ASTVผู้จัดการรายวัน-สปส.รับเละรายได้พุ่งสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ กำไรการลงทุนปี 51 กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท พร้อมแจงผลตอบแทนจากพันธบัตรและหุ้นกู้อย่างเดียวสูงเกือบ 2.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่พอร์ตหุ้นรับเบาะๆ 2.4 พันล้านบาท เลขาธิการกองทุนฯ ระบุปีหมูบ้าเน้นลงทุนความเสี่ยงต่ำ 85% ส่วนตราสารทุนตั้งเป้าไม่เกิน 10% ของเงินลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยรายงานผลการดำเนินงานในปี 2551 โดยระบุว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันจะเกิดวิกฤตและตลาดการเงินทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีความผันผวนมาก กองทุนประกันสังคมกลับได้รับประโยชน์เพราะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มั่นคงสูงมาก เน้นการลงทุนระยะยาว การรักษาวินัยการลงทุนอย่างเคร่งครัด และการหารายได้เพื่อรองรับภาระการจ่ายบำเหน็จบำนาญให้กับผู้ประกันตนที่จะเกษียณในอนาคต
สำหรับปี พ.ศ. 2551 กองทุนประกันสังคมมีรายรับจากการลงทุนจำนวน 24,475 ล้านบาท ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับจากพันธบัตรและหุ้นกู้ จำนวน 22,012 ล้านบาท เงินปันผลและกำไรจากการขายหลักทรัพย์จำนวน 2,463 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน ซึ่งกองทุนมีรายรับจำนวน 21,109 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่ สปส.รับผิดชอบการบริหารกองทุน ได้สร้างผลกำไรสะสมจากการลงทุนมากกว่า 138,000 ล้านบาท ทำให้กองทุนมั่นคงมากขึ้น สามารถรองรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า แผนการลงทุนของสปส.ในปีจะเน้นด้านความมั่นคงเป็นหลัก โดยเฉพาะในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ และจะมีเม็ดเงินลงทุนรวม 1.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 85% และหุ้นอีก 10% ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนแผนงานเพิ่มเติมในปีนี้ คณะกรรมการกองทุนได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการลงทุนทางเลือกขึ้น เพื่อพิจารณาการลงทุนในด้านอื่นๆ ที่ทางกองทุนยังไม่มีการลงทุน เช่น หุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างวางหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม
“การลงทุนทางเลือกใหม่คณะอนุกรรมการจะศึกษาก่อน โดยที่ผ่านมากบข.เองก็มีการลงทุนในรูปแบบนี้ ซึ่งในอนาคตสัดส่วนเงินลงทุนที่วางแผนในเป็นแกนหลักอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมได้ หากมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนเกิดขึ้นกับการลงทุนทางเลือก”นายปั้นกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนในต่างประเทศ ในปีนี้ ทางคณะอนุกรรมการอีกชุดจะเป็นผู้ดูแล ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการลงทุนรวมทั้งประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีนี้วงเงินจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับอนุมัติเพื่อนำไปลงทุนในต่างประเทศ คาดว่าจะต้องมีการชะลอออกไปก่อน เนื่องจากจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนทำการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ส่วนการคัดเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ให้เข้ามาบริหารเม็ดเงินการลงทุนในต่างประเทศนั้น จะต้องมีการคัดเลือกใหม่ โดยทุกบลจ.มีโอกาสได้รับคัดเลือกหากผ่านเกณฑ์ที่ทางกองทุนประกันสังคมต้องการ
สำหรับ บลจ. ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแลการลงทุนในต่างประเทศให้แก่กองทุนประกันสังคม(สปส.) จำนวน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมาประกอบด้วย บลจ.กสิกรไทย บลจ.บัวหลวง บลจ.วรรณ และบลจ.ธนชาต
โดยทั้ง 4 บริษัทจะมีนโยบายการลงทุนในแนวทางเดียวกันคือ จะลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้เอกชนที่มีอันดับเครดิตในระดับ Investment Grade คือมีอันดับเครดิตไม่ต่ำกว่า BBB โดยจะกระจายลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกวัดผลการดำเนินงานเทียบกับดัชนี Lehman Global Aggregate Index และให้มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเคร่งครัด
