บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแสตอบรับ “กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์” ชี้นักลงทุนมั่นใจไปได้สวยท และเป็นจังหวะดีในการลงทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำลงหลังราคาน้ำมันร่วงต่อเนื่อง ย้ำจุดเด่นอยู่ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส พร้อมคุ้มครองเงินต้น 100% ในรูปสกุลเงินเหรียญออสเตรเลีย เปิดจองหน่วยลงทุนถึง 31 ก.ค.นี้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากการจัดงานเสวนาพิเศษในหัวข้อ “วิเคราะห์วิกฤติน้ำมันโลกและโอกาสการลงทุน” ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมีความสนใจกองทุนดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีที่กองทุนจะสามารถเข้าลงทุนได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
โดยกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) แบบคุ้มครองเงินต้น 100% ในสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยตราสารดังกล่าวจะมีผลตอบแทนที่อ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (NYMEX WTI Crude Oil หรือ CL1) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นกองทุนแรกที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส
“ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสได้ปรับตัวลดลงจากระดับราคาสูงสุดที่ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ลงมาอยู่ที่ระดับ 125 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นการปรับตัวลดลงเกือบ 15% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนของกองทุนโดยตรง เนื่องจากทำให้ราคาเริ่มต้นในการลงทุนต่ำลง และกลไกการจ่ายคืนเงินต้นและผลตอบแทนมีโอกาสเป็นไปตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ผู้ลงทุนในกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงถึง 10% ต่อปี จากการที่ราคาน้ำมัน NYMEX WTI ปรับเพิ่มขึ้น 6% นับจากวันที่ลงทุนเริ่มแรก ณ วันที่กำหนด คือ พิจารณาทุกๆ 6 เดือน (เดือนที่ 6, 12, 18 และเดือนที่ 24) โดยเทียบกับราคาปิดของวันที่ลงทุนวันแรก หากราคาปิดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเท่ากับหรือมากกว่า 6% ผู้ออกตราสารจะทำการชำระคืนเงินต้นและผลตอบแทนรวม 10% ต่อปี ในรูปสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งกองทุนจะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติและเลิกกองทุนตามระยะเวลาที่ทำได้
ขณะเดียวกันหากในแต่ละรอบการพิจารณา หากราคาปิดมีการปรับตัวไม่ถึง 6% สามารถรอพิจารณาในรอบถัดไป เช่น ในรอบเดือนที่ 6 หากราคาปิดปรับตัวไม่ถึง 6% สามารถรอพิจารณาในรอบถัดไป คือ ในรอบเดือนที่ 12 และจะทำการพิจารณาเช่นนี้ในรอบถัดไปหากราคาปิดปรับตัวไม่ถึง 6% เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดระยะเวลาลงทุน 2 ปีแล้ว หากราคาปิดไม่สามารถปรับตัวเพิ่มสูงกว่า 6% ได้ ผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้นในรูปสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลียให้กับผู้ลงทุนเท่านั้น ซึ่งจากแบบจำลองการลงทุนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2544 จนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 พบว่า โอกาสที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นไม่ถึง 6% โดยผู้ลงทุนจะได้รับคืนเฉพาะเงินต้นในเดือนที่ 24 มีเพียง 0.16% เท่านั้น สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ ได้เปิดเสนอขายในวันที่ 25-31 กรกฎาคม 2551 โดยบลจ.ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรีบัตรน้ำมัน ปตท. มูลค่า 1,000 บาท ของทุกๆ ยอดจองซื้อ 1 ล้านบาท
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากการจัดงานเสวนาพิเศษในหัวข้อ “วิเคราะห์วิกฤติน้ำมันโลกและโอกาสการลงทุน” ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมีความสนใจกองทุนดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีที่กองทุนจะสามารถเข้าลงทุนได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
โดยกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) แบบคุ้มครองเงินต้น 100% ในสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยตราสารดังกล่าวจะมีผลตอบแทนที่อ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (NYMEX WTI Crude Oil หรือ CL1) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นกองทุนแรกที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส
“ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสได้ปรับตัวลดลงจากระดับราคาสูงสุดที่ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ลงมาอยู่ที่ระดับ 125 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นการปรับตัวลดลงเกือบ 15% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนของกองทุนโดยตรง เนื่องจากทำให้ราคาเริ่มต้นในการลงทุนต่ำลง และกลไกการจ่ายคืนเงินต้นและผลตอบแทนมีโอกาสเป็นไปตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ผู้ลงทุนในกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงถึง 10% ต่อปี จากการที่ราคาน้ำมัน NYMEX WTI ปรับเพิ่มขึ้น 6% นับจากวันที่ลงทุนเริ่มแรก ณ วันที่กำหนด คือ พิจารณาทุกๆ 6 เดือน (เดือนที่ 6, 12, 18 และเดือนที่ 24) โดยเทียบกับราคาปิดของวันที่ลงทุนวันแรก หากราคาปิดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเท่ากับหรือมากกว่า 6% ผู้ออกตราสารจะทำการชำระคืนเงินต้นและผลตอบแทนรวม 10% ต่อปี ในรูปสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งกองทุนจะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติและเลิกกองทุนตามระยะเวลาที่ทำได้
ขณะเดียวกันหากในแต่ละรอบการพิจารณา หากราคาปิดมีการปรับตัวไม่ถึง 6% สามารถรอพิจารณาในรอบถัดไป เช่น ในรอบเดือนที่ 6 หากราคาปิดปรับตัวไม่ถึง 6% สามารถรอพิจารณาในรอบถัดไป คือ ในรอบเดือนที่ 12 และจะทำการพิจารณาเช่นนี้ในรอบถัดไปหากราคาปิดปรับตัวไม่ถึง 6% เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดระยะเวลาลงทุน 2 ปีแล้ว หากราคาปิดไม่สามารถปรับตัวเพิ่มสูงกว่า 6% ได้ ผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้นในรูปสกุลเงินเหรียญดอลลาร์ออสเตรเลียให้กับผู้ลงทุนเท่านั้น ซึ่งจากแบบจำลองการลงทุนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2544 จนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 พบว่า โอกาสที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นไม่ถึง 6% โดยผู้ลงทุนจะได้รับคืนเฉพาะเงินต้นในเดือนที่ 24 มีเพียง 0.16% เท่านั้น สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ ได้เปิดเสนอขายในวันที่ 25-31 กรกฎาคม 2551 โดยบลจ.ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรีบัตรน้ำมัน ปตท. มูลค่า 1,000 บาท ของทุกๆ ยอดจองซื้อ 1 ล้านบาท