หากคนเรามีความสามารถ คำว่า “ความสามารถไม่มีวันเกษียณ” จึงเป็นความจริงที่สุด นั่นหมายถึงการที่เราสามารถดำเนินการอะไรเพื่อสร้างผลผลิตออกมาได้ด้วยตนเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเป็นลูกจ้าง หรือรับจ้างทำหน้าที่อะไรสักอย่าง ก็ต้องพบกับระเบียบที่ว่า กำหนดเกษียณอายุคือ 55 ปี 60 ปี หรือ 70 ปี แล้วแต่ว่า หน่วยงานแต่ละแห่งจะกำหนดอย่างไร
ในทางกลับกัน ความสามารถส่วนตัว ที่เราจะใช้ในการสร้างอาชีพ จึงเป็นเรื่องที่เราจะได้ประโยชน์ คนรุ่นใหม่ อาจใช้แนวคิดนี้เพื่อตัดสินใจว่า เราจะก้าวสู่การรับจ้าง หรือเป็นนายของตัวเอง ประกอบกิจการของตนเอง หรือแม้แต่คนรุ่นปัจจุบันที่ค้นพบแล้วว่า เรามีความสามารถที่จะใช้สร้างผลผลิตได้ด้วยตัวของเราเองก็สามรถเลือกที่จะออกมาจากระบบงานประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง กำลังซื้อของคนมีอยู่มากมาย
ประการสำคัญคือ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร อย่างไร จำเป็นต้องไม่ลืมความสำคัญว่า “เงินทองเป็นของหายาก” เมื่อได้มาแล้วอย่าลืมความสำคัญของการออม อย่าผัดวันประกันพรุ่ง และการมีวินัย และความอดทน รอคอย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราออกมาทำงานด้วยตัวเอง หรือเป็นเจ้าของกิจการเอง ไม่ว่าขนาดเล็ก หรือใหญ่ก็ตาม ต้องไม่ลืมเรื่อง “การจัดสำรับการลงทุน” ให้สอดคล้องกับตัวเราเองด้วย ต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงความเสี่ยงที่มี ความเสี่ยงที่ตัวเราเองรับได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า เงิน 1 บาทที่เก็บไว้ก็คือเงิน 1 บาทที่เราหาได้ และการเก็บเงิน 1 บาทได้ก็เท่ากับว่า เราไม่ต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ได้เงินมาอีก 1 บาท และถ้าเราเก็บเงินได้มากขึ้น ก็เท่ากับว่าการทำงานของเราคุ้มค่าไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงินแล้ว หาเงินอีก
สำหรับการบริหารเงินก็ต้องมีหลายบัญชี ได้แก่ บัญชีสำหรับใช้จ่ายทั่วไป โดยใช้ฝากเงินเดือน หรือรายได้ทั้งหมดที่ได้รับมา ซึ่งควรเป็นบัญชีประเภทออมทรัพย์ เพราะว่าเราสามารถถอนออกมาใช้เมื่อไรก็ได้ บัญชีสำหรับอนาคต โดยคุณต้องหักเงิน 10% ของเงินเดือน หรืออาจมากกว่าเพื่อเก็บไว้ในบัญชีนี้ แต่อย่าลืมว่าต้องไม่ถอนเงินออกมาใช้อย่างเด็ดขาด ซึ่งบัญชีนี้ควรเป็นแบบฝากประจำระยะยาว เพราะว่าคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกจึงได้มากกว่าแบบออมทรัพย์ และยังป้องกันไม่ให้เราถอนเงินออกมาใช้อีกด้วยค่ะ และอีกบัญชีก็เป็น บัญชีเพื่อการลงทุน เป็นบัญชีที่เราควรฝากเงินไปเรื่อยๆ จนได้เงินก้อนหนึ่ง แล้วค่อยถอนเงินออกมาเพื่อนำไปลงทุน ในตราสารต่างๆ เช่น ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ เล่นหุ้น เพื่อให้เงินงอกเงยนั่นเอง
ความสามารถไม่มีวันเกษียณ ดังนั้น การบริหารเงินให้เรามีความมั่นคงไปตลอดจึงเป็นสิ่งที่ต้องไม่มีวันเกษียณเช่นกัน
ในทางกลับกัน ความสามารถส่วนตัว ที่เราจะใช้ในการสร้างอาชีพ จึงเป็นเรื่องที่เราจะได้ประโยชน์ คนรุ่นใหม่ อาจใช้แนวคิดนี้เพื่อตัดสินใจว่า เราจะก้าวสู่การรับจ้าง หรือเป็นนายของตัวเอง ประกอบกิจการของตนเอง หรือแม้แต่คนรุ่นปัจจุบันที่ค้นพบแล้วว่า เรามีความสามารถที่จะใช้สร้างผลผลิตได้ด้วยตัวของเราเองก็สามรถเลือกที่จะออกมาจากระบบงานประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง กำลังซื้อของคนมีอยู่มากมาย
ประการสำคัญคือ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร อย่างไร จำเป็นต้องไม่ลืมความสำคัญว่า “เงินทองเป็นของหายาก” เมื่อได้มาแล้วอย่าลืมความสำคัญของการออม อย่าผัดวันประกันพรุ่ง และการมีวินัย และความอดทน รอคอย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราออกมาทำงานด้วยตัวเอง หรือเป็นเจ้าของกิจการเอง ไม่ว่าขนาดเล็ก หรือใหญ่ก็ตาม ต้องไม่ลืมเรื่อง “การจัดสำรับการลงทุน” ให้สอดคล้องกับตัวเราเองด้วย ต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงความเสี่ยงที่มี ความเสี่ยงที่ตัวเราเองรับได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า เงิน 1 บาทที่เก็บไว้ก็คือเงิน 1 บาทที่เราหาได้ และการเก็บเงิน 1 บาทได้ก็เท่ากับว่า เราไม่ต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ได้เงินมาอีก 1 บาท และถ้าเราเก็บเงินได้มากขึ้น ก็เท่ากับว่าการทำงานของเราคุ้มค่าไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงินแล้ว หาเงินอีก
สำหรับการบริหารเงินก็ต้องมีหลายบัญชี ได้แก่ บัญชีสำหรับใช้จ่ายทั่วไป โดยใช้ฝากเงินเดือน หรือรายได้ทั้งหมดที่ได้รับมา ซึ่งควรเป็นบัญชีประเภทออมทรัพย์ เพราะว่าเราสามารถถอนออกมาใช้เมื่อไรก็ได้ บัญชีสำหรับอนาคต โดยคุณต้องหักเงิน 10% ของเงินเดือน หรืออาจมากกว่าเพื่อเก็บไว้ในบัญชีนี้ แต่อย่าลืมว่าต้องไม่ถอนเงินออกมาใช้อย่างเด็ดขาด ซึ่งบัญชีนี้ควรเป็นแบบฝากประจำระยะยาว เพราะว่าคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกจึงได้มากกว่าแบบออมทรัพย์ และยังป้องกันไม่ให้เราถอนเงินออกมาใช้อีกด้วยค่ะ และอีกบัญชีก็เป็น บัญชีเพื่อการลงทุน เป็นบัญชีที่เราควรฝากเงินไปเรื่อยๆ จนได้เงินก้อนหนึ่ง แล้วค่อยถอนเงินออกมาเพื่อนำไปลงทุน ในตราสารต่างๆ เช่น ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ เล่นหุ้น เพื่อให้เงินงอกเงยนั่นเอง
ความสามารถไม่มีวันเกษียณ ดังนั้น การบริหารเงินให้เรามีความมั่นคงไปตลอดจึงเป็นสิ่งที่ต้องไม่มีวันเกษียณเช่นกัน