xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงไทยออก2กองตราสารหนี้ ต้นทุนเฮดจิ้งลดหนุนยิลด์ECPดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"บลจ. กรุงไทย" คลอด 2 กองทุนตราสารหนี้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ชู ผลตอบแทน "KT3M47" 3.65% ส่วน กอง ECP อยู่ที่ 4.30% ผู้บริหารระบุแม้ผลตอบแทนตราสารต่างประเทศทรงตัว แต่ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง ทำให้ยิลด์เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวดีขึ้น


นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศอีก 2 กองทุนได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น47 ( KT3M47) โดยเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2551 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่ก่อให้เกิดการคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุน หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารอยู่ที่ ประมาณ 3.65% ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่หักค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน

ขณะเดียวกัน ทางบริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุน กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน16 ในวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2551 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ (Euro Commercial Paper : ECP) ของสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป ในเบื้องต้นบริษัทจะเน้นลงทุนในตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินในเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป หรือเอเชียประเทศอื่นๆ ผลตอบแทนของตราสารอยู่ที่ประมาณ 4.30% ต่อปี ซึ่งในจำนวนยี้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน

ทั้งนี้ นายสมชัย ได้กล่าวถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ ว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเริ่มกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่ายังมีความเป็นไปได้ที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ จะมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 3.75% เพื่อที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 1-12 เดือน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 1-11 bps.

ส่วนแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารสารการเงินของสถาบันการเงินชั้นนำต่างประเทศ (Euro Commercial Paper –ECP) สกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ในช่วงที่สัปดาห์ที่ผ่านมายังทรงตัว แต่ผลจากต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันการลงทุนใน ECP ระยะ 6 เดือน จะให้ผลตอบแทนประมาณ 4.30% ต่อปี เป็นตราสารที่ผู้ออกมีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป ซึ่งถือว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศที่ระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน

นอกจากนี้ในส่วนของลูกค้าที่มีกองทุนครบอายุโครงการ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น6เดือน27 (KTST6M27) และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 36 (KT3M36) จะได้รับเงินคืนในวันที่ 28 สิงหาคม 2551 ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนต่อเนื่องในกองทุนที่บริษัทเปิดจำหน่ายในขณะนี้ได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น