กบข. ดึงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมช่วยบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยงตามยุทธศาสตร์การดำเนินงาน หวังเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนในการดำเนินงาน
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงแผนการบริหารงานในปีนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศในช่วงเวลานี้ ถือได้ว่าเป็นภาวะการณ์ที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการของทุกองค์กร ดังนั้นการบริหารจัดการองค์กรของ กบข. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังคงเน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส และรวดเร็ว
โดยระบบเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นส่วนประกอบหลักของระบบข้อมูลสำหรับผู้บริหาร (Management of Information System) ที่ใช้ในการประเมินและติดตามผลงาน รวมทั้งจะช่วยให้ผู้บริหารทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศ และของโลกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ e-Pension ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมทั้งช่วยลดขั้นตอนและต้นทุนการทำงานในระยะยาวด้วย
ขณะเดียวกัน กบข.ยังได้ทำการศึกษาการบริหารกองทุนบำนาญชั้นนำของโลกที่ผ่านภาวการณ์ต่างๆ มากมาย และประสบความสำเร็จในการดำเนินงานมายาวนาน เพื่อที่จะนำประสบการณ์และแนวทางการดำเนินงานเหล่านั้นมาปรับใช้กับการดำเนินงานของ กบข. พร้อมกันนี้ กบข. ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความรู้ (Knowledge Management) ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันของพนักงานทำให้บุคลากรมีความรู้ความชำนาญเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการออมเพื่อการเกษียณต่อสมาชิกด้วย
"แผนงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งแนวทางการบริหาร และพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่เน้นสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถตรงกับภารกิจ กบข. และที่สำคัญสามารถปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาก็เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของกิจกรรมที่ กบข. จะดำเนินการในส่วนของการบริหารและพัฒนาองค์กรในปีนี้" นายวิสิฐ กล่าว
ก่อนหน้านี้นายวิสิฐ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลังของ กบข. นั้นจำเป็นต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบและระมัดระวังเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดย กบข. ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นหลักและติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดย กบข. อาจมีการชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่บางประเภทออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดโลกขณะนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดหุ้นในประเทศปัจุบันมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ11 ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ระหว่างการรอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในจังหวะที่เหมาะสมและในช่วงนี้ กบข. เน้นการถือครองหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ทั้งตราสารหนี้และเงินสดโดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นและหากมีแนวโน้มทิศทางของอัตราดอกเบี้ยหยุดการปรับตัวขึ้นก็จะเพิ่มอายุเฉลี่ยของการลงทุนในตราสารหนี้ให้ยาวขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 2.4 ปี นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในตลาดหุ้นโลกโดยรวมชัดเจนขึ้น ก็จะเริ่มทยอยกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ ได้แก่ นิติบุคคลเอกชนต่างประเทศ และอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ตามการจัดสรรการลงทุนระยะยาวเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ