xs
xsm
sm
md
lg

Sci-Assetไอพีโอกองบอนด์3เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. นครหลวงไทย เปิดขายกองตราสารหนี้ระยะสั้นโครงการใหม่"เอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 3M3/08" ชู ผลตอบแทนประมาณ 3.35% ต่อปี เปิดขายตั้งแต่วันนี้ -วันที่ 2 ธันวาคม นี้

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดขายกองทุนเปิด เอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 3M3/08 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2551 โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.35% ต่อปี

ทั้งนี้ กองทุนเปิด กองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี (SCI FTBD 3M3/08) เป็นกองทุนประเภทรวมตราสารแห่งหนี้ อายุโครงการ ประมาณ 3 เดือน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,000 ล้านบาท แต่บริษัทอาจเสนอขายหน่วยลงทุนเกินเงินทุนของโครงการได้อีกไม่เกินร้อยละ15 ของเงินทุน โดยกองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ต้องการมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร และรับความเสี่ยงได้เพียงเล็กน้อยรวมทั้งสามารถลงทุนในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือน

ส่วนนโยบายการลงทุนนั้น กองทุนรวมจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งในและหรือต่างประเทศ และหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น และอาจจะลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note) นอกจากนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน(Efficient Portfolio Management) ซี่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงกองทุนจะลงทุนในตราสารส่วนใหญ่ที่มีอายุใกล้เคียงกับอายุโครงการเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดและสภาพคล่องจากการลงทุนในตราสารประเภทนี้

ทั้งนี้จุดเด่นของกองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 3M3/08 คือกองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ส่วนผลตอบแทนที่ได้รับจากกองทุน ผู้ถือหน่วยที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่จำเป็นต้องเสียภาษี เนื่องจากถือเป็นกำไรส่วนเกินทุน (Capital gain)

โดย ตราสารที่กองทุนดังกล่าวจะเข้าลงทุน ได้แก่ หุ้นกู้ ธนาคารกสิกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีอันดับเรตติ้งที่ AA โดยมีผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทประมาณ 3.50% ต่อปี มีสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 25% และมีผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนโดยประมาณ 0.875% หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ดเตอร์ (ไทย ) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีอันดับเรตติ้งอยู่ที่ A โดยมีผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทประมาณ 3.50% ต่อปี มีสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 25% และมีผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนโดยประมาณ 0.875%

ตราสารต่อมาที่บริษัทได้ลงทุนคือ เงินฝาก ธนาคาร แลนด์แอนเฮาส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ 3.60%ต่อปี มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 25% และมีผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ 0.900% ต่อปีโดยประมาณ เงินฝากธนาคารสินเอเชีย จำกัด ซึ่งมีผลตอบแทนในรูปเงินบาทประมาณ 3.50% ต่อปี มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 25% เช่นเดียวกัน และลงทุนในตั๋วเงินคลังที่มีผลตอบแทนประมาณ 3.00% มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 5% และมีผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 0.150% ต่อปี

ขณะที่ความเสี่ยงจากการลงทุนได้แก่ 1. ความเสี่ยงที่เกิดจากการผิดนัดชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยของผู้ออกตราสาร(Default Risk) : มีความเสี่ยงต่ำ 2. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของผู้ออกตราสาร (Liquidity Risk) : มีความเสี่ยงต่ำ 3. ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) : มีความเสี่ยงต่ำ และ 4. ความเสี่ยงจากธุรกิจของผู้ออกตราสาร (Business Risk) : ความเสี่ยงต่ำ

อย่างไรก็ตาม ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร และทางบริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ในวันทำการสุดท้ายของกองทุน โดยการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดแมกซ์มั่นคงของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติ

สำหรับ บลจ. นครหลวงไทย ได้ทำการเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือนไปแล้ว 2 กองคือ กองทุนเปิด เอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 3M1/08 และ กองทุนเปิด เอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 3M2/08 ซึ่งทั้ง 2 โครงการก่อนหน้านี้ มีโยบายเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น