ฟิทช์ ประกาศคงจัดอันดับ กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ ที่ ‘AAA(tha)’/‘V1+(tha)’ หลังจากบริหารกองทุนได้คุณภาพเครดิตที่สูงที่สุด พร้อมทั้งนโยบายการลงทุนเข้มงวด และความมั่นคงในการดำรงรักษาเงินลงทุนที่สูงของกองทุนเมื่อเทียบกับกองทุนอื่น
รายงานข่าวจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้คงอันดับกองทุนภายในประเทศ (National Fund Rating) ของกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ (TMBTM) ที่บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/‘V1+(tha)’ อันดับกองทุนดังกล่าวสะท้อนถึง คุณภาพเครดิตที่สูงที่สุด นโยบายการลงทุนที่เข้มงวด และความมั่นคงในการดำรงรักษาเงินลงทุนที่สูงของกองทุนเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆในประเทศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สินทรัพย์ที่ลงทุน การกระจายความเสี่ยง การจัดการลงทุน และความสามารถของบริษัทจัดการกองทุน
วัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ คือการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ การป้องกันการสูญเสียเงินต้นและการดำรงสภาพคล่องในระดับสูง โดยเน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารตลาดเงินที่มีคุณภาพเครดิตสูง โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนจะลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 85 ของสินทรัพย์ทั้งหมดในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกหรือค้ำประกันโดยรัฐบาลหรือธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะเป็นเงินฝากประเภทออมทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์ที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ ‘A(tha)’ ขึ้นไป กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐจะรักษาอายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุน (Weighted Average Maturity – WAM) ให้ไม่เกิน 60 วันและลงทุนในตราสารที่มีอายุเหลืออยู่ไม่เกิน 92 วัน
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548 ที่ฟิทช์เริ่มจัดอันดับกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐเป็นต้นมา กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐได้ลงทุนกว่าร้อยละ 90 ของสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิต ‘AAA(tha)’ ขณะที่สินทรัพย์ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิต ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ เป็นอย่างต่ำ กองทุนได้รักษาระดับอายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุนให้อยู่ในช่วง 40-45 วัน จนกระทั่งระดับอายุถัวเฉลี่ยของตราสารลดลงไปอยู่ที่ต่ำกว่า 20 วันตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551 เป็นต้นมา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าของตราสารระยะสั้น ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2551
กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐมีเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 26.5 พันล้านบาท โดยร้อยละ 94.8 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุนลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทย ร้อยละ 1.4 ลงทุนในตั๋วเงินคลังของรัฐบาล ร้อยละ 5.1 ลงทุนในเงินฝากประเภทออมทรัพย์ในธนาคารที่มีอันดับเครดิตที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือสูงกว่า และส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์อื่นได้แก่ดอกเบี้ยค้างรับ ลูกหนี้และเจ้าหนี้จากการขายและซื้อเงินลงทุน อายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุน ณ เวลาดังกล่าวเท่ากับ 11.4 วัน และผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่สิบอันดับแรกถือหน่วยลงทุนคิดเป็นร้อยละ 18.6 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุน
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินในต่างประเทศในขณะนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ได้ปรับแนวทางปฏิบัติสำหรับการลงทุนเพื่อติดตามความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยคณะกรรมการการลงทุนของบริษัทได้ประชุมกันบ่อยครั้งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมกับพัฒนาการใหม่ๆของตลาดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังพิจารณาความเสี่ยงทางด้านเครดิตจากปัจจัยต่างๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดโอกาสในการสูญเสียเงินต้นของกองทุน แนวโน้มของอุตสาหกรรมแต่ละประเภทได้รับการวิเคราะห์เพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเครดิตของแต่ละบริษัท และบริษัทยังเพิ่มความเข้มงวดในการลงทุนในตราสารที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศหรือสาขาของธนาคารต่างชาติในประเทศไทย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2539 ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการการลงทุน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทในปัจจุบันคือธนาคารทหารไทยซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ 75 ณ เดือนธันวาคม 2551 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 123.6 พันล้านบาท โดยมีกองทุนตราสารหนี้คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด คือร้อยละ 78.8
โดยเกณฑ์ในการจัดอันดับกองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ และ ‘AA(tha)’ ของฟิทช์กำหนดไว้ว่ากองทุนไม่สามารถลงทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าตราสารในประเภท Tier 1 ซึ่งตราสารประเภท Tier 1 ประกอบด้วยตราสารที่ถูกจัดอันดับโดยฟิทช์ที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ ขึ้นไป หรือตราสารที่มีอันดับเครดิตเทียบเท่ากับอันดับเครดิตของฟิทช์ที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ ขึ้นไป อันดับความเสี่ยงของกองทุนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด (Volatility Rating) ที่ระดับ ‘V1+(tha)’ จะให้เฉพาะกองทุนที่ลงทุนในตราสารตลาดเงิน (money market) ที่ไม่มีแนวโน้มของการสูญเงินต้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เอื้อต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก
รายงานข่าวจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้คงอันดับกองทุนภายในประเทศ (National Fund Rating) ของกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ (TMBTM) ที่บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ที่ระดับ ‘AAA(tha)’/‘V1+(tha)’ อันดับกองทุนดังกล่าวสะท้อนถึง คุณภาพเครดิตที่สูงที่สุด นโยบายการลงทุนที่เข้มงวด และความมั่นคงในการดำรงรักษาเงินลงทุนที่สูงของกองทุนเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆในประเทศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สินทรัพย์ที่ลงทุน การกระจายความเสี่ยง การจัดการลงทุน และความสามารถของบริษัทจัดการกองทุน
วัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ คือการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ การป้องกันการสูญเสียเงินต้นและการดำรงสภาพคล่องในระดับสูง โดยเน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารตลาดเงินที่มีคุณภาพเครดิตสูง โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนจะลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 85 ของสินทรัพย์ทั้งหมดในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกหรือค้ำประกันโดยรัฐบาลหรือธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะเป็นเงินฝากประเภทออมทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์ที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ ‘A(tha)’ ขึ้นไป กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐจะรักษาอายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุน (Weighted Average Maturity – WAM) ให้ไม่เกิน 60 วันและลงทุนในตราสารที่มีอายุเหลืออยู่ไม่เกิน 92 วัน
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548 ที่ฟิทช์เริ่มจัดอันดับกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐเป็นต้นมา กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐได้ลงทุนกว่าร้อยละ 90 ของสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิต ‘AAA(tha)’ ขณะที่สินทรัพย์ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิต ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ เป็นอย่างต่ำ กองทุนได้รักษาระดับอายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุนให้อยู่ในช่วง 40-45 วัน จนกระทั่งระดับอายุถัวเฉลี่ยของตราสารลดลงไปอยู่ที่ต่ำกว่า 20 วันตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551 เป็นต้นมา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าของตราสารระยะสั้น ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2551
กองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐมีเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 26.5 พันล้านบาท โดยร้อยละ 94.8 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุนลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทย ร้อยละ 1.4 ลงทุนในตั๋วเงินคลังของรัฐบาล ร้อยละ 5.1 ลงทุนในเงินฝากประเภทออมทรัพย์ในธนาคารที่มีอันดับเครดิตที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือสูงกว่า และส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์อื่นได้แก่ดอกเบี้ยค้างรับ ลูกหนี้และเจ้าหนี้จากการขายและซื้อเงินลงทุน อายุถัวเฉลี่ยของตราสารของกองทุน ณ เวลาดังกล่าวเท่ากับ 11.4 วัน และผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่สิบอันดับแรกถือหน่วยลงทุนคิดเป็นร้อยละ 18.6 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุน
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินในต่างประเทศในขณะนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ได้ปรับแนวทางปฏิบัติสำหรับการลงทุนเพื่อติดตามความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยคณะกรรมการการลงทุนของบริษัทได้ประชุมกันบ่อยครั้งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมกับพัฒนาการใหม่ๆของตลาดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังพิจารณาความเสี่ยงทางด้านเครดิตจากปัจจัยต่างๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดโอกาสในการสูญเสียเงินต้นของกองทุน แนวโน้มของอุตสาหกรรมแต่ละประเภทได้รับการวิเคราะห์เพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเครดิตของแต่ละบริษัท และบริษัทยังเพิ่มความเข้มงวดในการลงทุนในตราสารที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศหรือสาขาของธนาคารต่างชาติในประเทศไทย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2539 ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการการลงทุน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทในปัจจุบันคือธนาคารทหารไทยซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ 75 ณ เดือนธันวาคม 2551 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 123.6 พันล้านบาท โดยมีกองทุนตราสารหนี้คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด คือร้อยละ 78.8
โดยเกณฑ์ในการจัดอันดับกองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ และ ‘AA(tha)’ ของฟิทช์กำหนดไว้ว่ากองทุนไม่สามารถลงทุนในตราสารที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าตราสารในประเภท Tier 1 ซึ่งตราสารประเภท Tier 1 ประกอบด้วยตราสารที่ถูกจัดอันดับโดยฟิทช์ที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ ขึ้นไป หรือตราสารที่มีอันดับเครดิตเทียบเท่ากับอันดับเครดิตของฟิทช์ที่ระดับ ‘A(tha)’ หรือ ‘F1(tha)’ ขึ้นไป อันดับความเสี่ยงของกองทุนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด (Volatility Rating) ที่ระดับ ‘V1+(tha)’ จะให้เฉพาะกองทุนที่ลงทุนในตราสารตลาดเงิน (money market) ที่ไม่มีแนวโน้มของการสูญเงินต้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เอื้อต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก
