บลจ.ไทยพาณิชย์เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออลย์ ลิงค์ มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ ประเดิมเปิดโต๊ะรับจองไอพีโอ 1-7 ส.ค.นี้ ล่าสุดแบ่งเค้ก กับบลจ.ไอเอ็นจีร่วมบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ กสจ. มูลค่า 5,498 ล้านบาท
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออลย์ ลิงค์ (SCB OIL LINKED OPEN END FUND : SCBOLF) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี 3 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงของสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยมีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ และจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 1-7 สิงหาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ที่มีเงื่อนไขที่จะชำระเงินต้นคืนเต็มจำนวนซึ่งออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่อันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ในประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่อง การลงทุนในตราสารหนี้ดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Derivatives) ที่มีตัวแปรอ้างอิงเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน (Hedging)
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังได้รับการแต่งตั้งให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) สำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) มูลค่า 5,498,974,703.95 บาท โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 ถึง 31 กรกฎาคม 2553 กำหนดระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ ทาง กสจ.มีนโยบายการลงทุนผสมแบบยืดหยุ่น สัดส่วนการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ร้อยละ 85 ลงทุนในตราสารทุนไม่เกินร้อยละ 15 และการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 5 (นับรวมอยู่ในส่วนของตราสารทุน)
ส่วนสาเหตุที่ กสจ.ได้คัดเลือก บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นบริษัทจัดการที่ดูแล เนื่องจาก 1.ชื่อเสียง และประสบการณ์ในการบริหารกองทุน 2.มีรูปแบบการลงทุนนำเสนอที่หลากหลาย 3.มีประสบการณ์ในการลงทุนในต่างประเทศ และ 4.มีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนในลักษณะ Co – manager
อนึ่ง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) ได้ดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2540 ส่วนสถานภาพของ กสจ.ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวนลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่เป็นสมาชิก กสจ. 157,130 ราย และมีจำนวนหน่วยราชการที่นำส่งเงิน 2,930 แห่ง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11,147,949,407.89 บาท และตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 กสจ.ได้เริ่มสัญญาใหม่โดยแต่งตั้งบริษัทจัดการการลงทุนรายใหม่แทนบริษัทจัดการเดิมที่สิ้นสุดสัญญา จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์มีทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหาร สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551จำนวน 46,046,377,068.04 บาท และมีจำนวนนายจ้างภายใต้การบริหาร 745 ราย โดยหากนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 เมื่อรวมกับที่ได้รับการแต่งตั้งให้บริหารของ กสจ. และนายจ้างรายอื่น บลจ. ไทยพาณิชย์ จะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหาร ประมาณ 51,546 ล้านบาท จำนวนนายจ้างภายใต้การบริหาร 766 ราย
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออลย์ ลิงค์ (SCB OIL LINKED OPEN END FUND : SCBOLF) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี 3 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงของสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยมีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ และจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 1-7 สิงหาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ที่มีเงื่อนไขที่จะชำระเงินต้นคืนเต็มจำนวนซึ่งออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่อันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ในประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่อง การลงทุนในตราสารหนี้ดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Derivatives) ที่มีตัวแปรอ้างอิงเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน (Hedging)
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังได้รับการแต่งตั้งให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) สำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) มูลค่า 5,498,974,703.95 บาท โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 ถึง 31 กรกฎาคม 2553 กำหนดระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ ทาง กสจ.มีนโยบายการลงทุนผสมแบบยืดหยุ่น สัดส่วนการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ร้อยละ 85 ลงทุนในตราสารทุนไม่เกินร้อยละ 15 และการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 5 (นับรวมอยู่ในส่วนของตราสารทุน)
ส่วนสาเหตุที่ กสจ.ได้คัดเลือก บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นบริษัทจัดการที่ดูแล เนื่องจาก 1.ชื่อเสียง และประสบการณ์ในการบริหารกองทุน 2.มีรูปแบบการลงทุนนำเสนอที่หลากหลาย 3.มีประสบการณ์ในการลงทุนในต่างประเทศ และ 4.มีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนในลักษณะ Co – manager
อนึ่ง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) ได้ดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2540 ส่วนสถานภาพของ กสจ.ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวนลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่เป็นสมาชิก กสจ. 157,130 ราย และมีจำนวนหน่วยราชการที่นำส่งเงิน 2,930 แห่ง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11,147,949,407.89 บาท และตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 กสจ.ได้เริ่มสัญญาใหม่โดยแต่งตั้งบริษัทจัดการการลงทุนรายใหม่แทนบริษัทจัดการเดิมที่สิ้นสุดสัญญา จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์มีทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหาร สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551จำนวน 46,046,377,068.04 บาท และมีจำนวนนายจ้างภายใต้การบริหาร 745 ราย โดยหากนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 เมื่อรวมกับที่ได้รับการแต่งตั้งให้บริหารของ กสจ. และนายจ้างรายอื่น บลจ. ไทยพาณิชย์ จะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหาร ประมาณ 51,546 ล้านบาท จำนวนนายจ้างภายใต้การบริหาร 766 ราย
