กบข. เตรียมปรับแผนการลงทุนปีฉลู รับมือตลาดการเงินโลกผันผวน เน้นศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ป้องกันและลดความเสี่ยง ดันผลตอบแทนตามกรอบ เผยเตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนทางเลือก ลดลงทุนหุ้น - เน้นความเสี่ยงต่ำ
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ในปี 2552 เชื่อว่าตลาดการเงินโลกจะยังคงมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการลงทุน กบข. จึงได้มีการเตรียมปรับแผนการลงทุน และศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามกรอบนโยบายของคณะกรรมการการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนทางเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวทางการลงทุนทางเลือกที่จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงเศรษฐกิจผันผวนขณะนี้ กบข. ได้พิจารณาแนวทางการลงทุนในนิติบุคคลเอกชน (Private Equity) ต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 3 ของเงินกองทุน และอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศในสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.5 ซึ่งสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุนระยะยาวกับบริษัทที่ปรึกษา ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2552
อย่างไรก็ตาม กบข. ยังคงมองลู่ทางการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยในปี 2552 ได้เตรียมที่จะลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและคาดว่าจะพร้อมลงทุนในช่วงกลางปี 2552 โดยมีเป้าหมายสัดส่วนการลงทุนที่ประมาณร้อยละ 1 ของเงินกองทุน นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาตราสารใหม่ๆ ในประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน เช่น Gold Future ซึ่งตลาดอนุพันธ์จะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายเป็นทางการในช่วงปี 2552 นี้
สำหรับการลงทุนในตราสารทุนภายในประเทศนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 9 ของเงินกองทุน โดยจะพิจารณาลงทุนในบริษัทที่ราคาปัจจุบันลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน บริษัทที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ส่วนการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศนั้น ณ ขณะนี้ กบข. ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
อย่างไรก็ตาม นายวิสิฐกล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ กบข. ปรับแผนการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยเพิ่มความระมัดระวังในการ ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนมากขึ้น และหันมาให้น้ำหนักกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นสำคัญ
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ในปี 2552 เชื่อว่าตลาดการเงินโลกจะยังคงมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการลงทุน กบข. จึงได้มีการเตรียมปรับแผนการลงทุน และศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามกรอบนโยบายของคณะกรรมการการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนทางเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวทางการลงทุนทางเลือกที่จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงเศรษฐกิจผันผวนขณะนี้ กบข. ได้พิจารณาแนวทางการลงทุนในนิติบุคคลเอกชน (Private Equity) ต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 3 ของเงินกองทุน และอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศในสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.5 ซึ่งสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุนระยะยาวกับบริษัทที่ปรึกษา ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2552
อย่างไรก็ตาม กบข. ยังคงมองลู่ทางการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยในปี 2552 ได้เตรียมที่จะลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและคาดว่าจะพร้อมลงทุนในช่วงกลางปี 2552 โดยมีเป้าหมายสัดส่วนการลงทุนที่ประมาณร้อยละ 1 ของเงินกองทุน นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาตราสารใหม่ๆ ในประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน เช่น Gold Future ซึ่งตลาดอนุพันธ์จะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายเป็นทางการในช่วงปี 2552 นี้
สำหรับการลงทุนในตราสารทุนภายในประเทศนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 9 ของเงินกองทุน โดยจะพิจารณาลงทุนในบริษัทที่ราคาปัจจุบันลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน บริษัทที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ส่วนการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศนั้น ณ ขณะนี้ กบข. ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
อย่างไรก็ตาม นายวิสิฐกล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ กบข. ปรับแผนการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยเพิ่มความระมัดระวังในการ ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนมากขึ้น และหันมาให้น้ำหนักกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นสำคัญ
