xs
xsm
sm
md
lg

"ยูโอบี"ส่งFIFฝ่าตลาดหุ้นผันผวนคุ้มครองเงินต้น-ดึงอนุพันธ์เพิ่มผลตอบแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ยูโอบี ส่งกองFIF ใหม่ล่าสุด "ซีเล็ค สเปคตรัม 1" ล่อใจนักลงทุน ช่วงตลาดหุ้นผันผวน ชูจุดเด่นรับเงินต้นคืน 100% ในรูปเงินบาท พร้อมรับผลตอบแทนอิงดัชนี Spectrum ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายล่วงหน้า เช่นเดียวกับ เฮดจ์ฟันด์ เป็นตัวสร้างกำไร แม้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง ทำให้นักลงทุนหลายท่านขาดทุนจากการลงทุน และไม่ทราบว่าจะลงทุนในหุ้นตัวใดหรือเมื่อไหร่จึงจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

ทั้งนี้ บริษัทจึงได้นำเสอนกองทุนเปิด ยูโอบี ซีเล็ค สเปคตรัม 1 เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน โดยกองทุนนี้มีมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท และระยะเวลาในการลงทุน 3 ปี ซึ่งจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 13-20 สิงหาคมนี้

สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนนี้จะเน้นลงทุนใน ตราสารหนี้แบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอายุ 3 ปี ซึ่งออกโดยรัฐวิสาหกิจของประเทศนอร์เวย์ หรือ ธนาคาร KfW ของประเทศเยอรมันนี ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถออยู่ที่ AAA นอกจากนี้ยังจะนำเงินบางส่วนไปลงทุนใน สัญญาออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี Spectrum ที่ออกโดยธนาคาร BNP Paribas ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ AA+

นายวนา กล่าวอีกว่า การลงทุนในกองทุนนี้จะความมั่นคงสูงในเรื่องของเงินต้น ซึ่งจะได้คืน 100% ในรูปของสกุลเงินบาท จากการลงทุนในตราสารหนี้ ด้วยอัตราซื้อลดตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ก่อนการลงทุน และจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้เงินต้นของนักลงทุนกลับคืนมาครบตามจำนวนที่ลงทุน

ทั้งนี้ ในส่วนของผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับนั้น มาจากเงินลงทุนในส่วนที่นำไปลงทุนในสัญญาออปชั่น ที่อ้างอิงกับดัชนี Spectrum ในกรณีที่ดัชนีในมีปารปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าวันที่นำเงินไปลงทุน

“เราจะกันเงินออกเป็น 2 ส่วน คือลงทุนในตราสารหนี้แบบซื้อลดที่ไม่ได้ดอกเบี้ย แต่จะคิดในราคาที่ถูกกว่าเดิม แต่เมื่อครบกำหนดสัญญาจะได้เงินคืนเต็ม 100% จากที่ซื้อลดไปเพียง 90 หรือ 80 ตามแต่อัตราดอกเบี้ย และส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในดัชนี Spectrum และจะได้ผลตอบแทนจากส่วนนี้ โดยที่เงินต้นยังอยู่”นายวนากล่าว

สำหรับอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้นั้น หากคิดในกรณี ที่อัตราดอกเบี้ยระยะเวลา 3 ปีอยู่ในระดับต่ำสุด โดยเหลือเงินลงทุนในดัชนี Spectrum ได้น้อยนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปีหรือ 15.77% ในระยะเวลา 3ปี และมีผลตอบแทนสูงสุดคือ 12.15% หรือ 41.08% ในระยะเวลา 3 ปี

อย่างไรก็ตามในส่วนของผลตอบแทนที่ได้จะไม่มีการป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงิน ซึ่งจะต้องลงทุนเป็นเงินสกุลยูโร ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนที่ได้สูงขึ้นหรือต่ำลงได้ จากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

นายวนา กล่าวอีกว่า นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่มีผลต่อสัดส่วนการลงทุน และผลตอบแทนแล้ว การปรับตัวของดัชนี Spectrum จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่า ผลตอบแทนที่ได้จะสูงหรือ ไม่ได้เลยก็เป็นได้ ในกรณีที่ดัชนี ณ วันครบอายุโครงการปรับตัวลดลงกว่าวันที่กองทุนเข้าลงทุน

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวถือเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีการใช้กลยุทธ์ซื้อขายล่วงหน้า(Long-Short) เป็นเครื่องมือในการลงทุน ซึ่งถึงแม้ว่าตลาดจะมีการปรับตัวลดลง หรือเพิ่มขึ้น ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวของ ดัชนี Spectrum จะลงทุนในหุ้น 4 สไตล์ ของตลาดหุ้น สหรัฐอเมริการ และยุโรป ได้แก่ หุ้นที่เน้นมูลค่าในทางปัจจัยพื้นฐาน หุ้นที่มีอัตราเติบโตสูง หุ้นที่มีการจ่ายปันผล และหุ้นที่เป็นตัวแทนตลาด

โดยจะมีการคำนวณ และจัดลำดับแนวโน้มผลตอบแทนของแต่ละสไตล์ว่าจะเป็นอย่างไรในทุกๆ วัน และจะใช้กลยุทธ์ซื้อขายล่วงหน้า เพื่อสร้างผลตอบแทน และป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด

“กลยุทธ์นี้เฮดจ์ฟันด์จะใช้กันมาก ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนในทุกภาวะตลาด ซึ่งเมื่อคาดว่าหุ้นตัวนี้มันจะให้ผลตอบแทนลดลง เขาก็จะยืมหลักทรัพย์มาขายในราคาปัจจุบัน แล้วซื้อคืนในอนาคต(Short) แต่ถ้ามันจะขึ้นเขาจะซื้อหลักทรัพย์ในปัจจุบันแล้วขายล่วงหน้าแทน(Long)”นายวนากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น