บลจ.ฟินันซ่าเตรียมออกกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศในปี 2552 อย่างน้อย 2 กองทุน โดยจะเน้นลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน คาดว่าสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณครั้งปีแรกปีนี้ แนะนักลงทุนควรเน้นลงทุนในกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศใน เพื่อกระจายความเสี่ยงไปนอกประเทศ แย้มเตรียมลุยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกด้วย
นายมนต์ชัย จาตุรันต์ภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2552 บริษัทเตรียมออกกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) อย่างน้อย 2 กองทุน พร้อมมองว่านักลงทุนไทยยังควรลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศต่อไป เนื่องจากเป็นการะจายความเสี่ยงออกไปนอกประเทศ เช่น ในปีที่ผ่านมามีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการเมืองไม่นิ่ง หากไปลงทุนในต่างประเทศก็จะไม่ประสบกับปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะไปลงทุนในหุ้นทั่วโลก แต่ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยจะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเจริญเติบโตในช่วง 5 – 10 ปีข้างหน้า โดยที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับลงมามาก จึงทำให้หุ้นหลายตัวมีความน่าสนใจ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทให้ความสนใจคือการลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วโลก เนื่องจากมองว่าในหลายภูมิภาคมีโอกาสจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนโดยภาครัฐในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะสามารถเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ประมาณครึ่งปีแรกของปี 2552
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการออกกองทุนเปิดมาเพิ่มเติมหลายกองทุนด้วยกัน เพื่อรองรับและเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนเปิดฟินันซ่า มันนี่มาร์เก็ตฟันด์ (FAM MM) ซึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว และไม่มีตราสารหนี้ของภาคเอกชนเลย ทำให้ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องเครดิต โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ประมาณ 2 – 3% ส่งผลให้กองทุนของบริษัทมีครบถ้วนแล้ว
นายมนต์ชัย กล่าวว่า บริษัทให้ความสนใจออกกองทุนเปิดที่เน้นลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน ซึ่งจะเป็นการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นให้ความสนใจกระจายการลงทุนไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก ขณะที่กองทุน Global Managed Futures Fund ที่จะเน้นลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์ส (Futures) ที่อ้างอิงกับหุ้น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ในต่างประเทศ ยังอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ก่อนหน้านี้ นายธีระ ภู่ตระกูล กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเลื่อนแผนงานในการออกกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุน Global Thematic Equity Fund ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากกองทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว และจากเดิมคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ได้ประมาณปลายเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากสภาพตลาดมีความผันผวน และไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนแต่อย่างใด โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน พลังงานทดแทน การอุปโภคและบริโภคในภูมิภาคเอเชีย แต่จะไม่เน้นการลงทุนในภูมิภาคใด โดยจะเป็นการกระจายการลงทุนไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก
ส่วนกองทุน Global Managed Futures Fund ที่จะเน้นลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์ส (Futures) ที่อ้างอิงกับหุ้น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ในต่างประเทศ ซึ่งจะลงทุนในกองทุนที่มีการจัดตั้งอยู่แล้ว แต่จะไม่มีการปิดค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทแต่อย่างใด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. และยังติดขัดกฎเกณฑ์บางประการ โดยหาก ก.ล.ต.สามารถแก้ไขกฎเกณฑ์ดังกล่าวภายในไตรมาสแรกปี 2552 คาดว่าจะสามารถออกกองทุนได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 2552
นายมนต์ชัย จาตุรันต์ภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2552 บริษัทเตรียมออกกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) อย่างน้อย 2 กองทุน พร้อมมองว่านักลงทุนไทยยังควรลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศต่อไป เนื่องจากเป็นการะจายความเสี่ยงออกไปนอกประเทศ เช่น ในปีที่ผ่านมามีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการเมืองไม่นิ่ง หากไปลงทุนในต่างประเทศก็จะไม่ประสบกับปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะไปลงทุนในหุ้นทั่วโลก แต่ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยจะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเจริญเติบโตในช่วง 5 – 10 ปีข้างหน้า โดยที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับลงมามาก จึงทำให้หุ้นหลายตัวมีความน่าสนใจ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทให้ความสนใจคือการลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วโลก เนื่องจากมองว่าในหลายภูมิภาคมีโอกาสจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนโดยภาครัฐในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะสามารถเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ประมาณครึ่งปีแรกของปี 2552
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการออกกองทุนเปิดมาเพิ่มเติมหลายกองทุนด้วยกัน เพื่อรองรับและเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนเปิดฟินันซ่า มันนี่มาร์เก็ตฟันด์ (FAM MM) ซึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว และไม่มีตราสารหนี้ของภาคเอกชนเลย ทำให้ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องเครดิต โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ประมาณ 2 – 3% ส่งผลให้กองทุนของบริษัทมีครบถ้วนแล้ว
นายมนต์ชัย กล่าวว่า บริษัทให้ความสนใจออกกองทุนเปิดที่เน้นลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน ซึ่งจะเป็นการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นให้ความสนใจกระจายการลงทุนไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก ขณะที่กองทุน Global Managed Futures Fund ที่จะเน้นลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์ส (Futures) ที่อ้างอิงกับหุ้น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ในต่างประเทศ ยังอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ก่อนหน้านี้ นายธีระ ภู่ตระกูล กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเลื่อนแผนงานในการออกกองทุนที่เน้นไปลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุน Global Thematic Equity Fund ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากกองทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว และจากเดิมคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ได้ประมาณปลายเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากสภาพตลาดมีความผันผวน และไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนแต่อย่างใด โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน พลังงานทดแทน การอุปโภคและบริโภคในภูมิภาคเอเชีย แต่จะไม่เน้นการลงทุนในภูมิภาคใด โดยจะเป็นการกระจายการลงทุนไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก
ส่วนกองทุน Global Managed Futures Fund ที่จะเน้นลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์ส (Futures) ที่อ้างอิงกับหุ้น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ในต่างประเทศ ซึ่งจะลงทุนในกองทุนที่มีการจัดตั้งอยู่แล้ว แต่จะไม่มีการปิดค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทแต่อย่างใด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. และยังติดขัดกฎเกณฑ์บางประการ โดยหาก ก.ล.ต.สามารถแก้ไขกฎเกณฑ์ดังกล่าวภายในไตรมาสแรกปี 2552 คาดว่าจะสามารถออกกองทุนได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 2552