ในยามบ่ายอ่อนๆ อากาศร้อนๆ เช่นนี้ การนั่งรับลมเย็นๆ อยู่ในห้องแอร์หลังอาหารมื้อเที่ยง เชื่อว่าทำให้หลายต่อหลายคนนั่งสับพงกอยู่บนโต๊ะทำงานแน่นอน...ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับต้นกล้า ที่กำลังนั่งสับผงกอยู่บนเก้าอี้ทำงาน หลังจากอิ่มมาเต็มที่กับมื้อเที่ยงอันสุดแสนจะอร่อย ก่อนจะผล่อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว…
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะหลับลึกลงไปกว่านี้ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งมาพร้อมกับเสียงสั่นทะเทือนจากระบบสั่น ทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที...ต้นกล้าตั้งสติ ใช้มือลูบที่ตาทั้งสองข้าง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “แฮ่มมมมม” เขาวอร์มเสียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้คนในสายจับได้ว่าเขากำลังหลับอยู่ ก่อนจะกดรับสายนั้น
**“สวัสดีครับ…ต้นกล้าพูดครับ”**
**“สวัสดีค่ะคุณต้น...พี่หยกเองค่ะ”**
**“อาครับ...ว่าไงครับคุณหยก” ที่จริงแล้วเขาจำไม่ได้หรอกว่าคุณหยกคือใคร แต่ก็ทำฟอร์มรู้จักเพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้ก่อน…ในระหว่างนั้น ต้นกล้าก็ทบทวนความจำตัวเองว่า “คุณหยก” คือใคร แล้วใบหน้าของคุณหยกก็ผุดขึ้นมา**“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ” เกือบแย่ไปแล้ว
**“เออ...พอดีพี่มีเรื่องจะปรึกษากับคุณต้นนิดหนึ่งนะค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน พี่ก็เลยจะเข้าไปหาซะหน่อย** ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณต้นติดลูกค้าอยู่หรือเปล่าค่ะ”
“อ๋อ...ไม่มีครับ เชิญได้เลยครับ”
“ดีเลยค่ะ งั้นอีกสักประมาณ 30 นาทีเจอกันนะค่ะ”
“ครับผม”
หลังจากวางสาย ต้นกล้าก็นั่งประมวลความจำเกี่ยวกับคุณหยกอีกครั้ง...**คุณหยกเป็นลูกค้าแบงก์มาก่อนที่ต้นกล้าจะเข้ามาทำงานซะด้วยซ้ำ ซึ่งหลังจากต้นกล้าเข้ามาทำหน้าที่นี้แทนคนก่อนที่ลาออกไป ต้นกล้าก็เคยคุยกับคุณหยกมาแล้วหลายครั้ง เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า คุณหยกมีพอร์ตลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟเอาไว้ แล้วก็ยังมีกองทุนหุ้นกับมันนี่มาร์เกตด้วย**
หลังจากทบทวนข้อมูลของลูกค้าครบถ้วนแล้ว ต้นกล้าก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วตามด้วยกาแฟร้อนถ้วยหนึ่ง...งานนี้ ถ้าง่วงอีกก้อให้มันรู้ไป
**ไม่นานนัก “คุณหยก” ลูกค้าคนสำคัญของต้นกล้าก็มาถึง...เธอเป็นผู้หญิงทำงานวัย 30 ต้นๆ ที่จัดว่าสวยคนหนึ่ง ถึงแม้สีผิวของเธอจะเข้มไปหน่อย แต่จมูกที่โด่งเป็นสัน และการแต่งหน้าที่ไม่จัดจนเกินไป ทำให้เธอดูสวยคมไม่เบาทีเดียว**...เธอเคาะประตูกระจกเบาๆ ส่งสัญญาณบอกต้นกล้าว่ามาถึงแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน...
“สวัสดีครับ” ต้นกล้ากล่าวทักทาย ก่อนเชิญนั่งที่โซฟารับแขก **“ข้างนอกอากาศร้อนใช้ได้เลยนะครับ” **
**“ใช่ค่ะ...นี่ถ้าพี่อยู่ออฟฟิต มีแอร์เย็นๆ ป่านนี้พี่คงเผลอหลับไปแล้วละค่ะ” **
ต้นกล้าสำลักน้ำลายตัวเองทันที หลังได้ยินคุณหยกพูดออกมา เพราะตะกี้เขาก็เพิ่งหลับไปเหมือนกัน “อะแฮ่ม...เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ มีอะไรให้ผมรับใช้ว่ามาเลยครับ”
**“พอดีพี่อยากจะขายกองทุนแอลทีเอฟนะค่ะ แต่ติดตรงที่ว่ากองทุนที่พี่ถืออยู่มันเลยระยะเวลาการขายไปแล้ว ทั้งครั้งแรกและครั้งที่สอง พี่ก็เลยอยากจะปรึกษาว่า พี่จะทำอะไรได้บ้าง”**
**“ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่า คุณหยกถือหน่วยลงทุนมาครบ 5 ปีปฏิทินตามเงื่อนไขแล้วใช่ไหมครับ?”**
“ใช่ค่ะ”
**“ถ้างั้นก็ไม่ผิดเงื่อนไข**...ว่าแต่ทำไมถึงตัดสินใจขายละครับ”
“พอดีพี่ต้องใช้เงินนะค่ะ แล้วอีกอย่างพี่คิดว่าพี่พอใจกับผลตอบแทนแล้ว เพราะพี่ลงทุนมาตั้งแต่จัดตั้งเลยนะ สักปี 2545 ได้มั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าผลตอบแทนโตขึ้นเป็นเท่าตัวเลยละ”
“จริงเหรอครับ...น่าสนใจมากนะครับ นี้แหละครับที่ผมอยากบอกต่อถึงลูกค้าคนอื่นๆ เพราะคุณหยกเชื่อไหมครับว่า**คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าไม่อยากล็อคเงินตัวเองเอาไว้ยาวๆ เลยไม่สนใจลงทุนในกองทุนประเภทนี้ ทั้งๆ ที่ได้ประโยชน์ตั้ง 2 ต่อ นอกจากสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีแล้ว ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนจำกำไรที่เกิดจากการลงทุนสูงๆ** แบบคุณหยกด้วย”
“ที่แรกพี่ก็คิดแบบนี้แหละค่ะ แต่พอเห็นโอกาสทำกำไรสองต่อแบบนี้ ก็เลยตัดสินใจลองดู สุดท้ายแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ”
“ผมเองก็เพิ่งลงทุนได้ไม่ถึงปีนัก ตอนนี้ผลตอบแทนก็โอเคเลยทีเดียว”
“อืมห์...แล้วคุณต้นลงเต็มเพดานภาษีเลยรึเปล่าค่ะ”
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้มีรายได้สูงขนาดนั้นหรอกครับ…เข้าเรื่องคุณหยกดีกว่าครับ”
“ได้ค่ะ”
**“ในกรณีของคุณหยกที่ต้องการจะขายหน่วยลงทุนหลังจากถือครบ 5 ปีปฏิทินแล้ว แต่เงื่อนไขของกองทุนแอลทีเอฟกำหนดให้ขายได้เพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น ซึ่งรอบการขายก็ผ่านไปแล้วทั้ง 2 ครั้งด้วย...ดังนั้น หากต้องการจะขายจริงๆ คุณหยกสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนที่ถืออยู่ ไปยังกองทุนแอลทีเอฟอื่นที่อยู่ภายใต้การจัดการของ บลจ.เดียวกัน หรือกองทุนแอลทีเอฟของบลจ.อื่นๆ ได้ครับ โดยเลือกกองทุนที่กำหนดระยะเวลาในการขายหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับระยะเวลาที่เราต้องการ**...แค่นั้นก็สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ได้แล้วครับ”
“แล้วเราต้องเสียค่าบริหารจัดการให้เขาหรือเปล่าค่ะ”
**“ในกรณีที่เราสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนภายใต้บริษัทจัดการเดียวกัน ก็ไม่น่าจะเสียนะครับ แต่ถ้าเป็นกองทุนของบลจ.อื่นๆ คิดว่าอาจจะต้องเสียค่าบริการตรงนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบลจ.อีกที”**
“เออ...แล้ว**สมมติว่าพี่จะย้ายไปกองทุนอื่น เช่น กองทุนมันนี่มาร์เกตของพี่นี่ได้หรือเปล่า”**
**“อันนี้ไม่ได้ครับ เพราะมันเท่ากับเราขายกองทุนออกไป ซึ่งเราจะขายได้ตามช่วงเวลาที่กองทุนนั้นกำหนดไว้เท่านั้น แต่ถ้าต้องการพักเงินไว้ที่กองทุนมันนี่มาร์เกต ก็ต้องขายหน่วยลงทุนออกมาก่อน แล้วค่อยไปลงทุนในมันนี่มาร์เกตต่ออีกที แบบนี้ถึงจะทำได้ครับ”**
“อืมห์...ถ้างั้นพี่ขอสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปกองทุนที่ขายได้เร็วที่สุดแล้วกัน....ว่าแต่ที่นี้มีกองทุนที่สามารถขายได้หรือเปล่า ”
“เดี๋ยวผมขอดูรายละเอียดก่อนนะครับ....อ๋อ มีอยู่ 1 กองทุนพอดี แล้วเปิดให้ขายได้เดือนหน้าพอดีด้วย จะเลือกกองนี้เลยไหมครับ ผมจะจัดการให้”
“งั้นคุณต้นช่วยจัดการให้พี่วันนี้เลยได้ไหมค่ะ”
“ยินดีครับผม...เดี๋ยวผมเอาเอกสารมาให้นะครับ”
...อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะหลับลึกลงไปกว่านี้ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งมาพร้อมกับเสียงสั่นทะเทือนจากระบบสั่น ทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที...ต้นกล้าตั้งสติ ใช้มือลูบที่ตาทั้งสองข้าง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “แฮ่มมมมม” เขาวอร์มเสียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้คนในสายจับได้ว่าเขากำลังหลับอยู่ ก่อนจะกดรับสายนั้น
**“สวัสดีครับ…ต้นกล้าพูดครับ”**
**“สวัสดีค่ะคุณต้น...พี่หยกเองค่ะ”**
**“อาครับ...ว่าไงครับคุณหยก” ที่จริงแล้วเขาจำไม่ได้หรอกว่าคุณหยกคือใคร แต่ก็ทำฟอร์มรู้จักเพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้ก่อน…ในระหว่างนั้น ต้นกล้าก็ทบทวนความจำตัวเองว่า “คุณหยก” คือใคร แล้วใบหน้าของคุณหยกก็ผุดขึ้นมา**“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ” เกือบแย่ไปแล้ว
**“เออ...พอดีพี่มีเรื่องจะปรึกษากับคุณต้นนิดหนึ่งนะค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน พี่ก็เลยจะเข้าไปหาซะหน่อย** ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณต้นติดลูกค้าอยู่หรือเปล่าค่ะ”
“อ๋อ...ไม่มีครับ เชิญได้เลยครับ”
“ดีเลยค่ะ งั้นอีกสักประมาณ 30 นาทีเจอกันนะค่ะ”
“ครับผม”
หลังจากวางสาย ต้นกล้าก็นั่งประมวลความจำเกี่ยวกับคุณหยกอีกครั้ง...**คุณหยกเป็นลูกค้าแบงก์มาก่อนที่ต้นกล้าจะเข้ามาทำงานซะด้วยซ้ำ ซึ่งหลังจากต้นกล้าเข้ามาทำหน้าที่นี้แทนคนก่อนที่ลาออกไป ต้นกล้าก็เคยคุยกับคุณหยกมาแล้วหลายครั้ง เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า คุณหยกมีพอร์ตลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟเอาไว้ แล้วก็ยังมีกองทุนหุ้นกับมันนี่มาร์เกตด้วย**
หลังจากทบทวนข้อมูลของลูกค้าครบถ้วนแล้ว ต้นกล้าก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วตามด้วยกาแฟร้อนถ้วยหนึ่ง...งานนี้ ถ้าง่วงอีกก้อให้มันรู้ไป
**ไม่นานนัก “คุณหยก” ลูกค้าคนสำคัญของต้นกล้าก็มาถึง...เธอเป็นผู้หญิงทำงานวัย 30 ต้นๆ ที่จัดว่าสวยคนหนึ่ง ถึงแม้สีผิวของเธอจะเข้มไปหน่อย แต่จมูกที่โด่งเป็นสัน และการแต่งหน้าที่ไม่จัดจนเกินไป ทำให้เธอดูสวยคมไม่เบาทีเดียว**...เธอเคาะประตูกระจกเบาๆ ส่งสัญญาณบอกต้นกล้าว่ามาถึงแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน...
“สวัสดีครับ” ต้นกล้ากล่าวทักทาย ก่อนเชิญนั่งที่โซฟารับแขก **“ข้างนอกอากาศร้อนใช้ได้เลยนะครับ” **
**“ใช่ค่ะ...นี่ถ้าพี่อยู่ออฟฟิต มีแอร์เย็นๆ ป่านนี้พี่คงเผลอหลับไปแล้วละค่ะ” **
ต้นกล้าสำลักน้ำลายตัวเองทันที หลังได้ยินคุณหยกพูดออกมา เพราะตะกี้เขาก็เพิ่งหลับไปเหมือนกัน “อะแฮ่ม...เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ มีอะไรให้ผมรับใช้ว่ามาเลยครับ”
**“พอดีพี่อยากจะขายกองทุนแอลทีเอฟนะค่ะ แต่ติดตรงที่ว่ากองทุนที่พี่ถืออยู่มันเลยระยะเวลาการขายไปแล้ว ทั้งครั้งแรกและครั้งที่สอง พี่ก็เลยอยากจะปรึกษาว่า พี่จะทำอะไรได้บ้าง”**
**“ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่า คุณหยกถือหน่วยลงทุนมาครบ 5 ปีปฏิทินตามเงื่อนไขแล้วใช่ไหมครับ?”**
“ใช่ค่ะ”
**“ถ้างั้นก็ไม่ผิดเงื่อนไข**...ว่าแต่ทำไมถึงตัดสินใจขายละครับ”
“พอดีพี่ต้องใช้เงินนะค่ะ แล้วอีกอย่างพี่คิดว่าพี่พอใจกับผลตอบแทนแล้ว เพราะพี่ลงทุนมาตั้งแต่จัดตั้งเลยนะ สักปี 2545 ได้มั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าผลตอบแทนโตขึ้นเป็นเท่าตัวเลยละ”
“จริงเหรอครับ...น่าสนใจมากนะครับ นี้แหละครับที่ผมอยากบอกต่อถึงลูกค้าคนอื่นๆ เพราะคุณหยกเชื่อไหมครับว่า**คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าไม่อยากล็อคเงินตัวเองเอาไว้ยาวๆ เลยไม่สนใจลงทุนในกองทุนประเภทนี้ ทั้งๆ ที่ได้ประโยชน์ตั้ง 2 ต่อ นอกจากสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีแล้ว ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนจำกำไรที่เกิดจากการลงทุนสูงๆ** แบบคุณหยกด้วย”
“ที่แรกพี่ก็คิดแบบนี้แหละค่ะ แต่พอเห็นโอกาสทำกำไรสองต่อแบบนี้ ก็เลยตัดสินใจลองดู สุดท้ายแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ”
“ผมเองก็เพิ่งลงทุนได้ไม่ถึงปีนัก ตอนนี้ผลตอบแทนก็โอเคเลยทีเดียว”
“อืมห์...แล้วคุณต้นลงเต็มเพดานภาษีเลยรึเปล่าค่ะ”
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้มีรายได้สูงขนาดนั้นหรอกครับ…เข้าเรื่องคุณหยกดีกว่าครับ”
“ได้ค่ะ”
**“ในกรณีของคุณหยกที่ต้องการจะขายหน่วยลงทุนหลังจากถือครบ 5 ปีปฏิทินแล้ว แต่เงื่อนไขของกองทุนแอลทีเอฟกำหนดให้ขายได้เพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น ซึ่งรอบการขายก็ผ่านไปแล้วทั้ง 2 ครั้งด้วย...ดังนั้น หากต้องการจะขายจริงๆ คุณหยกสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนที่ถืออยู่ ไปยังกองทุนแอลทีเอฟอื่นที่อยู่ภายใต้การจัดการของ บลจ.เดียวกัน หรือกองทุนแอลทีเอฟของบลจ.อื่นๆ ได้ครับ โดยเลือกกองทุนที่กำหนดระยะเวลาในการขายหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับระยะเวลาที่เราต้องการ**...แค่นั้นก็สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ได้แล้วครับ”
“แล้วเราต้องเสียค่าบริหารจัดการให้เขาหรือเปล่าค่ะ”
**“ในกรณีที่เราสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนภายใต้บริษัทจัดการเดียวกัน ก็ไม่น่าจะเสียนะครับ แต่ถ้าเป็นกองทุนของบลจ.อื่นๆ คิดว่าอาจจะต้องเสียค่าบริการตรงนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบลจ.อีกที”**
“เออ...แล้ว**สมมติว่าพี่จะย้ายไปกองทุนอื่น เช่น กองทุนมันนี่มาร์เกตของพี่นี่ได้หรือเปล่า”**
**“อันนี้ไม่ได้ครับ เพราะมันเท่ากับเราขายกองทุนออกไป ซึ่งเราจะขายได้ตามช่วงเวลาที่กองทุนนั้นกำหนดไว้เท่านั้น แต่ถ้าต้องการพักเงินไว้ที่กองทุนมันนี่มาร์เกต ก็ต้องขายหน่วยลงทุนออกมาก่อน แล้วค่อยไปลงทุนในมันนี่มาร์เกตต่ออีกที แบบนี้ถึงจะทำได้ครับ”**
“อืมห์...ถ้างั้นพี่ขอสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปกองทุนที่ขายได้เร็วที่สุดแล้วกัน....ว่าแต่ที่นี้มีกองทุนที่สามารถขายได้หรือเปล่า ”
“เดี๋ยวผมขอดูรายละเอียดก่อนนะครับ....อ๋อ มีอยู่ 1 กองทุนพอดี แล้วเปิดให้ขายได้เดือนหน้าพอดีด้วย จะเลือกกองนี้เลยไหมครับ ผมจะจัดการให้”
“งั้นคุณต้นช่วยจัดการให้พี่วันนี้เลยได้ไหมค่ะ”
“ยินดีครับผม...เดี๋ยวผมเอาเอกสารมาให้นะครับ”
...อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า
