ภาวะการซื้อขายหุ้น วานนี้ (26พ.ย. ) บรรยากาศไม่สดใสนัก โดยรอบเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบ นักลงทุนผวาม็อบพันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิจนต้องปิดการบิน นักท่องเที่ยวเดือดร้อนตกค้าจำนวนมาก...แต่ในภาคบ่าย กลับมีแรงซื้อสวนกลับออกมาจนปิดตลาดดัชนีกระเตื้อง 3.37 จุดหรือ 0.86% อยู่ที่ 395.22 จุด มูลค่าซื้อขาย 10,060 ล้านบาท...ส่วนบรรยากาศการลงทุนพรุ่งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า คงต้องรอดูสถานการณ์ว่าเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นอย่างไร หรือทางผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคุยอะไรกันหรือไม่...ถ้าไม่มีการพูดจาอะไรกัน ก็คาดว่าตลาดหุ้นพรุ่งนี้ก็ยังคงจะปรับลงต่อเนื่องได้อีก...เฮ้ออออ
ฟังการแถลงข่าวของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานที่ประชุมในการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อแก้วิกฤตความขัดแย้งของประเทศ แล้ว ยังไม่เห็นอะไรต่างไปจากครั้งที่แล้ว นั่นคือ เสนอให้จะแก้ปัญหาในกรอบของประชาธิปไตย ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งเสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจในการเลือกตั้งใหม่...ซึ่งมตินี้ จะนำไปเสนอต่อนายกฯ และให้เวลานายกฯ ในการพิจารณาและได้คำตอบภายในสัปดาห์นี้...ส่วนข้อเสนอสุดท้าย คือ ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนย้ายออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยเร็ว...เรื่องนี้ ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร...
ถึงเวลานี้ ไม่รู้นายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะรับรู้ถึงเสียงเรียกร้องของมวลชนบ้างไหม อย่ามัวหลงแต่อำนาจหรืออยู่ภายใต้บังเหียนของใคร...เพราะตอนนี้ ไม่มีใครเอารัฐบาลชุดนี้อีกต่อไปแล้ว
หันไปดูสถานการณ์ในต่างประเทศบ้าง...สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเงินกู้ระยะ 1 ปีฉุกเฉินลง 1.08% มาอยู่ที่ 5.58% วานนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดำเนินนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับนโยบายการคลังของรัฐบาล...โดยจีนนั้น ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 3 เดือน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักงาน ก.ล.ต. ฝากชี้แจงการยกเลิกเกณฑ์ขายหน่วยลงทุน กองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ ปีละ 2 ครั้ง ว่า...หลักเกณฑ์นี้ สำนักงานได้ยกเลิกสำหรับกองทุนแอลทีเอฟทุกกองทุน ไม่ว่าจะถือมานานแค่ไหน หรือจะถือมาแล้ว 5 ปีปฏิทินก็ตาม ก็สามารถขายได้...แต่การยกเลิกครั้งนี้ เป็นการยกเลิกของ ก.ล.ต. เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า ถือยังไม่ครบ 5 ปีปฏิทินแล้วจะสามารถขายได้โดยไม่ต้องคืนสิทธิลดหย่อนภาษีที่ใช้ไปนะครับ...เพราะกฏของภาษียังเหมือนเติมของที่สรรพากรกำหนด นั่นคือ หากต้องการใช้สิทธิภาษี ก็ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
อีกข่าว...สำนักงาน ก.ล.ต. ฝากข่าวมาว่า...ให้ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่จะสิ้นสุดอายุการได้รับความเห็นชอบในปี 2551 ทราบว่า สามารถยื่น “คำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน” ได้ถึงวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2551 ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอต่ออายุอีกประมาณ 2,000 คน สำนักงาน ก.ล.ต. จึงขอเรียนย้ำว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะต้องมายื่นคำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในเวลาที่กำหนดข้างต้น
การยื่นคำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนสามารถทำได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถยื่น on-line ผ่านเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุจำนวน 1,070 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) กับสำนักงาน ก.ล.ต. ให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2551 ...ต้นกล้า
ฟังการแถลงข่าวของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานที่ประชุมในการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อแก้วิกฤตความขัดแย้งของประเทศ แล้ว ยังไม่เห็นอะไรต่างไปจากครั้งที่แล้ว นั่นคือ เสนอให้จะแก้ปัญหาในกรอบของประชาธิปไตย ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งเสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจในการเลือกตั้งใหม่...ซึ่งมตินี้ จะนำไปเสนอต่อนายกฯ และให้เวลานายกฯ ในการพิจารณาและได้คำตอบภายในสัปดาห์นี้...ส่วนข้อเสนอสุดท้าย คือ ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนย้ายออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยเร็ว...เรื่องนี้ ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร...
ถึงเวลานี้ ไม่รู้นายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะรับรู้ถึงเสียงเรียกร้องของมวลชนบ้างไหม อย่ามัวหลงแต่อำนาจหรืออยู่ภายใต้บังเหียนของใคร...เพราะตอนนี้ ไม่มีใครเอารัฐบาลชุดนี้อีกต่อไปแล้ว
หันไปดูสถานการณ์ในต่างประเทศบ้าง...สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเงินกู้ระยะ 1 ปีฉุกเฉินลง 1.08% มาอยู่ที่ 5.58% วานนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดำเนินนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับนโยบายการคลังของรัฐบาล...โดยจีนนั้น ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 3 เดือน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักงาน ก.ล.ต. ฝากชี้แจงการยกเลิกเกณฑ์ขายหน่วยลงทุน กองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ ปีละ 2 ครั้ง ว่า...หลักเกณฑ์นี้ สำนักงานได้ยกเลิกสำหรับกองทุนแอลทีเอฟทุกกองทุน ไม่ว่าจะถือมานานแค่ไหน หรือจะถือมาแล้ว 5 ปีปฏิทินก็ตาม ก็สามารถขายได้...แต่การยกเลิกครั้งนี้ เป็นการยกเลิกของ ก.ล.ต. เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า ถือยังไม่ครบ 5 ปีปฏิทินแล้วจะสามารถขายได้โดยไม่ต้องคืนสิทธิลดหย่อนภาษีที่ใช้ไปนะครับ...เพราะกฏของภาษียังเหมือนเติมของที่สรรพากรกำหนด นั่นคือ หากต้องการใช้สิทธิภาษี ก็ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
อีกข่าว...สำนักงาน ก.ล.ต. ฝากข่าวมาว่า...ให้ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่จะสิ้นสุดอายุการได้รับความเห็นชอบในปี 2551 ทราบว่า สามารถยื่น “คำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน” ได้ถึงวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2551 ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอต่ออายุอีกประมาณ 2,000 คน สำนักงาน ก.ล.ต. จึงขอเรียนย้ำว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะต้องมายื่นคำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในเวลาที่กำหนดข้างต้น
การยื่นคำขอต่ออายุความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนสามารถทำได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถยื่น on-line ผ่านเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุจำนวน 1,070 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) กับสำนักงาน ก.ล.ต. ให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2551 ...ต้นกล้า