xs
xsm
sm
md
lg

เสียงสะท้อนจากคนลงทุน ที่อยากเห็นบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้...ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นสิทธิขึ้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญกำหนด...และเหตุบ้านการเมืองที่เกิดความวุ่นวายในขณะนี้ เชื่อแน่นอนว่า ทุกคนอยากเห็นประเทศมีทางออกที่สวยงาม ปราศจากการเสียเลือดเสียเนื้อ และเหนือสิ่งอื่นใด คือ ปราศจากการเผชิญหน้าระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
วรวรรณ ธาราภูมิ
วันนี้ "ผู้จัดการกองทุนรวม" มีมุมมองที่น่าสนใจจาก "วรวรรณ ธาราภูมิ" กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด...ซึ่งถือเป็นมุมมองจองบุคคลหนึ่งในหลายๆ คน ที่ต้องการเห็นบ้านเมืองกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

"วรวรรณ" กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันต่อเนื่องสะสมมาหลายปี จนวันนี้ถึงคราวสุกงอมแล้ว เราไม่ควรคิดเพียงว่าใครผิด ใครถูก ใครทำลายเศรษฐกิจประเทศ เพราะมันไม่มีคำตอบที่ยอมรับกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย การด่าประนามกันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น รังแต่จะทำให้ยิ่งเพิ่มความบาดหมางจนสมานแผลไม่ได้ ในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เราต้องหาสาเหตุความอึดอัดคับข้องใจของทั้งฝ่ายรัฐบาล และของฝ่ายที่เรียกร้องด้วยการชุมนุม ต้องยอมรับในบทบาทซึ่งกันและกัน พยายามหาทางออกร่วมกัน

การนับจำนวนผู้มาชุมนุมหรือสนับสนุนโดยไม่ได้ปรากฏตัว การอ้างอิงถึงผู้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนจนเป็นประชามติผ่านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ใช้ได้ กับการอ้างอิงคะแนนเสียงที่ได้รับเลือกตั้ง มันไม่ได้ช่วยบ่งบอกถึงความชอบธรรมหรือความเป็นผู้ชนะ บ้านเมืองเรามันพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็เพราะอัตตาของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ต่างฝ่ายต่างยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตนว่าถูกต้องแต่ฝ่ายเดียว คนอื่นผิดไปหมด โง่ไปหมด ยึดถือในกลุ่มในพวกของตนโดยไม่คิดถึงใจของกลุ่มอื่นๆ

รัฐบาลที่ดีต้องเปรียบเสมือนพ่อแม่ของราษฎร เมื่อลูกๆ คับข้องใจ จะไปใช้วิธีการอันรุนแรงไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับบ้านเมืองเรา รัฐบาลต้องมีความสามารถที่จะแก้ไขเยียวยาสถานการณ์ให้ได้ หากทำไม่ได้จะยังคงปกครองบริหารประเทศได้อย่างไร กลุ่มพันธมิตรฯ เองก็ต้องเสนอทางออกที่เป็นไปได้ในสภาพปัจจุบัน การเสนอแนวทางที่เป็นไปไม่ได้ มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น และทำให้คนที่ยังไม่ได้เลือกข้างเห็นความไม่สมเหตุสมผล

ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เนื่องจากสหภาพรัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้การสนับสนุน ภายในไม่กี่วันนี้หากเกิดเหตุการณ์รุนแรง อาการอัมพาตจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างเฉียบพลัน หากไม่รุนแรงและยืดเยื้อออกไปอีก ความเสียหายจะลุกลามซึมลึกไปทั้งระบบ และจะใช้เวลานานเกินความจำเป็นที่จะเยียวยา การคิดจะไปกดดันด้วยการให้ผู้ประท้วงออกจากงาน คิดว่าทำได้หรือ ทำแล้วจะไม่บานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองหรือ

สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องคิดให้ดี เมื่อประชาชนลุกขึ้นต่อสู้ จะสู้กับรัฐหรือจะสู้กันเองก็ตาม รัฐบาลนั้นๆ จะจบสิ้นทันที ซึ่งประวัติศาสตร์มีบอกไว้ทุกที่ และในเมื่อรัฐบาลก็มาโดยชอบด้วยกฎหมายการเลือกตั้ง รัฐบาลก็ต้องบริหารประเทศโดยชอบด้วยจริยธรรมด้วย ถึงจะปกครองบ้านเมืองต่อไปได้ หากท่านถึงพร้อมด้วยความชอบธรรมและจริยธรรมทั้งปวงแล้ว จะไม่มีใครมาทำร้าย มาใส่ร้ายท่านได้สำเร็จ

เรายังนับว่าโชคดีที่ผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงจุดยืนของทหารที่ถูกต้องและน่าชื่นชม มันจริงอย่างที่ท่านพูด ทหารจะยืนข้างประชาชนเสมอ แต่หากประชาชนแตกแยก จะให้ทหารจะไปยืนข้างใดเล่า มันทำไม่ได้ เพราะวันใดที่ปากกระบอกปืนที่มีไว้ปกป้องประเทศชาติจากอริราชศัตรู หันกลับไปพุ่งใส่ราษฏรไม่ว่าจะฝ่ายใด วันนั้นทหารจะหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี เกียรติยศของกองทัพจะเสื่อมสูญ

ท่านพูดถูกที่ว่านี่เป็นปัญหาของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่ควรไปกดดันกองทัพ อย่าไปใช้กองทัพเป็นเครื่องมืออีก กองทัพในวันนี้ก้าวไปไกลกว่าภาครัฐบาลและภาคประชาชนแล้ว และต้องบอกกันตรงๆ ว่าก้าวไปไกลกว่าสภามาก เพราะภาพต่างๆของการปฏิบัติหน้าที่ในสภาที่ถ่ายทอดออกมาสู่สายตาผู้คนนั้นมันสะท้อนได้ว่าความมีอารยะอาจจะยังไม่ได้มาถึงเมืองไทยเลย

ดังนั้น เราต้องแสวงหาทางออกที่ทุกคนยอมรับร่วมกันได้ การโกรธแค้นชิงชังกัน การใส่ร้ายป้ายสีกัน การปลุกระดมใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเข้าห้ำหั่นกัน ไม่ใช่เรื่องที่วิญญูชนควรกระทำ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไปแล้ว เหตุการณ์มันฟ้องว่าใครจุดชนวน รัฐบาลมีหน้าที่ต้องระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก ป้องกันไม่ใช่แก้ไข เพราะไม่ว่าใครจะชนะ ชาติบ้านเมืองก็พ่ายแพ้ไปแล้ว แต่จะพ่ายแพ้จนย่อยยับหรือไม่นั้น ขณะนี้มันขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนแล้ว ทั้งสีเหลือง สีแดง ต้องหยุดด่าประนาม หยุดยุยงส่งเสริมความรุนแรง หันหน้ามาดูความจริง ดูกฏกติกา ดูปัญหาจากกฎกติกานั้นๆ แล้วหาทางออกร่วมกันให้ได้

เราต้องมีที่ยืนให้คนไทยทุกคน แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของพันธมิตร ไม่ใช่ของพลังประชาชน มันเป็นของพวกคุณทุกคน และเป็นของคนไทยทุกคนที่เหลือ การพูดว่ารักชาติ รักพระเจ้าอยู่หัว ใครๆ ก็พูดได้ แต่จงระลึกไว้เสมอว่า ภายใต้เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อขาว และเสื้อกากี เสื้อเขียว เสื้อเทา มันก็คือเลือดเนื้อไทยทั้งนั้นไม่ใช่หรือ
กำลังโหลดความคิดเห็น