ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.เอ็มเอฟซี จ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี ในอัตราหน่วยลงทุน 0.30 บาท จากผลการดำเนินงานรอบ วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 28 กุมภาพันธ์ 2552 ผู้ถือหน่วยเฮรับ 7 เมษายนนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี (MNIT) มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 28 กุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย และได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 19 มีนาคม 2552 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 เมษายน 2552
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของกองทุน ที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ บวก/หักกำไรหรือขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น (แล้วแต่กรณี) ของโครงการในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล และไม่น้อยกว่าร้อยละ 90ของกำไรสุทธิประจำปี หรืออาจพิจารณาจ่ายจากกำไรสะสมนั้น
ก่อนหน้านี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้รายงานผลประกอบการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 งวดปีที่ 1 ว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 117.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.85 บาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2550 มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 151.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.10 บาท
โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของกองทุนในปี 2551 ลดลงนั้น เนื่องจากกองทุนมีรายได้จากการลงทุนสุทธิในปี 2551 จำนวน 96.24 ล้านบาท และในปี 2550 จำนวน 93.87 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.53 ขณะเดียวกัน กองทุนมีกำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2551 จำนวน 21.00 ล้านบาทและในปี 2550 จำนวน 57.48 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง ลดลงร้อยละ 63.45 ดังนั้น เมื่อรวมผลการดำเนินงานในปี 2551 กองทุนจึงมีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิ จากการดำเนินงาน 117.24 ล้านบาท และในปี 2550 จำนวน 151.34 ล้านบาท และเปลี่ยนแปลงลดลงร้อยละ 22.53 ดังกล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ของเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์โครงการนิชดาธานี ด้วยการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ อาคาร Lakeshore-North (A2) และอาคาร Lakeshore-West (A3) หลังจากนั้นได้เพิ่มทุนด้วยการลงทุนในโครงการบ้านเดี๋ยว 2 โครงการ คือ โครงการ Sunshine Place และ Raintree จำนวน โครงการละ 20 หลัง ในโครงการนิชดาธานีเช่นเดียวกัน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี (MNIT) มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 28 กุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย และได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 19 มีนาคม 2552 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 เมษายน 2552
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของกองทุน ที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ บวก/หักกำไรหรือขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น (แล้วแต่กรณี) ของโครงการในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล และไม่น้อยกว่าร้อยละ 90ของกำไรสุทธิประจำปี หรืออาจพิจารณาจ่ายจากกำไรสะสมนั้น
ก่อนหน้านี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้รายงานผลประกอบการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 งวดปีที่ 1 ว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 117.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.85 บาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2550 มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 151.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.10 บาท
โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของกองทุนในปี 2551 ลดลงนั้น เนื่องจากกองทุนมีรายได้จากการลงทุนสุทธิในปี 2551 จำนวน 96.24 ล้านบาท และในปี 2550 จำนวน 93.87 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.53 ขณะเดียวกัน กองทุนมีกำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2551 จำนวน 21.00 ล้านบาทและในปี 2550 จำนวน 57.48 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง ลดลงร้อยละ 63.45 ดังนั้น เมื่อรวมผลการดำเนินงานในปี 2551 กองทุนจึงมีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิ จากการดำเนินงาน 117.24 ล้านบาท และในปี 2550 จำนวน 151.34 ล้านบาท และเปลี่ยนแปลงลดลงร้อยละ 22.53 ดังกล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ของเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์โครงการนิชดาธานี ด้วยการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ อาคาร Lakeshore-North (A2) และอาคาร Lakeshore-West (A3) หลังจากนั้นได้เพิ่มทุนด้วยการลงทุนในโครงการบ้านเดี๋ยว 2 โครงการ คือ โครงการ Sunshine Place และ Raintree จำนวน โครงการละ 20 หลัง ในโครงการนิชดาธานีเช่นเดียวกัน