บลจ. ซีมิโก้ เล็งส่งกองทุนลุยตลาดมากขึ้น หวังเป็นทางเลือกให้นักลงทุนช่วงเศรษฐกิจมีความไม่นอน ล่าสุด ชง"ซีมีโก้ตราสารหนี้ 6M3" เอาใจลูกค้าความเสี่ยงต่ำหวังผลตอบแทนดี เน้นลงทุนบอนด์ภาครัฐ-เอกชนคุณภาพดี ชูผลตอบแทน 3-3.2% ต่อปี เปิดขายต้อนรับวาเลนไทน์ 10 -18 กุมภาพันธ์นี้
นายอิฐบูรณ์ เจนชัยจิตรวนิช เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขายและบริการลูกค้า เปิดเผยว่า ในปีนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างระมัดระวังต่อการลงทุนเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็มีการตัดสินใจมากกว่าแต่ก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากนักลงทุนกลัวว่า ลงทุนไปแล้วจะขาดทุนนั่นเอง ซึ่งความกังวลดังกล่าว เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเองก็ยังคงมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงมากนักแต่ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลายในการลงทุนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การออกกองทุนขณะนี้ ยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารถึงความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อให้การออกกองทุนตรงกับความต้องการของนักลงทุนมากที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดด้วย
ล่าสุด บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้ 6M3 (S-FI 6M3) เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวถือว่าเป็นกองทุนแรกของบลจ.ซีมิโก้ ที่เปิดขายในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มเปิดขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 10 - 18 กุมภาพันธ์ 2552 โดยกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 3 - 3.2% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้ 6M3 มีอายุโครงการไม่เกิน 1 ปี มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเป็นการลงทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจไถ่ถอนการลงทุนหรือลงทุนต่อได้ทุก ๆ ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือเอกชนที่มีคุณภาพหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่มีการจ่ายเงินปันผล แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหน่วยลงทุน (Capital gain) อันเนื่องมาจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหลักทรัพย์ที่ลงทุน โดยจะได้รับเมื่อขายคืนหน่วยลงทุน ส่วนความเสี่ยงของกองทุนนี้ อยู่ที่เงินลงทุนของผู้ลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ออกตราสาร หรือสภาพคล่องของตลาดและภาวะตลาดในประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดในประเทศ หรือภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ตลาดเงิน และตลาดทุนในประเทศ
สำหรับกองทุน S-FI 6M3 จะเปรียบเทียบกับผลตอบแทนกับค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน และอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ภาคเอกชนอายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน ทั้งนี้จะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบก่อนการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก
นายอิฐบูรณ์ เจนชัยจิตรวนิช เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขายและบริการลูกค้า เปิดเผยว่า ในปีนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างระมัดระวังต่อการลงทุนเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็มีการตัดสินใจมากกว่าแต่ก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากนักลงทุนกลัวว่า ลงทุนไปแล้วจะขาดทุนนั่นเอง ซึ่งความกังวลดังกล่าว เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเองก็ยังคงมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงมากนักแต่ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี
โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลายในการลงทุนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การออกกองทุนขณะนี้ ยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารถึงความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อให้การออกกองทุนตรงกับความต้องการของนักลงทุนมากที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดด้วย
ล่าสุด บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้ 6M3 (S-FI 6M3) เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวถือว่าเป็นกองทุนแรกของบลจ.ซีมิโก้ ที่เปิดขายในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มเปิดขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 10 - 18 กุมภาพันธ์ 2552 โดยกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 3 - 3.2% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้ 6M3 มีอายุโครงการไม่เกิน 1 ปี มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเป็นการลงทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจไถ่ถอนการลงทุนหรือลงทุนต่อได้ทุก ๆ ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือเอกชนที่มีคุณภาพหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่มีการจ่ายเงินปันผล แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหน่วยลงทุน (Capital gain) อันเนื่องมาจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหลักทรัพย์ที่ลงทุน โดยจะได้รับเมื่อขายคืนหน่วยลงทุน ส่วนความเสี่ยงของกองทุนนี้ อยู่ที่เงินลงทุนของผู้ลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ออกตราสาร หรือสภาพคล่องของตลาดและภาวะตลาดในประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดในประเทศ หรือภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ตลาดเงิน และตลาดทุนในประเทศ
สำหรับกองทุน S-FI 6M3 จะเปรียบเทียบกับผลตอบแทนกับค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน และอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ภาคเอกชนอายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน ทั้งนี้จะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบก่อนการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก
