แบงก์ไทยพาณิชย์ เผยผลตอบแทนกองทุนรวมลดเหลือ 1.3-1.4% ตามการลดลงของอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน แต่ยังมองโอกาสโตสูงไม่ต่ำกว่า 10% ส่งผลให้ในปีนี้ ทั้งระบบเงินฝากจะโตเหลือไม่ถึง 5% จากปีก่อนโต 7-8% ส่วนของธนาคารตั้งเป้าเงินฝากโต 4-5% ล่าสุดเปิดตัวเงินฝากก้าวกระโดดเฟส 2
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดกองทุนรวมจะลดต่ำลงตามอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันโดยคาดว่าจะลดเหลือ 1.3-1.4% จากในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนอยู่ที่ 3-4% อย่างไรก็ตาม แม้ผลตอบแทนจะลดลงแต่มองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าผลตอบแทนของเงินฝาก เนื่องจากมีสภาพคล่องมากกว่าเงินฝาก ไม่เสียภาษี และมีการกระจายความเสี่ยงได้ รวมทั้งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์จะปรับตัวลดลงอีก จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.50%
โดยในปีนี้ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าที่มีเงินออมระดับปานกลาง จากเดิมที่การลงทุนในกองทุนรวมจะเป็นการลงทุนของผู้ออมที่มีเงินออมจำนวนมากเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันที่ 20 มี.ค.2552 ธนาคารจะเปิดตัวบริการซื้อขายกองทุนผ่านเอทีเอ็ม โดยสามารถซื้อได้ทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ (SFF) กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ขั้นต่ำ 50,000 บาท
ดังนั้น ธนาคารจึงมองว่าสถานการณ์การออมเงินของลูกค้าจะเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนในกองทุน พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชนมากขึ้น ซึ่งคาดว่ากองทุนรวมในปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากในปี 2551 กองทุนรวมหดตัว 2% จึงส่งผลให้อัตราการเติบโตของเงินฝากในปีนี้ไม่ถึง 5% จากปีที่แล้วเงินฝากทั้งระบบเติบโต 7-8%
“ปัจจุบันธนาคารมีจำนวนลูกค้า 10 ล้านบัญชี โดยลูกค้าลงทุนในกองทุนรวมแค่เพียงประมาณ 300,000 ราย เท่านั้น ซึ่งลงทุนเฉลี่ย 6 แสนบาทต่อราย และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 20-30% หรือประมาณ 140,000 แสนราย โดยจะเน้นลูกค้ารายกลางและรายย่อย ทั้งนี้ใน 2 เดือนแรกของปีนี้กองทุนรวมมีการเติบโตสุทธิ 22,000 ล้านบาท” นายอดิศร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารปีนี้ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตของเงินฝากไว้ที่ 4-5% หรือคิดเป็นมูลค่า 50,000 ล้านบาท โดยจะมาจากเงินฝากประจำ 2 ใน 3 ของเงินฝากทั้งหมดและ 1ใน3 เป็นเงินฝากออมรัพย์ และเพื่อให้การเติบโตเงินฝากเป็นไปตามเป้าหมายธนาคารจึงได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากก้าวกระโดด เฟส 2 ซึ่งเป็นรูปแบบเงินฝากประจำ 15 เดือนให้อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได โดยฝากครบ 3 เดือนแรก ได้รับดอกเบี้ย 0.75% ฝากครบ 6 เดือน รับดอกเบี้ย 1% ฝากครบ 9 เดือน รับดอกเบี้ย 1.25% ฝากครบ 12 เดือน รับดอกเบี้ย 1.50% และฝากครบ 15 เดือน รับดอกเบี้ยเป็น 2.50% ให้ดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท รับฝากเงินตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-30 เม.ย.2552 นี้ ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายมีเงินฝากจากแคมเปญนี้ 15,000-20,000 ล้านบาท
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดกองทุนรวมจะลดต่ำลงตามอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันโดยคาดว่าจะลดเหลือ 1.3-1.4% จากในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนอยู่ที่ 3-4% อย่างไรก็ตาม แม้ผลตอบแทนจะลดลงแต่มองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าผลตอบแทนของเงินฝาก เนื่องจากมีสภาพคล่องมากกว่าเงินฝาก ไม่เสียภาษี และมีการกระจายความเสี่ยงได้ รวมทั้งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์จะปรับตัวลดลงอีก จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.50%
โดยในปีนี้ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าที่มีเงินออมระดับปานกลาง จากเดิมที่การลงทุนในกองทุนรวมจะเป็นการลงทุนของผู้ออมที่มีเงินออมจำนวนมากเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันที่ 20 มี.ค.2552 ธนาคารจะเปิดตัวบริการซื้อขายกองทุนผ่านเอทีเอ็ม โดยสามารถซื้อได้ทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ (SFF) กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ขั้นต่ำ 50,000 บาท
ดังนั้น ธนาคารจึงมองว่าสถานการณ์การออมเงินของลูกค้าจะเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนในกองทุน พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชนมากขึ้น ซึ่งคาดว่ากองทุนรวมในปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากในปี 2551 กองทุนรวมหดตัว 2% จึงส่งผลให้อัตราการเติบโตของเงินฝากในปีนี้ไม่ถึง 5% จากปีที่แล้วเงินฝากทั้งระบบเติบโต 7-8%
“ปัจจุบันธนาคารมีจำนวนลูกค้า 10 ล้านบัญชี โดยลูกค้าลงทุนในกองทุนรวมแค่เพียงประมาณ 300,000 ราย เท่านั้น ซึ่งลงทุนเฉลี่ย 6 แสนบาทต่อราย และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 20-30% หรือประมาณ 140,000 แสนราย โดยจะเน้นลูกค้ารายกลางและรายย่อย ทั้งนี้ใน 2 เดือนแรกของปีนี้กองทุนรวมมีการเติบโตสุทธิ 22,000 ล้านบาท” นายอดิศร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารปีนี้ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตของเงินฝากไว้ที่ 4-5% หรือคิดเป็นมูลค่า 50,000 ล้านบาท โดยจะมาจากเงินฝากประจำ 2 ใน 3 ของเงินฝากทั้งหมดและ 1ใน3 เป็นเงินฝากออมรัพย์ และเพื่อให้การเติบโตเงินฝากเป็นไปตามเป้าหมายธนาคารจึงได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากก้าวกระโดด เฟส 2 ซึ่งเป็นรูปแบบเงินฝากประจำ 15 เดือนให้อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได โดยฝากครบ 3 เดือนแรก ได้รับดอกเบี้ย 0.75% ฝากครบ 6 เดือน รับดอกเบี้ย 1% ฝากครบ 9 เดือน รับดอกเบี้ย 1.25% ฝากครบ 12 เดือน รับดอกเบี้ย 1.50% และฝากครบ 15 เดือน รับดอกเบี้ยเป็น 2.50% ให้ดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท รับฝากเงินตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-30 เม.ย.2552 นี้ ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายมีเงินฝากจากแคมเปญนี้ 15,000-20,000 ล้านบาท