ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.ธนชาต มองการแข่งขันกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลยังคงคึกคัก ถึงแม้เศรษฐกิจซบเซา เตรียมขยายฐานลูกค้าผ่านแบงก์แม่-ตัวแทนจำหน่าย พร้อมผลิตโปรดักซ์ที่ถนัดให้ตรงกับสถานการณ์
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โอกาสในการลงทุนของปีนี้ไม่ง่ายเหมือนปีที่ผ่านมามากนัก ดังนั้น ผู้จัดการกองทุนเองจะต้องทำงานหนักกว่าแต่เดิมเพื่อทำการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตรงใจนักลงทุนให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการแข่งขันตลาดกองทุนรวมยังคงมีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากว่าหลาย ๆ บลจ.ต้องทำงานแข่งกันอย่างดุเดือด ในส่วนของ บลจ. ธนชาต เป็นบริษัทค่อนข้างเล็ก ดังนั้นการลงทุนในปีนี้ค่อนข้างเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดย บลจ. ธนชาต จะเน้นออกกองทุนที่คิดว่ามีความถนัดและชำนาญ รวมถึงให้ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงด้วย เพื่อที่ว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้
ทั้งนี้ ในส่วนของการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลขณะนี้บริษัทมองว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นยังไม่เอื้อต่อการเข้าไปลงทุนมากนัก เนื่องจากว่าสถานการณ์การลงทุนยังมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นการลงทุนของทั้ง 2 กองทุนยังคงต้องรอดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมด้วย โดยปัจจุบัน บลจ.ธนชาต มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 มกราคม 2552 อยู่ที่ 3,993.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5.07% โดยมีจำนวนกองทุนทั้งสิ้น 22 กองทุน
ขณะที่กองทุนส่วนบุคคล มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 1,490.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 1.89% โดยมีจำนวนกองทุนทั้งสิ้น 22 กองทุนเช่นกัน ซึ่งถือว่า บลจ.ธนชาตยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนักหรือมีขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งถ้าเทียบกับ บลจ. ใหญ่ ๆ แล้วจะมีเอ็นเอวีอยู่ประมาณกองทุนละ 40,000 กว่าล้านบาท
นายบุญชัย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 80,000 - 100,000 กว่าบัญชี โดยในปีนี้บริษัทจะขยายฐานลูกค้ารายย่อยผ่านทางธนาคารธนชาต (แบงก์แม่) เป็นหลัก รวมถึง บลจ. ธนชาต ยังจะประชาสัมพันธ์และทำการตลาดควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีตัวแทนจำหน่าย ที่จะทำการประชาสัมพันธ์กองทุนใหม่ ๆ รวมถึงกองทุนรวมโลโอเวอร์ด้วย
"สำหรับกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เราคงทำการตลาดแบบที่เราถนัดและชำนาญมากกว่ามากกว่าที่จะไปแข่งขันกับบลจ.ใหญ่ที่มีฐานลูกค้ามาก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทเองก็ยังจะทำการตลาดประชาสัมพันธ์กองทุนโดยผ่านธนาคารธนชาต (แบงก์แม่) รวมถึง บลจ.ธนชาต และเซลลิ้งเอเจนท์ ด้วย" นายบุญชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นกู้จำนวน 3 กองทุน และมีนักลงทุนให้การตอบรับเป็นจำนวนมาก เพราะระหว่างการเปิดขายนั้นสามารถปิดการขายได้ภายในวันเดียว อีกทั้งขนาดของกองทุนเองยังมีขนาดไม่ใหญ่มากนักประมาณ 400 - 500 ล้านบาทเท่านั้น
โดยในปีนี้บริษัทจะเน้นออกกองทุนตราสารหนี้ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตลอดทั้งปีนั้นจะออกเป็นจำนวนกี่กองทุน เนื่องจากว่าจะรอประเมินสถานการณ์ในการออกกองทุนแต่ละครั้งด้วย เพราะถ้าบริษัทไม่มั่นใจและคิดว่าถ้าออกมาจะไม่สามารถให้ผลตอแทนที่ดีได้แก่นักลงทุนก็จะยังไม่ออก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลงทุนในปีนี้จะไม่ค่อยมีความคึกคักเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเม็ดเงินใหม่ ๆ ที่จะเข้ามานั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ส่งผลให้บริษัทต้องมีการระมัดระวังในการออกกองทุนให้มากที่สุด