ASTVผู้จัดการรายวัน- ผู้บริหารบลจ.อยุธยาเชื่อสิ้นปีนี้ตลาดหุ้นอาจดีดตัวขึ้น เหตุปัญหาการเมืองคลี่คลายลงเเละนักลงทุนเข้ามาซื้อLTFเเละRMF ปลายปี พร้อมทั้งมองเทรนด์กองทุนผสมจะได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากขึ้น ส่วน"กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30" ซิวเเชมป์ผลตอบเเทนกองทุนหุ้นที่ดีที่สุด โดยมีผลผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่-23.14% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานSETอยู่ที่ -41.29%
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือ เอวายเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนโยกเงินบางส่วนที่ลงทุนในหุ้นเริ่มกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้บางเเล้วเช่นกันเพื่อรอจังหวะกลับเข้ามาช้อนหุ้น เพื่อสร้างผลตอบเเทนที่มากกว่าลงทุนในหุ้นทั้งหมดในช่วงนี้ ซึ่งทำให้กองทุนผสมระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในช่วงตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยก่อนหน้านี้กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ได้มีการชะลอการลงทุนในหุ้นไปบ้างแล้ว เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
"เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลือนี้ ตลาดหุ้นน่าจะดีดตัวขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการซื้อขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)เเละกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่นักลงทุนจะนิยมซื้อในช่วงปลายปี ประกอบกับปัญหาการเมืองน่าจะคลี่คลายลง ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น หลังจากที่รอดูสถานการณ์อยู่" ประภาส กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหุ้น ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ากองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีที่สุดอยู่ในอันดับ1 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -23.14% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -41.29% พบว่าติดลบน้อยกว่าถึง 18.15% นอกจากนี้ผลการตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่- 29.26% สูงกว่าเกณฑ์มาตฐานถึง 22.54% โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือน อยู่ที่ -51.80%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -23.36% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 17.39% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -29.68% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือนถึง 22.12% ส่วนอันดับที่ 3 คือ กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล 70/30 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -25.51% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 15.78% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -34.26% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 17.54%
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -30.00% ติดลบน้อยกว่า 11.39% ซึ่งผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -37.65% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 13.15% ส่วนกองทุนอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง -30.47%สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 10.79% โดยมีผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -37.76% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง14.04% ส่วนกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวปันผล มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -31.39%ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.9%
นอกจากนี้ พบว่าผลการดำเนินงานของกองทุนรวมตราสารทุนโครงการอื่นๆของบลจ.เอวายเอฟ ยังอยู่ในระดับดี โดยกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาอิควิตี้ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -35.12% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.17% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -45.01% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือน 6.79% รวมทั้ง กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -35.31% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.98% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -45.14% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6.66% อีกทั้ง กองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -35.48% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.81% โดยผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่- 45.54% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6.26%
สำหรับ กองทุนเปิดอยุธยารักษ์ก้าวหน้า มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -36.21% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.08%ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -46.06% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 5.74% ถัดมา กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน-35.33% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.96% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -45.12%ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 6.68%
ด้านกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET50 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -41.40% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 0.93% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET 50 อยู่ที่ -42.33% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -51.99% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.2% และกองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 มีผลการตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -41.10% ซึ่งติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 1.23% โดยให้ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -51.55% สูงกว่าเกณฑ์มาฐานเพียง 1.64%
สุดท้าย กองทุนเปิดอยุธยา SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -42.04% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง1.2% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET 100 อยู่ที่ -43.24% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -52.55% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.6% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานSET 100 อยู่ที่ -54.15%
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือ เอวายเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนโยกเงินบางส่วนที่ลงทุนในหุ้นเริ่มกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้บางเเล้วเช่นกันเพื่อรอจังหวะกลับเข้ามาช้อนหุ้น เพื่อสร้างผลตอบเเทนที่มากกว่าลงทุนในหุ้นทั้งหมดในช่วงนี้ ซึ่งทำให้กองทุนผสมระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในช่วงตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยก่อนหน้านี้กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ได้มีการชะลอการลงทุนในหุ้นไปบ้างแล้ว เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
"เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลือนี้ ตลาดหุ้นน่าจะดีดตัวขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการซื้อขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)เเละกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่นักลงทุนจะนิยมซื้อในช่วงปลายปี ประกอบกับปัญหาการเมืองน่าจะคลี่คลายลง ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น หลังจากที่รอดูสถานการณ์อยู่" ประภาส กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหุ้น ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ากองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีที่สุดอยู่ในอันดับ1 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -23.14% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -41.29% พบว่าติดลบน้อยกว่าถึง 18.15% นอกจากนี้ผลการตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่- 29.26% สูงกว่าเกณฑ์มาตฐานถึง 22.54% โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือน อยู่ที่ -51.80%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -23.36% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 17.39% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -29.68% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือนถึง 22.12% ส่วนอันดับที่ 3 คือ กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล 70/30 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -25.51% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 15.78% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -34.26% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 17.54%
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -30.00% ติดลบน้อยกว่า 11.39% ซึ่งผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -37.65% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 13.15% ส่วนกองทุนอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง -30.47%สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 10.79% โดยมีผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -37.76% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง14.04% ส่วนกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวปันผล มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -31.39%ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.9%
นอกจากนี้ พบว่าผลการดำเนินงานของกองทุนรวมตราสารทุนโครงการอื่นๆของบลจ.เอวายเอฟ ยังอยู่ในระดับดี โดยกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาอิควิตี้ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -35.12% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.17% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -45.01% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือน 6.79% รวมทั้ง กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -35.31% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.98% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -45.14% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6.66% อีกทั้ง กองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -35.48% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.81% โดยผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่- 45.54% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6.26%
สำหรับ กองทุนเปิดอยุธยารักษ์ก้าวหน้า มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -36.21% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 5.08%ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -46.06% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 5.74% ถัดมา กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน-35.33% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.96% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -45.12%ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 6.68%
ด้านกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET50 มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -41.40% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 0.93% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET 50 อยู่ที่ -42.33% ส่วนผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -51.99% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.2% และกองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 มีผลการตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -41.10% ซึ่งติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 1.23% โดยให้ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -51.55% สูงกว่าเกณฑ์มาฐานเพียง 1.64%
สุดท้าย กองทุนเปิดอยุธยา SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลตอบเเทนย้อนหลัง 3 เดือน -42.04% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง1.2% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET 100 อยู่ที่ -43.24% ขณะที่ผลตอบเเทนย้อนหลัง 6 เดือน -52.55% ติดลบน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.6% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานSET 100 อยู่ที่ -54.15%
