ผลพวงการลงทุนผันผวน ฉุดเงินลงทุนกองทุนส่วนบุคคล-สำรองเลี้ยงชีพ หายไปกว่า 7.8 พันล้านบาท โดยกองทุนส่วนบุคคลอ่วมสุด หายไปกว่า 4 พันล้าน ขณะที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพติดลบไปกว่า 3 พันล้าน โดย "กสิกรไทย-ทิสโก้" ยังยึดเก้าอี้แชมป์เงินลงทุนสุดสุดแต่ละประเภท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนที่ผันผวนอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น ส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อเนื่องไปถึงกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจเงินลงทุนของกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวตฟันด์) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (โพรวิเดนท์ฟันด์) พบว่า เงินลงทุนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงรวมกันกว่า 7,853.82 ล้านบาท โดยกองทุนส่วนบุคคล ลดลงไปประมาณ 4,063.17 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดลงไปประมาณ 3,790.65 ล้านบาท
โดยกองทุนส่วนบุคคลที่มีเงินลงทุนสูงสุด 10 อันดับแรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 อันดับที่ 1. ยังคงเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด โดยมีจำนวนเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 33,450.67 ล้านบาท ซึ่งลดลงเป็นจำนวน 1,067.80 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคมที่ 34,518.47 ล้านบาท อันดับที่ 2. บลจ. ทิสโก้ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 30,879.11 ล้านบาท โดยที่ลดลงประมาณ 1,237.86 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 32,116.97 ล้านบาท
อันดับที่ 3. บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 24,305.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 373.44 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 23,931.63 ล้านบาท อันดับที่ 4. บลจ. เอ็มเอฟซี มีจำนวนเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 21,098.61 ล้านบาท ลดลง 197.38 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 21,295.99 ล้านบาท อันดับที่ 5. บลจ. วรรณ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 20,576.86 ล้านบาท โดยลดลง 383.17 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 20,960.03 ล้านบาท อันดับที่ 6. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 9,726.97 ล้านบาท โดยที่เพิ่มขึ้น 20.87 ล้านบาท จากเงินกองทุน 9,706.09 ล้านบาทในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับอันดับที่ 7. ได้แก่ บลจ. ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 6,228.09 ล้านบาท ลดลง 500.88 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 6,728.97 ล้านบาท อันดับที่ 8. บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 5,749.26 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนที่ลดลง 214.47 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 5,963.37 ล้านบาท อันดับที่ 9. บลจ. อเบร์ดีน มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 4,070.71 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 174.87 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 4,245.58 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคม และอันดับที่ 10. บลจ.อยุธยา มีจำนวนเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 3,890.52 ล้านบาท ลดลง 1.76 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 3,892.27 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากตัวเลขเงินลงทุนทั้งระบบของกองทุนส่วนบุคคลในเดือนกันยายนอยู่ที่ 176,871.93 ล้านบาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ลดลงประมาณ 4,063.17 ล้านบาท จากจำนวนเงินลงทุนทั้งระบบในเดือนสิงหาคม 180,935.10 ล้านบาท
ส่วนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทจัดการที่มีเงินลงทุนสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับที่ 1. บลจ. ทิสโก้ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 66,762.35 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 425.45 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 66,336.90 ล้านบาท อันดับที่ 2. บล. กรุงไทย มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 63,028.92 ล้านบาท โดยลดลง 972.11 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 64,001.03 ล้านบาท
อันดับที่ 3. บลจ. เอ็มเอฟซี มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 54,665.31 ล้านบาท ลดลงประมาณ 436.90 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 55,102.21 ล้านบาท อันดับที่ 4. บลจ. ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 52,444.63 ล้านบาท ซึ่งลดลงรวม 207.10 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 52,651.73 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม อันดับที่ 5. บลจ. กสิกรไทย มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 51,687.42 ล้านบาท ลดลง 627.40 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 52,314.82 ล้านบาท อันดับที่ 6. บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 42,835.53 ล้านบาท ลดลง 204.21 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 43,039.74 ล้านบาท
อันดับที่ 7. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 40,824.84 ล้านบาท โดยลดลงประมาณ 121.24 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 40,946.09 ล้านบาท อันดับที่ 8. บลจ. บีที มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 17,714.56 ล้านบาท โดยได้ลดลง 202.37 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 17,916.92 ล้านบาท อันดับที่ 9. บริษัทอเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 16,440.08 ล้านบาท ลดลง 98.89 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 16,538.97 ล้านบาท และอันดับที่ 10. บลจ. ฟินันซ่า มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 13,480.59 ล้านบาท โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินกองทุนจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากตัวเลขเงินลงทุนทั้งระบบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ 460,794.80 ล้านบาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ลดลงประมาณ 3,790.65 ล้านบาท จากจำนวนเงินลงทุนทั้งระบบในเดือนสิงหาคม 464,585.45 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนที่ผันผวนอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น ส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อเนื่องไปถึงกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจเงินลงทุนของกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวตฟันด์) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (โพรวิเดนท์ฟันด์) พบว่า เงินลงทุนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงรวมกันกว่า 7,853.82 ล้านบาท โดยกองทุนส่วนบุคคล ลดลงไปประมาณ 4,063.17 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดลงไปประมาณ 3,790.65 ล้านบาท
โดยกองทุนส่วนบุคคลที่มีเงินลงทุนสูงสุด 10 อันดับแรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 อันดับที่ 1. ยังคงเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด โดยมีจำนวนเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 33,450.67 ล้านบาท ซึ่งลดลงเป็นจำนวน 1,067.80 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคมที่ 34,518.47 ล้านบาท อันดับที่ 2. บลจ. ทิสโก้ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 30,879.11 ล้านบาท โดยที่ลดลงประมาณ 1,237.86 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 32,116.97 ล้านบาท
อันดับที่ 3. บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 24,305.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 373.44 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 23,931.63 ล้านบาท อันดับที่ 4. บลจ. เอ็มเอฟซี มีจำนวนเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 21,098.61 ล้านบาท ลดลง 197.38 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 21,295.99 ล้านบาท อันดับที่ 5. บลจ. วรรณ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 20,576.86 ล้านบาท โดยลดลง 383.17 ล้านบาท จากเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 20,960.03 ล้านบาท อันดับที่ 6. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 9,726.97 ล้านบาท โดยที่เพิ่มขึ้น 20.87 ล้านบาท จากเงินกองทุน 9,706.09 ล้านบาทในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับอันดับที่ 7. ได้แก่ บลจ. ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 6,228.09 ล้านบาท ลดลง 500.88 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 6,728.97 ล้านบาท อันดับที่ 8. บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 5,749.26 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนที่ลดลง 214.47 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 5,963.37 ล้านบาท อันดับที่ 9. บลจ. อเบร์ดีน มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 4,070.71 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 174.87 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 4,245.58 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคม และอันดับที่ 10. บลจ.อยุธยา มีจำนวนเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 3,890.52 ล้านบาท ลดลง 1.76 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 3,892.27 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากตัวเลขเงินลงทุนทั้งระบบของกองทุนส่วนบุคคลในเดือนกันยายนอยู่ที่ 176,871.93 ล้านบาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ลดลงประมาณ 4,063.17 ล้านบาท จากจำนวนเงินลงทุนทั้งระบบในเดือนสิงหาคม 180,935.10 ล้านบาท
ส่วนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทจัดการที่มีเงินลงทุนสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับที่ 1. บลจ. ทิสโก้ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 66,762.35 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 425.45 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 66,336.90 ล้านบาท อันดับที่ 2. บล. กรุงไทย มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 63,028.92 ล้านบาท โดยลดลง 972.11 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 64,001.03 ล้านบาท
อันดับที่ 3. บลจ. เอ็มเอฟซี มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 54,665.31 ล้านบาท ลดลงประมาณ 436.90 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 55,102.21 ล้านบาท อันดับที่ 4. บลจ. ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 52,444.63 ล้านบาท ซึ่งลดลงรวม 207.10 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 52,651.73 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม อันดับที่ 5. บลจ. กสิกรไทย มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 51,687.42 ล้านบาท ลดลง 627.40 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 52,314.82 ล้านบาท อันดับที่ 6. บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 42,835.53 ล้านบาท ลดลง 204.21 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุนในเดือนสิงหาคม 43,039.74 ล้านบาท
อันดับที่ 7. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 40,824.84 ล้านบาท โดยลดลงประมาณ 121.24 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 40,946.09 ล้านบาท อันดับที่ 8. บลจ. บีที มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 17,714.56 ล้านบาท โดยได้ลดลง 202.37 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 17,916.92 ล้านบาท อันดับที่ 9. บริษัทอเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 16,440.08 ล้านบาท ลดลง 98.89 ล้านบาท จากจำนวนเงินกองทุน 16,538.97 ล้านบาท และอันดับที่ 10. บลจ. ฟินันซ่า มีจำนวนเงินกองทุนอยู่ทั้งสิ้น 13,480.59 ล้านบาท โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินกองทุนจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากตัวเลขเงินลงทุนทั้งระบบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ 460,794.80 ล้านบาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ลดลงประมาณ 3,790.65 ล้านบาท จากจำนวนเงินลงทุนทั้งระบบในเดือนสิงหาคม 464,585.45 ล้านบาท
