"ไอเอ็นจี" ปลื้ม เปิดขาย 5 กองตราสารหนี้ ในช่วงเดือนตุลาคม ระดมทุนได้กว่า 3,700 ล้านบาท ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ เผยเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม จะออกกองระยะสั้นต่อเนื่อง "ผู้บริหาร" ชี้ นักลงทุนต้องการลงทุนกองทุนระยะสั้น เหตุยังไม่มั่นใจลงทุนในหุ้นแม้ว่าราคาจะลงมาตํ่ามากแล้ว
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจำนวนมากนั้น จนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศไทยด้วย เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่พากันเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ออกมาจำวนมากและหาแหล่งลงทุนที่มีความมั่นใจมากกว่าเช่นลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ
ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ในช่วงเดือนตุลามคมที่ผ่านมาทาง บลจ. ไอเอ็นจี ได้ออกกองทุนระยะสั้นที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภายประเทศออกมาจำนวน 5 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1" (ING THAI MM 3M1 Fund) กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2" (ING THAI MM 3M2 Fund) กองทุน ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3" (ING THAI MM 3M3 Fund) กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M4" (ING THAI MM 3M4 Fund) และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี (ING Thai Treasury Fund) โดยทั้ง3 กองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภายในประเทศ ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศช่นเดียวกันแต่ไม่อายุโครงการ
โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.60% ขณะที่กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3 และ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M4 มีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.55% ทั้ง 3 กอง
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - บลจ. ไอเอ็นจี กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทางบริษัทสามารถออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมด 5 กองทุน ซึ่งระดมทุนได้กว่า 3,700 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับที่บริษัทได้ประมาณการเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ แม้ว่าในช่วงเวลาที่มีการเปิดขายกองทุนดังกล่าวนี้ จะมีการสะดุดไปบ้าง เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องการลงทุนในระดับที่มากอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นแบบนี้มากกว่า แม้ว่าราคาหุ้นในขณะนี้จะร่วงลงมาอย่างมากและน่าเข้าซื้อในช่วงนี้
"ราคาหุ้นที่ร่วงลงมาอย่างมากในขณะนี้น่าซื้อมาก เพราะไม่มีใครคาดได้ว่าจะร่วงลงไปถึงจุดตํ่าสุดกว่านี้ได้อีกเท่าไร ซึ่งสามารถที่จะทยอยซื้อได้เรื่อยๆในช่วงนี้" นายจุมพลกล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคมทางบลจ. จะทอยออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่อยากลงทุนในช่วงระยะสั้นๆ และมีความเสี่ยงไม่มาก
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจำนวนมากนั้น จนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศไทยด้วย เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่พากันเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ออกมาจำวนมากและหาแหล่งลงทุนที่มีความมั่นใจมากกว่าเช่นลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ
ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ในช่วงเดือนตุลามคมที่ผ่านมาทาง บลจ. ไอเอ็นจี ได้ออกกองทุนระยะสั้นที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภายประเทศออกมาจำนวน 5 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1" (ING THAI MM 3M1 Fund) กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2" (ING THAI MM 3M2 Fund) กองทุน ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3" (ING THAI MM 3M3 Fund) กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M4" (ING THAI MM 3M4 Fund) และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี (ING Thai Treasury Fund) โดยทั้ง3 กองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภายในประเทศ ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี (ING Thai Treasury Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศช่นเดียวกันแต่ไม่อายุโครงการ
โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.60% ขณะที่กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M2 ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M3 และ ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M4 มีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.55% ทั้ง 3 กอง
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - บลจ. ไอเอ็นจี กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทางบริษัทสามารถออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมด 5 กองทุน ซึ่งระดมทุนได้กว่า 3,700 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับที่บริษัทได้ประมาณการเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ แม้ว่าในช่วงเวลาที่มีการเปิดขายกองทุนดังกล่าวนี้ จะมีการสะดุดไปบ้าง เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องการลงทุนในระดับที่มากอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นแบบนี้มากกว่า แม้ว่าราคาหุ้นในขณะนี้จะร่วงลงมาอย่างมากและน่าเข้าซื้อในช่วงนี้
"ราคาหุ้นที่ร่วงลงมาอย่างมากในขณะนี้น่าซื้อมาก เพราะไม่มีใครคาดได้ว่าจะร่วงลงไปถึงจุดตํ่าสุดกว่านี้ได้อีกเท่าไร ซึ่งสามารถที่จะทยอยซื้อได้เรื่อยๆในช่วงนี้" นายจุมพลกล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคมทางบลจ. จะทอยออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่อยากลงทุนในช่วงระยะสั้นๆ และมีความเสี่ยงไม่มาก
