กองทุนรวมต่างชาติ "SKAGEN Kon-Tiki Verdipapirfond (Mututal fund)" ทุ่มเงินเกือบ 30 ล้านบาท เข้าเก็บหุ้นบมจ.เอ็มบีเคเพิ่ม 0.2% ดันสัดส่วนการถือหุ้นแตะ5%
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา SKAGEN Kon-Tiki Verdipapirfond (Mututal fund) ได้ทำการซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK จำนวน 419,900 หุ้น คิดเป็น 0.2% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในราคา 70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 29,393,000 บาท
ทั้งนี้หลังจากการได้มีซึ่งหลักทรัพย์จะส่งผลทำให้ KAGEN Kon-Tiki Verdipapirfond (Mututal fund) ถือครองหุ้นของบมจ.เอ็ม บี เค รวม 9437800 คิดเป็น 5 % ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด จากเดิมที่ถือครองหุ้นสามัญจำนวน 9,017,900 คิดเป็น 4.8% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
โดย ณ วันที่ 17 เมษายน 2551 ปราฏรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรกของบมจ.เอ็ม บี เค ดังต่อไปนี้ อันดับ 1 บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 38,880,000 คิดเป็น 20.61% , อันดับ 2 บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 18,856,209 คิดเป็น 10.00 % , อันดับ 3 RBC DEXIA INVESTOR SERVICES TRUST ถือหุ้นจำนวน 9,301,000คิดเป็น 4.93% , 4. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 9,180,000 คิดเป็น 4.87% และ อันดับ 5.บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด ถือหุ้นจำนวน 7,684,200คิดเป็น 4.07%
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ราคาหลักทรัพย์ของบมจ.เอ็ม บี เค ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ3.45% และมีมูลค่าการซื้อขาย 351,900 บาท
ก่อนหน้านี้ นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม บี เค เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ว่า บริษัทจะขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมมากขึ้นภายใต้งบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโรงแรมแห่งใหม่ไม่เกิน 5 แห่ง เน้นพื้นที่ในจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยโครงการที่มีแผนการลงทุนชัดเจนแล้ว ประกอบด้วย บริเวณเกาะสมุย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2552 แล้วเสร็จประมาณ 1-2 ปี และโครงการที่พัทยากลาง รวมถึงบริษัทยังสนใจจะลงทุนใน จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย ขณะที่ตอนนี้บริษัทมีโรงแรมในการบริหารจัดการรวม 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส , โรงแรมเชอราตัน , โรงแรมปริ้นเซส จังหวัดระนอง และโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน สี่พระยา โดยภายหลังการลงทุนคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 30% จากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวม
“ในส่วนของแผนการลงทุนระยะสั้นในช่วงระหว่างปี 2551-2552 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปรับปรุงระบบภายในศูนย์การค้าเอ็มบีเค รวมทั้งการปรับปรุงโรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส ครั้งใหญ่ในรอบ 11 ปี”
ส่วนแผนการตลาดธุรกิจศูนย์การค้าเอ็มบีเคนั้นจะเน้นขยายกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีการใช้จ่ายต่อครั้งสูงเฉลี่ยที่ 3,000-5,000 บาทต่อครั้งและตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 30% ในอีก 2-3 ปีจากปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 22% นอกจากนี้แนวทางดังกล่าวยังช่วยร้านค้าเช่าให้มีรายได้หมุนเวียนมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไทยต้องประสบกับปัญหาค่าครองชีพสูง ทำให้การใช้จ่ายลดน้อยลง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา SKAGEN Kon-Tiki Verdipapirfond (Mututal fund) ได้ทำการซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK จำนวน 419,900 หุ้น คิดเป็น 0.2% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในราคา 70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 29,393,000 บาท
ทั้งนี้หลังจากการได้มีซึ่งหลักทรัพย์จะส่งผลทำให้ KAGEN Kon-Tiki Verdipapirfond (Mututal fund) ถือครองหุ้นของบมจ.เอ็ม บี เค รวม 9437800 คิดเป็น 5 % ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด จากเดิมที่ถือครองหุ้นสามัญจำนวน 9,017,900 คิดเป็น 4.8% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
โดย ณ วันที่ 17 เมษายน 2551 ปราฏรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรกของบมจ.เอ็ม บี เค ดังต่อไปนี้ อันดับ 1 บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 38,880,000 คิดเป็น 20.61% , อันดับ 2 บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 18,856,209 คิดเป็น 10.00 % , อันดับ 3 RBC DEXIA INVESTOR SERVICES TRUST ถือหุ้นจำนวน 9,301,000คิดเป็น 4.93% , 4. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 9,180,000 คิดเป็น 4.87% และ อันดับ 5.บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด ถือหุ้นจำนวน 7,684,200คิดเป็น 4.07%
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ราคาหลักทรัพย์ของบมจ.เอ็ม บี เค ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ3.45% และมีมูลค่าการซื้อขาย 351,900 บาท
ก่อนหน้านี้ นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม บี เค เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ว่า บริษัทจะขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมมากขึ้นภายใต้งบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโรงแรมแห่งใหม่ไม่เกิน 5 แห่ง เน้นพื้นที่ในจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยโครงการที่มีแผนการลงทุนชัดเจนแล้ว ประกอบด้วย บริเวณเกาะสมุย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2552 แล้วเสร็จประมาณ 1-2 ปี และโครงการที่พัทยากลาง รวมถึงบริษัทยังสนใจจะลงทุนใน จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย ขณะที่ตอนนี้บริษัทมีโรงแรมในการบริหารจัดการรวม 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส , โรงแรมเชอราตัน , โรงแรมปริ้นเซส จังหวัดระนอง และโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน สี่พระยา โดยภายหลังการลงทุนคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 30% จากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวม
“ในส่วนของแผนการลงทุนระยะสั้นในช่วงระหว่างปี 2551-2552 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปรับปรุงระบบภายในศูนย์การค้าเอ็มบีเค รวมทั้งการปรับปรุงโรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส ครั้งใหญ่ในรอบ 11 ปี”
ส่วนแผนการตลาดธุรกิจศูนย์การค้าเอ็มบีเคนั้นจะเน้นขยายกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีการใช้จ่ายต่อครั้งสูงเฉลี่ยที่ 3,000-5,000 บาทต่อครั้งและตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 30% ในอีก 2-3 ปีจากปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 22% นอกจากนี้แนวทางดังกล่าวยังช่วยร้านค้าเช่าให้มีรายได้หมุนเวียนมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไทยต้องประสบกับปัญหาค่าครองชีพสูง ทำให้การใช้จ่ายลดน้อยลง