xs
xsm
sm
md
lg

อ้อ..อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ แผนเพิ่มมูลค่าเงินของนักบัญชีสาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้ แลตะลึง" เป็นเพลงประจำตัวของนางสาวไทยมาทุกยุคทุกสมัย และวันนี้ “คอลัมน์ผู้จัดการคุยกับนักลงทุน” รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้สัมภาษณ์ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย อย่าง “น้องอ้อ - อังคณา ตรีรัตนาทิพย์” นางสาวไทยประจำปี 2550 ซึ่งเป็นนางสาวไทยคนที่ 43 ที่สามารถคว้ามงกุฎมาครอบครองได้ และล่าสุดยังคว้าปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย วันนี้ "น้องอ้อ" จะมาเปิดเคล็ดลับการออมเงินว่าเธอมีแนวความคิดเป็นอย่างไรกันบ้าง

น้องอ้อเริ่มเล่าให้ฟังว่า ในการประกวดนางสาวไทย ตัวเองสามารถคว้าตำแหน่ง มิส เฮลตี้ รวมถึงมิส เพอร์เฟกต์และนางงามมิตรภาพ จำนวนรวมทั้งสิ้น 4 รางวัล และจากการประกวดครั้งนี้ทำให้ได้เงินรางวัลรวมกว่า 4 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัล รถยนต์เชฟโรเลต แคพติว่า มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท เครื่องประดับเพชรเพอร์เฟกต์ ไดมอนด์ มูลค่า 2 แสนบาท กรมธรรม์ อุบัติเหตุส่วนบุคคล จากบริษัทเอไอเอ มูลค่า 1 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์สก็อต คอลลาเจนอี เครื่องดื่มคอลลาเจน ดื่มฟรีตลอด 1 ปี เครื่องสำอางบีเอสซี คอสเมโตโลยี มูลค่า 2 หมื่นบาท ชุดเครื่องเล่นดีวีดีและโฮมเธียเตอร์เอเจ มูลค่า 2.9 หมื่นบาท ผลิตภัณฑ์เจเล่ไลท์ ดื่มฟรีตลอด 1 ปี และทำผมที่เกตุวดีฟรีตลอด 1 ปี

   สำหรับเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาทนั้น น้องอ้อ ได้แบ่งส่วนหนึ่งฝากไว้กับทางธนาคาร และอีกส่วนหนึ่งแบ่งออกมาซื้อคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ก็กำลังหาช่องทางการลงทุนในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน (มั่นนีมาร์เกต) เพราะมองว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำและสามารถให้ผลตอบแทนที่อีกด้วย

“หลังจากได้รับตำแหน่งตัวเองในฐานะนางสาวไทย ได้ร่วมงานประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของไทยร่วมกับ ททท. ซึ่งรู้สึกประทับใจมาก ๆ ที่เราได้มีส่วนร่วมทำให้ต่างชาติรู้จักและเห็นความงาม ความน่าสนใจของประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ไปร่วมงานช่วยเหลือคนอื่นๆ เช่น การไปบริจาคผ้าห่ม เพราะที่ผ่านมาเวลาดูโทรทัศน์ ข่าวบอกว่าอากาศหนาวมาก มีบางคนถึงกับหนาวตาย แต่เราอยู่ใน กทม. ทำให้เราไม่ได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของพวกเขา ว่ามันหนาวและทรมานมากแค่ไหน แต่พอได้ไปสัมผัสจริงๆก็ได้เข้าใจเลยว่าความลำบากที่แท้จริงมันเป็นยังไง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนอยู่ในใจมาตลอดเลยว่าต่อจากนี้ไปถ้ามีอะไรที่เราสามารถจะให้ความช่วยเหลือผู้อื่นที่เค้าลำบาก หรือมีความต้องการได้ ก็จะยินที่จะทำให้สุดความสามารถที่ทำได้”

ส่วนด้านการศึกษานั้น ปัจจุบัน นางสาวไทยคนนี้จบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกำลังทำงานที่ธนาคารธนชาต ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ของธนาคาร

น้องอ้อ เล่าให้เราฟังถึงชีวิตการทำงานว่า “หลังจากที่เรียนจบได้มาสมัครงานที่ธนาคารธนชาต ซึ่งตอนนี้ทำมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว โดยงานหลักๆ ที่ทำจะเป็นการทำวิจัยทางสื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ นับว่าเป็นงานที่แปลกใหม่และก็ท้าทายเป็นอย่างมาก แต่ถือว่าเป็นการทำงานที่ตรงกับสายงานที่ร่ำเรียนมา เนื่องมาจากจบมาทางด้านบัญชีสถิติ ส่วนงานด้านการบันเทิงนั้น มีงานเดินแบบ ถ่ายแบบ โชว์ตัว และพิธีกรตามงานอีเวนท์ต่างๆ อีกด้วย”

ทั้งนี้แม้จะมีทั้งงานหลักและงานเสริมในวงการบันเทิง น้องอ้อยังยึดหลักในการทำงาน คือ ต้องมีความตรงต่อเวลาและต้องทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดเสร็จทันเวลาตามที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันยังต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงานอีกด้วย แถมยังได้บอกกับเราอีกว่า ในการทำงานนั้นเราควรเลือกทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราถนัดและชอบ เพราะเราจะมีความสุขในการทำงานมากว่าทำงานที่เราไม่ชอบ

อย่างไรก็ตามหลังจากเรียนจบและได้เข้าทำงาน ทำให้แผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือนๆ เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยเงินเดือนครึ่งหนึ่งจะเก็บฝากธนาคารไว้ในบัญชีออมทรัพย์ และอีกครึ่งหนึ่งฝากไว้ในบัญชีฝากประจำ นอกจากนี้แล้วน้องอ้อบอกว่า การออมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของคนเรา เพราะชีวิตนั้นไม่แน่นอน ดังนั้นถ้าใครรู้จักออมรู้จักเก็บสตางค์ไว้ใช้ในอนาคตจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้

สำหรับในอนาคตนั้น น้องอ้อ คิดกับเพื่อนๆ ว่าอยากจะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ สักหนึ่งร้านที่มีบรรยากาศดีๆ แต่ตอนนี้ตนและเพื่อนๆ เพิ่งสำเร็จการศึกษา และเพิ่งเริ่มทำงานจึงต้องขอเวลาเก็บสตางค์สักก้อนหนึ่ง เพื่อที่จะได้มีทุนในการเปิดร้าน อีกทั้งยังไม่เป็นหนึ้เป็นสิ้นอีกด้วย

น้องอ้อบอกเสริมอีกว่าจากการทำงานย่อมที่จะมีความเครียดเข้ามาบ้าง แต่จะมีเคล็ดลับเล็กๆ คือจะไม่ไปนึกถึงหรือหมกมุ่นกับปัญหานั้นจนมากเกินไป และพยายามผ่อนคลายด้วยการนั่งเฉยๆ หรืออ่านหนังสือ เป็นต้น เพื่อให้มีสติสมาธิมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วเมื่อว่างจากการทำงานน้องอ้อจะชอบไปเที่ยวทะเล โดยเฉพาะหัวหิน ซึ่งเป็นทะเลที่เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งการไปเที่ยวทะเลเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดด้วย

สุดท้ายน้องอ้อ บอกว่า การใช้เงินในยุคปัจจุบันต้องมีความระมัดระวังกันมากขึ้น เพราะข้าวของทุกวันนี้มีราคาที่แพงมากขึ้น ดังนั้นเมื่อจะเลือกซื้ออะไรต้องคิดให้ดีเสียก่อน ไตร่ตรองดูหลายๆ หน เพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่เราจะเสียไปมันคุ้มกันมากน้อยแค่ไหน

ชื่อ – นามสกุล อังคณา ตรีรัตนาทิพย์
วันเดือนปีเกิด 22 สิงหาคม 2528
จบการศึกษา ปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
งานปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ของธนาคารธนชาต

กำลังโหลดความคิดเห็น