xs
xsm
sm
md
lg

ทหารไทยฉวยจังหวะบาทอ่อนเข็น"FIF"ลุยบอนด์สกุลลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทหารไทยส่งกองทุนเอฟไอเอฟ ลุยลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หวังค่าเงินบาทอ่อนดันยิลด์พุ่ง เจาะกลุ่มลูกค้า "ผู้นำเข้าและส่งออก-ศึกษาต่อต่างประเทศ" คาดการณ์ผลตอบแทน 2% ไม่รวมผลกำไรและขาดทุนจากค่าเงิน ดีเดย์ไอพีโอ 25 ส.ค.-4 ก.ย. 51 เตรียมจัดสัมมนา "ทิศทางดอกเบี้ยและค่าเงินบาท" ให้ความรู้นักลงทุนเร็วๆนี้

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย USD Money Market มูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม - 4 กันยายน 2551

โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีคุณภาพและมีความมั่นคง โดยมีอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสภาพคล่องสูง เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดี หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นอยู่ในสองอันดับแรกในระดับ International Scale ไม่ต่ำกว่า F1 หรือเทียบเท่า

"กองทุนนี้จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่คาดว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง และเราจะมีการเลือกตราสารที่จะลงทุนด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดการณ์ว่ากองทุนดังกล่าวจะมีอัตราผลตอบแทนประมาณ 2% ไม่รวมกับผลกำไรหรือผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน" นางโชติกา กล่าว

ทั้งนี้สำหรับผู้ลงทุนที่คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ควรจะลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย USD Money Market เนื่องจากจะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 34 บาท โดย LIBOR 1 สัปดาห์เท่ากับ 2.39% ถ้าผู้ลงทุนคาดว่าเงินบาทต่อดอลลาร์เท่ากับ 35 บาท ใน 1 ปีข้างหน้า ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ 5.33% ต่อปี ซึ่งคำนวนจากผลตอบแทนจากตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือ LIBOR (2.39%) รวมกับกำไรที่ได้จากอัตราแลกเปลี่ยน

โดยกองทุนเปิดทหารไทย USD Money Market จะวัดผลการดำเนินงานโดยใช้อัตราดอกเบี้ย LIBOR 1 สัปดาห์ (London- Interbank Offered Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์สหรัฐระหว่างธนาคารพาณิชย์ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของตราสารที่กองทุนจะลงทุน

“เงินบาทเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนสูงระหว่าง 3 - 9% ต่อปี ซึ่งค่าเงินบาทอาจแข็งค่าหรืออ่อนตัวลงได้ในช่วงที่กว้างมาก ดังนั้นผู้ที่มีความต้องการใช้หรือส่งมอบเงินดอลลาร์สหรัฐในอนาคตจะพบความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น ผู้ประกอบการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าต่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องการฝากเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ปกครองที่วางแผนจะส่งบุตรไปศึกษายังประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดจนผู้ลงทุนที่มีการคาดการณ์ในอนาคตว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท” นางโชติกา กล่าว

อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมจัดสัมมนาเรื่อง “ทิศทางดอกเบี้ยและค่าเงินบาท” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม ในวันพุธที่ 3 กันยายน 2551 ณ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , ดร.ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และดร.คณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทย โทร.1725
กำลังโหลดความคิดเห็น