xs
xsm
sm
md
lg

GRAMMYเปิดบ้านโชว์ภาพรวมธุรกิจ เพิ่มความเชื่อมั่นโบรกฯ-ผู้จัดการกองทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่”สานต่อเป้าหมายทางธุรกิจ โกยรายได้ทั้งปี 8,000 ล้านบาท หรือโตเพิ่มอีก7% จากปี2550 ล่าสุดเปิดบ้านช่วนนักวิเคราะห์ ผู้จัดการกองทุนร่วมชมการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มความเข้าใจ และความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ

รายงานข่าวจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ระบุว่าเมื่อเเร็วๆนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรม Open House Behind the Scene ขึ้น เพื่อเปิดบ้านให้ นักลงทุนทั่วไป นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนรวม เข้ามาสัมผัสโมเดลธุรกิจ Total Music Business หรือ “ผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร” ที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้าน “คอนเทนต์” และ “ทาเลนต์” อย่างใกล้ชิด

สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้การตอบรับเป็นอย่างดี จาก “นักลงทุนทั่วไป พร้อมทั้งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนรวม อาทิ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมทิสโก้, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง, บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง, บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ ฯลฯ” ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก

โดย วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม Open House Behind the Scene เพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจ และความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร (Total Music Business) ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง นักลงทุนทั่วไป นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนรวม กับ ผู้บริหารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

ทั้งนี้ภายในงานมี นายสิริชัย ตันติพงศ์อนันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบัญชีการเงิน และนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กรรมการผู้จัดการ สายงานอราทิส บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ และพาเยี่ยมชมการดำเนินงานแต่ละฝ่ายภายในอาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็น ห้องส่งวิทยุ ห้องสตูดิโอตัดต่อภาพ ห้องซ้อมเต้น ฯลฯ รวมทั้งพาออกนอกสถานที่ไปเยี่ยมชมกองถ่ายละครซิทคอมชื่อดังของ ค่ายเอ็กแซ็กท์ ถึงสตูดิโอ ลาดพร้าว 101

ขณะเดียวกันของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ นักลงทุนทั่วไป นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนรวม ได้พูดคุยกับผู้บริหารของบริษัท พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อนำข้อมูลไปเสนอแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน และนักลงทุนได้รัยทราบ

อนึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าว บริษัทถือว่าเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง หลังจากที่ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ และทีมผู้บริหาร ได้แถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2551 ว่า จะมุ่งเน้นความเป็น ผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร (Total Music Business) พร้อมทั้งเดินหน้าใช้กลยุทธ์ Customer Centric อย่างต่อเนื่อง คือ สร้างงานให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และใช้สื่อที่มีอยู่ในมือให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการจัดทัพธุรกิจเพลงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Segment Orientation คือ แบ่งแยกธุรกิจเพลงออกเป็น 6 เซกเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผุ้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลาย และเฉพาะตัวมากขึ้น ได้แก่ ทีน ไอดอล, ป๊อป ไอดอล, ร็อค, นิช มาร์เก็ต, วินเทจ และลูกทุ่ง เพื่อเป้าหมายรายได้รวม 8 พันล้านบาท เติบโต 7% เมื่อเทียบกับปี 2550

โดย 3 ปัจจัยหลักที่จะสนับสนุนให้รายได้เติบโต ประกอบด้วย 1.โอกาสทางการตลาดมากขึ้น เพราะตลาดเพลงขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของผู้บริโภคโดยตรงที่เสพเพลงได้มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีและในส่วนของภาคธุรกิจที่เพลงกลายเป็นอาวุธทางการตลาดที่สำคัญ อีกทั้งปัจจุบันยังเกิดเทรนด์ธุรกิจการเงิน เทคโนโลยี สื่อสาร ฯลฯ นิยมใช้เพลงเป็นเครื่องมือสำหรับการทำ CRM (Customers Relationship Management) 2.ความพร้อมเหนือคู่แข่ง เพราะบริษัทฯ มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพลงครบถ้วน (Total Music Company) ทำให้ศิลปินไว้วางใจให้ดูแลบริหารสิทธิ์ครบทุกด้าน มีศิลปินมากที่สุด และเป็นคลังคอนเทนต์ใหญ่ที่สุด และ 3.การปรับโมเดลหารายได้ใหม่ ชูกลยุทธ์ Total Music Business คือ Singing, Listening & Watching Marketing, Segment Marketing และ Subsidize Marketing เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและความต้องการคู่ค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ธุรกิจเพลงมีรายได้และมาร์จิ้นสูงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น