เริ่มต้นกันที่ เหตุการณ์บ้านเมืองกันก่อน อย่างที่ทราบกันตั้งแต่เมื่อวานที่ชาวเสื้อแดงทั้งหลายบุกไปชุมนุมถึงทำเนียบรัฐบาล ไม่รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมือจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งๆที่รัฐบาลก็กำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอยู่แท้ๆ ในยามที่เศรษฐกิจกำลังวิกฤตในตอนนี้
ควันหลงจากงานประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม รมต. คลัง กรณ์ จาติกวณิช กลายเป็น ฮีโร่ อีกแล้ว หลังจากความพยายามเพิ่มเงินทุนกองทุนป้องกันค่าเงินภูมิภาคของข้อริเริ่มเชียงใหม่( Chiang Mai Initiative) ทำท่าจะเหลวก่อนงานจะเริ่มเพราะประเทศคู่สัญญาทำท่าจะเบี้ยว...งานนี้ "คุณกรณ์" ใช้ขายาวอันมีชื่อแห่งกระทรวงการคลังกระโดดไปซอกซอนเจรจากับคู่เจรจาหลักๆที่เคยคุ้นเคยกันมาสมัยทำงานภาคเอกชนมาก่อนดันให้งานประชุมรมต.เศรษฐกิจอาเซี่ยนครั้งนี้มีผลงานโบว์แดงชิ้นโตมีเป้าที่จะเพิ่มเงินกองทุนได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เต็มๆ แบบนี้เลยชื่นมื่นกันถ้วนหน้า
วันนี้ (25 ก.พ.) แล้วที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน...ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ รวมถึงผู้จัดการกองทุน ต่างมองเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 0.50% อย่างแน่นอน...พร้อมกับเสริมด้วยว่า มาตรการลดดอกเบี้ยในช่วงนี้ อาจจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากอย่างช่วงที่ผ่านมาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะบรรดาธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ ยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ เห็นแต่ลดดอกเบี้ยเงินฝากเท่านั้น...ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น วันนี้ คงได้รู้กัน...
มากันที่ข่าวในแวดวง บลจ. กันสิว่ามีอะไรกันบ้าง...หายหน้าหายตาไปนานกับน้องใหม่อย่าง บลจ.ฟิลลิป วานนี้ถือฤกษ์เดือนแห่งความรัก จัดแถลงข่าวแนวทางการลงทุนของบริษัท"ลงทุนอย่างไรให้ได้กำไรสูงสุดภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ"งานนี้ ผู้บริหารหนุ่มอย่งคุณ"วรรธนะ วงศ์ศรีนิล" ออกมาพูดถึงวิสัยทัศน์ด้านการลงทุน ทั้ง พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ และพันธบัตรนิวซีแลนด์ ให้นักข่าวฟังกันอย่างละเอียด...งานนี้นอกจากพูดถึงแนวทางการลงทุนแล้ว นักข่าวหลายคนยังได้รับปริญญาเอกกันเป็นแถว...แบบนี้ สงสัยคงเลิกทำข่าวไปนั่งสอนในมหาลัยกันเป็นแถบ จากปริญญาเอกแห่งบลจ.ฟิลลิป...เอาเแซวกันเล่น
แต่จะให้ดีเอาเป็นว่าจัดงานแถลงกันทุกไตรมาสไปเลย เพราะข่าวคราวจะได้มีให้ทราบกันต่อเนื่อง เอาแบบให้เขารู้ไปเลยว่า ถึงน้องใหม่ก็ยังแจ๋ว "ถ้าคุณแน่อย่าแพ้น้องใหม่เด้อค่ะ" เขากระซิบมาแบบนั้น...
ต่อด้วยข่าวจาก บลจ. กรุงไทย สบจังหวะที่ดีออกขายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน21 อายุโครงการ 6 เดือน ในระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคมนี้...ซึ่งกองทุนนี้ ก็ยังเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีต่อเนื่องใคร...สนใจก็สิบถามไปยัง บลจ.กรุงไทย ได้นะครับ
สถานการณ์ของวิกฤตการเงินนั้น ถือรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด ผลจากความไม่มั่นใจดังกล่าว ส่งผลให้มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนกองทุนในต่างประเทศมากขึ้น จนถึงขั้นต้องปิดกองทุนไป...ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับกองทุนหลักที่กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ของ พี่ตู่ -วรวรรณ ธาราภูมิ แห่งบลจ.บัวหลวงเข้าไปลงทุนด้วยเช่นกัน...ผลดังกล่าวทำให้กองทุนนี้ ต้องปิดด้วยไปโดยปริยาย...ต้องบอกว่า นี่เป็นผลกระทบจากวิกฤตจริงๆ...
ด้านคุณนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี ระบุว่าสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งให้ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคทั้งระบบเติบโตไม่มากนัก แต่บริษัทฯ ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 520 ล้านบาท รายได้รวม 12,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ด้วยฐานสมาชิกรวมกว่า 2.19 ล้านบัญชี พอร์ตลูกหนี้สุทธิเท่ากับ 48,661 ล้านบาท...ส่วนทิศทางธุรกิจปี 2552 ยังเน้นการสานต่อนโยบายเข้มในการบริหารลูกหนี้เติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป พร้อมทั้งใช้ กลยุทธ์การตลาดเข้าถึงลูกค้าแบบตัวต่อตัว เพิ่มฐานลูกค้าระดับบนมากขึ้น...ต้นกล้า
ควันหลงจากงานประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม รมต. คลัง กรณ์ จาติกวณิช กลายเป็น ฮีโร่ อีกแล้ว หลังจากความพยายามเพิ่มเงินทุนกองทุนป้องกันค่าเงินภูมิภาคของข้อริเริ่มเชียงใหม่( Chiang Mai Initiative) ทำท่าจะเหลวก่อนงานจะเริ่มเพราะประเทศคู่สัญญาทำท่าจะเบี้ยว...งานนี้ "คุณกรณ์" ใช้ขายาวอันมีชื่อแห่งกระทรวงการคลังกระโดดไปซอกซอนเจรจากับคู่เจรจาหลักๆที่เคยคุ้นเคยกันมาสมัยทำงานภาคเอกชนมาก่อนดันให้งานประชุมรมต.เศรษฐกิจอาเซี่ยนครั้งนี้มีผลงานโบว์แดงชิ้นโตมีเป้าที่จะเพิ่มเงินกองทุนได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เต็มๆ แบบนี้เลยชื่นมื่นกันถ้วนหน้า
วันนี้ (25 ก.พ.) แล้วที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน...ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ รวมถึงผู้จัดการกองทุน ต่างมองเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 0.50% อย่างแน่นอน...พร้อมกับเสริมด้วยว่า มาตรการลดดอกเบี้ยในช่วงนี้ อาจจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากอย่างช่วงที่ผ่านมาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะบรรดาธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ ยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ เห็นแต่ลดดอกเบี้ยเงินฝากเท่านั้น...ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น วันนี้ คงได้รู้กัน...
มากันที่ข่าวในแวดวง บลจ. กันสิว่ามีอะไรกันบ้าง...หายหน้าหายตาไปนานกับน้องใหม่อย่าง บลจ.ฟิลลิป วานนี้ถือฤกษ์เดือนแห่งความรัก จัดแถลงข่าวแนวทางการลงทุนของบริษัท"ลงทุนอย่างไรให้ได้กำไรสูงสุดภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ"งานนี้ ผู้บริหารหนุ่มอย่งคุณ"วรรธนะ วงศ์ศรีนิล" ออกมาพูดถึงวิสัยทัศน์ด้านการลงทุน ทั้ง พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ และพันธบัตรนิวซีแลนด์ ให้นักข่าวฟังกันอย่างละเอียด...งานนี้นอกจากพูดถึงแนวทางการลงทุนแล้ว นักข่าวหลายคนยังได้รับปริญญาเอกกันเป็นแถว...แบบนี้ สงสัยคงเลิกทำข่าวไปนั่งสอนในมหาลัยกันเป็นแถบ จากปริญญาเอกแห่งบลจ.ฟิลลิป...เอาเแซวกันเล่น
แต่จะให้ดีเอาเป็นว่าจัดงานแถลงกันทุกไตรมาสไปเลย เพราะข่าวคราวจะได้มีให้ทราบกันต่อเนื่อง เอาแบบให้เขารู้ไปเลยว่า ถึงน้องใหม่ก็ยังแจ๋ว "ถ้าคุณแน่อย่าแพ้น้องใหม่เด้อค่ะ" เขากระซิบมาแบบนั้น...
ต่อด้วยข่าวจาก บลจ. กรุงไทย สบจังหวะที่ดีออกขายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน21 อายุโครงการ 6 เดือน ในระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคมนี้...ซึ่งกองทุนนี้ ก็ยังเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีต่อเนื่องใคร...สนใจก็สิบถามไปยัง บลจ.กรุงไทย ได้นะครับ
สถานการณ์ของวิกฤตการเงินนั้น ถือรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด ผลจากความไม่มั่นใจดังกล่าว ส่งผลให้มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนกองทุนในต่างประเทศมากขึ้น จนถึงขั้นต้องปิดกองทุนไป...ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับกองทุนหลักที่กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ของ พี่ตู่ -วรวรรณ ธาราภูมิ แห่งบลจ.บัวหลวงเข้าไปลงทุนด้วยเช่นกัน...ผลดังกล่าวทำให้กองทุนนี้ ต้องปิดด้วยไปโดยปริยาย...ต้องบอกว่า นี่เป็นผลกระทบจากวิกฤตจริงๆ...
ด้านคุณนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี ระบุว่าสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งให้ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคทั้งระบบเติบโตไม่มากนัก แต่บริษัทฯ ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 520 ล้านบาท รายได้รวม 12,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ด้วยฐานสมาชิกรวมกว่า 2.19 ล้านบัญชี พอร์ตลูกหนี้สุทธิเท่ากับ 48,661 ล้านบาท...ส่วนทิศทางธุรกิจปี 2552 ยังเน้นการสานต่อนโยบายเข้มในการบริหารลูกหนี้เติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป พร้อมทั้งใช้ กลยุทธ์การตลาดเข้าถึงลูกค้าแบบตัวต่อตัว เพิ่มฐานลูกค้าระดับบนมากขึ้น...ต้นกล้า
