และกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น พบว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนเปิด บีเฟล็กซ์ ( B-FLEX ) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.68% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 4.29% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.14% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -16.36% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 3.04% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -21.67% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 43.73% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 17.20% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี อยู่ที่ 1.76% 2.25% และ 2.39% ตามลำดับ
ขณะที่กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ ( B-ACTIVE ) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0.17% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 4.29% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -23.92% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -16.36% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -34.61% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -21.67% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -21.98% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -5.60% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี อยู่ที่ 1.76% 2.25% และ 2.39% ตามลำดับ
ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น (TARGET) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -2.45 เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 2.75% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.00% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -6.06% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 0.00% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -8.02% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -6.46 เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -11.97%
ทั้งนี้กองทุนผสมทั้ง 3 กองทุน ได้ปรับสัดส่วนการลงทุนมาลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งหมดเกือบ 100% โดยไม่มีการลงทุนในหุ้นแต่อย่างใด ซึ่งกองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ มีสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้คิดเป็น 99.69% ขณะที่กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ คิดเป็น 98.77% และกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์นคิดเป็น 97.73%
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บลจ.บัวหลวง จำกัด ระบุว่า สำหรับกองทุนผสมนั้น เนื่องจากในขณะนี้ตลาดหุ้นค่อนข้างจะมีความผันผวน ดังนั้น ทางบริษัทจึงต้องระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นให้มาก ขณะเดียวกันทางบริษัทเองได้ทำการปรับสัดส่วนการลงทุนโดยเข้าลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าลงทุนในหุ้น
โดยการลงทุนในกองทุนผสมนั้น มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากกองทุนผสมนั้นสามารถเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุน ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งในขณะนี้ทางบริษัทกำลังติดตามภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูสถานการณ์ว่าจะสามารถเข้าลงทุนอย่างใดได้บ้าง
ทั้งนี้ สถานการณ์ของการมาเข้าลงทุนของนักลงทุนนั้น ในขณะนี้นักลงทุนไม่ได้มีการถอนเงินลงทุนออกไปแต่อย่างใด โดยยังมีการลงทุนอยู่อย่างปกติ เพราะทางบริษัทเองได้พยายามอธิบายถึงรูปแบบและความเหมาะสมของการลงทุนในลักษณะต่างๆให้แก่ลูกค้าได้เข้าใจอย่างต่อเนื่อง
"ทุกกองทุนนั้นมีความน่าลงทุนทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่าชอบและต้องการลงทุนในแบบใดรวมถึงการลงทุนในลักษณะใดที่เหมาะสมกับตนเอง" นายวศิน กล่าว
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนรวมแบบผสมทั้ง 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด บีเฟล็กซ์ กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ และกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น พบว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนเปิด บีเฟล็กซ์ ( B-FLEX ) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.68% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 4.29% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.14% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -16.36% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 3.04% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -21.67% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 43.73% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 17.20% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี อยู่ที่ 1.76% 2.25% และ 2.39% ตามลำดับ
ขณะที่กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ ( B-ACTIVE ) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0.17% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 4.29% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -23.92% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -16.36% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -34.61% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -21.67% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -21.98% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -5.60% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี อยู่ที่ 1.76% 2.25% และ 2.39% ตามลำดับ
ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น (TARGET) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -2.45 เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานสมาคมบริษัทจัดการ( AIMC) อยู่ที่ 2.75% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.00% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -6.06% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 0.00% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -8.02% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -6.46 เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -11.97%
ทั้งนี้กองทุนผสมทั้ง 3 กองทุน ได้ปรับสัดส่วนการลงทุนมาลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งหมดเกือบ 100% โดยไม่มีการลงทุนในหุ้นแต่อย่างใด ซึ่งกองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ มีสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้คิดเป็น 99.69% ขณะที่กองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ คิดเป็น 98.77% และกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์นคิดเป็น 97.73%
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บลจ.บัวหลวง จำกัด ระบุว่า สำหรับกองทุนผสมนั้น เนื่องจากในขณะนี้ตลาดหุ้นค่อนข้างจะมีความผันผวน ดังนั้น ทางบริษัทจึงต้องระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นให้มาก ขณะเดียวกันทางบริษัทเองได้ทำการปรับสัดส่วนการลงทุนโดยเข้าลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าลงทุนในหุ้น
โดยการลงทุนในกองทุนผสมนั้น มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากกองทุนผสมนั้นสามารถเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุน ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งในขณะนี้ทางบริษัทกำลังติดตามภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูสถานการณ์ว่าจะสามารถเข้าลงทุนอย่างใดได้บ้าง
ทั้งนี้ สถานการณ์ของการมาเข้าลงทุนของนักลงทุนนั้น ในขณะนี้นักลงทุนไม่ได้มีการถอนเงินลงทุนออกไปแต่อย่างใด โดยยังมีการลงทุนอยู่อย่างปกติ เพราะทางบริษัทเองได้พยายามอธิบายถึงรูปแบบและความเหมาะสมของการลงทุนในลักษณะต่างๆให้แก่ลูกค้าได้เข้าใจอย่างต่อเนื่อง
"ทุกกองทุนนั้นมีความน่าลงทุนทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่าชอบและต้องการลงทุนในแบบใดรวมถึงการลงทุนในลักษณะใดที่เหมาะสมกับตนเอง" นายวศิน กล่าว
