Q&A Corner : เเม่บ้านอยากลงทุน RMF

ถาม - ได้ยินโฆษณาเกี่ยวกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพอยู่บ่อยๆ และพอจะทราบเงื่อนไขเกี่ยวกับกองทุนนี้อยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าคนที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว ไม่ได้มีรายได้อื่นๆ แต่อยากจะนำเงินเก็บที่ฝากไว้กับธนาคาร ไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยจะลงทุนยาวๆ เก็บสะสมเอาไว้ใช้ตอนแก่ จะสามารถลงทุนในกองทุนนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ มีทางเลือกอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กันหรือไม่ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

ตอบ - เจ้าหน้าที่จากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนได้ตอบคำถาม คุณเเม่บ้านดังนี้ครับ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF (Retirement Mutual Fund) เป็นกองทุนรวมประเภทพิเศษ ที่จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวผ่านการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีเงินเก็บไว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิตอย่างสุขสบาย และการลงทุนใน RMF ยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี กล่าวคือ สิทธิในการนำเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนใน RMF ไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี และได้รับยกเว้นภาษีจากกำไรที่ได้รับจากการขายหน่วยลงทุน โดยผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

สำหรับผู้ถามที่เป็นแม่บ้าน ไม่มีเงินได้ ถามว่าจะลงทุนใน RMF ได้หรือไม่ คำตอบคือ บุคคลธรรมดาทุกท่านสามารถลงทุนได้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีใดๆ เลย คือ ไม่ได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี(เนื่องจากปกติไม่มีรายได้ และไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว) และถ้ามีกำไรจากการขายหน่วยลงทุน ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับด้วย

ดังนั้น ดิฉันไม่แนะนำให้คุณแม่บ้านนำเงินออมที่มีอยู่มาลงทุนใน RMF ค่ะ เนื่องจากเสียโอกาสที่จะได้รับประโยชน์สิทธิลดหย่อนทางภาษีจากการลงทุน แต่ให้นำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนรวมทั่วๆ ไปแทน ซึ่งมีนโยบายการลงทุนให้เลือกไม่แตกต่างไปจาก RMF และได้รับยกเว้นภาษีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อบริหารเงินออมให้งอกเงย แถมมีสภาพคล่องให้เลือกได้ ไม่ว่าจะลงทุนในระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว

หากแต่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว เพื่อเก็บออมไว้ใช้ในยามชราแล้ว ก็ควรจะมีวินัยในการลงทุนสูงสักหน่อย เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขใดๆ มาบังคับให้เราต้องปฏิบัติอย่างเช่น RMF ผู้ลงทุนต้องวางเป้าหมายแล้วควบคุมตนเองเพื่อปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายด้วยตนเองเท่านั้น นอกจากนั้น สิ่งสำคัญที่ละเลยไปไม่ได้ คือ การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงควบคู่อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน RMF หรือ กองทุนรวมทั่วๆ ไป ซึ่งแตกต่างจากการฝากเงินไว้กับธนาคาร ที่รัฐยังรับประกันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอยู่ทั้งจำนวน

ความเสี่ยงจากการลงทุนจะมีมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมกองนั้นๆ ว่านำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารประเภทใดบ้าง (สามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมกองนั้นๆ) เช่น

กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญเป็นส่วนใหญ่ กองทุนรวมประเภทนี้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูง แต่ในขณะเดียวกันโอกาสที่จะขาดทุน ไม่ได้รับเงินคืนครบตามจำนวนที่ลงทุนไว้ตั้งแต่แรกก็สูงเช่นกัน

กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารทางการเงิน เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ เหล่านี้ ผลตอบแทนที่ได้รับจะน้อย แต่ความเสี่ยงที่เงินต้นจะหายก็ลดน้อยลงไปด้วย และถ้ากองทุนรวมกองใดเน้นลงทุนเฉพาะตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรระยะสั้นๆ ด้วยแล้ว ความเสี่ยงก็จะน้อยลงไปอีก อย่างไรก็ดีผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารทางการเงินนั้น มีโอกาสได้มากกว่าเงินฝากนิดหน่อย

กองทุนรวมที่เน้นลงทุนทั้งหุ้นสามัญ และตราสารทางเงินผสมกัน กองทุนรวมประเภทนี้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนและเผชิญความเสี่ยงอยู่ในระดับกลางๆ เหล่านี้เป็นต้น คุณแม่บ้านอาจจะมีเวลามากหน่อย ก็ลองกระจายการลงทุนในกองทุนรวมหลายนโยบายได้ หรือกระจายการลงทุนแบบสั้นบ้าง ยาวบ้าง เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการลงทุน ก็นำเงินที่ไถ่ถอนคืนมาลงทุนในกองทุนใหม่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ก็ได้นะคะ

ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่จากสมาคมบริษัทจัดการกองทุนมากนะครับ ท่านผู้อ่านท่านใดที่มีข้อสงสัยเรื่องกองทุนรวม สามารถส่งคำถามมาได้ที่ fund@manager.co.th หรือโพสต์ข้อความไว้ที่หน้า กองทุนรวม www.manager.co.th ทางเรายินดีที่จะตอบคำถามให้ครับ