xs
xsm
sm
md
lg

กองตราสารรัฐบูมทั้งอุตสาหกรรม K-TREASURY ปีเดียวโต4หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองตราสารรัฐระยะสั้น K-TREASURY ปีเดียวโตกว่า 4 หมื่นล้าน เหตุนักลงทุนปรับพฤติกรรมหันลงทุนความเสี่ยงต่ำ แต่สภาพคล่องสูง ตะลึงพบกองประเภทเดียวกันทั้งอุตสาหกรรมแห่โตตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว ปีหน้าอาจเห็นกองมันนี่มาร์เก็ตปรับกลยุทธ์เลิกลงบอนด์เอกชนมาก

รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ยอดสินทรัพย์รวมของกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 88,240 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าในช่วงต้นปีที่อยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ถึงกว่าเท่าตัว

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยง และสภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินฝาก โดยมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีอายุไม่มากนัก และนักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวัน

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังมีโครงการที่จะนำกองทุนมันนี่มาร์เก็ต ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอย่าง กองทุนเปิดกสิกรไทยตราสารรัฐระยะสั้นพลัส KTPF ไปเสนอให้กับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการช่องทางการลงทุนที่มีสภาพคล่อง แต่ใกล้เคียงเงินฝากด้วยในอนาคตอีกด้วย

สำหรับกองทุนประเภทนี้ในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมจากนักลงทุนเป็นอย่างมากภายหลัง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนด้านสถานการ์ณการลงทุน โดยนอกจากกองทุน K-TREASURY แล้ว กองทุนลักษณะเดียวกันนี้ของบลจ.อื่นในอุตสาหกรรมยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ กองทุนประเภทเดียวกันที่บริหารงานโดยบลจ.อื่นๆ จะประกอบด้วย กองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์เดลี่ กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น นอกจากนี้ยังกองทุนบริหารเงิน(มันนี่มาร์เก็ต) ซึ่งหันมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของภาครัฐ และงดการลงทุนในตราสารเอกชนในช่วงที่ผ่านมา อย่างกองทุนเปิด ธนชาตตลาดเงิน (T-MONEY) กองทุนเปิด 1AM-DAILY และกองทุนเปิดธนทวี กองทุนเปิด P-cash ของบลจ.ฟิลลิป และ ฯลฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปเหตุผลไปยังผู้จัดการกองทุนประเภทนี้พบว่า พฤติกรรมของนักในช่วงนี้มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยภายหลังจากวิกฤตกสถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกานักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยลงอย่างพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น ทำให้กองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยมควบคู่กันไป

ทั้งนี้ ขยายตัวของกองทุนประเภทนี้นอกจากจะเป็นฐานลูกค้าเงินฝากธนาคารแล้ว ยังมีบางส่วนที่เป็นเม็ดเงินของนักลงทุนในกองโรลโอเวอร์ประเภท 3 เดือนและ 6 เดือน เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำทำให้ผลตอบแทนที่ได้จะใกล้เคียงกันกับกองทุนนี้ แต่มีสภาพคล่องน้อยกว่าทำให้มีการสับเปลี่ยนการลงทุนเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนบางส่วนให้มาใช้กองทุนประเภทนี้เป็นที่พักเงินของนักลงทุนในการ ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะสามารถนำเงินที่ขายหลักทรัพย์เข้ามาพักในกองทุนนี้ แล้วหักเงินจากกองทุนนี้เมื่อต้องการซื้อหลักทรัพย์ที่ต้องการในภายหลัง

โดยแนวโน้มของกองทุนดังกล่าวในปีหน้านั้นคาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากพบว่าบลจ.ส่วนใหญ่ต่างทยอยปรับนโยบายการลงทุนของกองมันนี่มาร์เก็ต ซึ่งจะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นของภาครัฐเป็นหลัก

ซึ่งจากผลการดำเนินงานของกองทุนนี้ พบว่า ผลตอบแทนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีการปรับตัวขึ้นทุกกองทุนโดยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 3% ต่อไป แต่ในอนาคตคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากการแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ที่จะส่งผลให้ผลตอบแทนมีการปรับตัวลดลงตามได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น