xs
xsm
sm
md
lg

จีเอ็มเอ็มผนึกเนสท์ฯรุกญี่ปุ่น ชี้ตลาดใหญ่อันดับสองของโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ปลื้มธุรกิจเพลงไทยในญี่ปุ่นรุ่ง หลังผนึก “เนสท์ คอร์ปอเรชั่น” ร่วมบุกเบิกตลาดตั้งแต่ต้นปี 50 ชี้ แม้ตลาดเพลงไทยจะยังครองส่วนแบ่งได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็น นิช มาร์เก็ต อิน เดอะ บิ๊ก ส่ง “ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช” ลงสนามประเดิม

นายสุรชัย เสนศรี กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับบริษัท เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นค่ายเพลงในประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ต้นปี 2550 เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมไทย อาหารไทย คนไทย หรือเคยมาเมืองไทย ซึ่งการจับมือในครั้งนี้ถือเป็นการรุกทำตลาดเพลงไทยในต่างประเทศเป็นครั้งแรก สอดรับกับโมเดลธุรกิจใหม่ในการเป็นผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร (Total Music Business)

ตลาดเพลงในประเทศญี่ปุ่นมีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง เพราะปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 16 หมื่นล้านบาท (เทียบจาก 1 เหรียญสหรัฐฯ เท่ากับ 32 บาท) จัดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ขณะนี้ตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อย 5% ของส่วนแบ่งทางการตลาดเพลงอื่นๆ เช่น เกาหลี จีน เป็นต้น แต่ก็จัดเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีมูลค่า โดยเพลงญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 70% และเพลงตะวันตกครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 20%

ด้าน นายจุน อิจิ คาโตะ โปรดิวเซอร์และโปรโมเตอร์ บริษัท เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ค่ายเพลงในประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทร่วมทำตลาดเพลงต่างประเทศให้กับศิลปินต่างแดนหลายคน โดยในส่วนของประเทศไทยได้จับมือกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บริษัท เนสท์ฯ ได้เลือก “ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช” เข้าไปทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น เป็นศิลปินรายแรก เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบเมืองไทย อาทิ แม่บ้าน วัยพรีทีน โดยได้นำอัลบัมเพลงชุดแรกชื่อ “Ice”  เข้าไปวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปี 2550 จากนั้นได้นำซิงเกิลเพลง “อย่าเล่นตัว” เข้าไปวางจำหน่ายส่งท้ายปี 2550 ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก

ล่าสุด ได้นำอัลบัมเพลงชุดใหม่ชื่อ “Party On Ice“ เข้าไปวางจำหน่าย โดยขณะนี้มียอดขายแล้วหลายพันแผ่น และเป็นนักร้องไทยคนแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเชิญให้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ประจำปีครั้งที่ 5 ชื่อ “Kawasaki Asia Music Festival – Asian Healing 2008” ที่เมืองคาวาซากิ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยเสียงเพลง

*** “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เผยแผนโกอินเตอร์ไปได้สวยสง “ไอซ์ ศรัณยู” เจาะตลาดเพลงไทยในญี่ปุ่น ผลตอบรับดีเกินคาดดันเพลงติดอันดับ 1 หลายสถานี

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ปลื้มธุรกิจเพลงไทยในญี่ปุ่นรุ่ง หลังผนึก “เนสท์ คอร์ปอเรชั่น” ร่วมบุกเบิกตลาดตั้งแต่ต้นปี 2550 ชี้ แม้ตลาดเพลงไทยจะยังครองส่วนแบ่งได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นนิช มาร์เก็ต อิน เดอะ บิ๊ก เพราะตลาดเพลงญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยส่ง “ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช” ลงสนามเป็นศิลปินไทยร้องเพลงไทยขายคนญี่ปุ่นเบอร์แรก ชูคาแรกเตอร์ “สนุกสนาน-ร่าเริงเข้าใจง่าย”  เจาะกลุ่มวัยพรีทีนและแม่บ้านที่ชื่นชอบเมืองไทย เผยผลตอบรับดีเกินคาด พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการหน้าปัดวิทยุญี่ปุ่น เพราะเพลง “คนใจง่าย” ติดอันดับ 1 เพลงยอดนิยม

นายสุรชัย เสนศรี กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับบริษัท เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นค่ายเพลงในประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2550 เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมไทย อาหารไทย คนไทย หรือเคยมาเมืองไทย ซึ่งการจับมือในครั้งนี้ถือเป็นการรุกทำตลาดเพลงไทยในต่างประเทศเป็นครั้งแรก สอดรับกับโมเดลธุรกิจใหม่ในการเป็นผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร (Total Music Business) คือ บริหารจัดการศิลปินและคอนเทนต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อทำให้มีรายได้จากหลายช่องทางมากที่สุด

สาเหตุที่บริษัทเลือกเข้าไปทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมองว่าตลาดเพลงในประเทศญี่ปุ่นมีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง เพราะปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16 หมื่นล้านบาท (เทียบจาก 1 เหรียญสหรัฐฯเท่ากับ 32 บาท) จัดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ขณะนี้ตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อย 5% ของส่วนแบ่งทางการตลาดเพลงอื่นๆ เช่น เกาหลี จีน เป็นต้น แต่ก็จัดเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีมูลค่า โดยเพลงญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 70% และเพลงตะวันตกครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 20%

ด้าน นายจุน อิจิ คาโตะ โปรดิวเซอร์และโปรโมทเตอร์ บริษัท เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ค่ายเพลงในประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ร่วมทำตลาดเพลงต่างประเทศให้กับศิลปินต่างแดนหลายคน โดยในส่วนของประเทศไทยได้จับมือกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมองว่าจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เป็นบริษัทให้บริการเพลงแบบครบวงจร (Total Music Business) ที่มีคอนเทนต์และทาเลนต์ ทั้งแข็งแกร่งและใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

ทั้งนี้ บริษัทฯ เนสท์ได้เลือก “ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช” ซึ่งมีบุคลิกลักษณะสะท้อนความเป็นคนไทย คือ “สนุกสนาน ร่าเริง และเรียบง่าย” เข้าไปทำตลาดเพลงไทยในประเทศญี่ปุ่นเป็นศิลปินรายแรก เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบเมืองไทย อาทิ แม่บ้าน วัยพรีทีน โดยได้นำอัลบัมเพลงชุดแรกชื่อ “Ice”  เข้าไปวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปี 2550 จากนั้นได้นำซิงเกิลเพลง “อย่าเล่นตัว” เข้าไปวางจำหน่ายส่งท้ายปี 2550 ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก พร้อมทั้งสร้างปรากกฏการณ์ให้กับวงการหน้าปัดวิทยุประเทศญี่ปุ่น เพราะ “เพลงคนใจง่าย” ติดอันดับ 1 เพลงยอดนิยมของสถานีวิทยุหลายแห่ง อาทิ สถานีวิทยุโอซากา FM COCOLO สถานีวิทยุฟุกุโอเกะ LOVE FM

ล่าสุด ได้นำอัลบัมเพลงชุดใหม่ชื่อ “Party On Ice“ เข้าไปวางจำหน่าย ซึ่งผลตอบรับดีอีกเช่นกัน โดยขณะนี้มียอดขายแล้วหลายพันแผ่น และเป็นนักร้องไทยคนแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเชิญให้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ประจำปีครั้งที่ 5 ชื่อ “Kawasaki Asia Music Festival-Asian Healing 2008” ที่เมืองคาวาซากิ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยเสียงเพลง ซึ่งการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้มีนักร้องคุณภาพหลายประเทศเข้าร่วมงาน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เป็นต้น

“คนญี่ปุ่นให้การตอบรับไอซ์อบอุ่นมากๆ สังเกตได้จากมีแฟนคลับมานั่งรอไอซ์ตั้งแต่ทางเข้าคอนเสิร์ต เลยต้องเปิดห้องให้แฟนคลับสาวน้อยสาวใหญ่นับร้อย ที่มาให้กำลังใจเข้าไปมอบของขวัญกับมือไอซ์เอง ทำให้ไอซ์หน้าบานมากๆ ซึ่งคอนเสิร์ตในครั้งนี้ไอซ์มีโอกาสได้โชว์ 5 เพลง ได้แก่ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ กลับมาได้ไหม ใจช้ำช้ำ หมอนสองใบกับใจเหงาๆ และส่งท้ายด้วยเพลงคนใจง่าย ที่ทำให้แฟนคลับลุกขึ้นมาแดนซ์กระจายอย่างสนุกสนาน พร้อมส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์” นายจุน อิจิ คาโตะ กล่าว

อย่างไรก็ดี มองว่าเทรนด์เพลงไทยถ้าวางโพซิชั่นนิ่งดี และเจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย จะมีโอกาสเป็น นิช มาร์เก็ต อิน เดอะ บิ๊ก เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชื่นชอบความเป็นไทยอยู่แล้ว ซึ่งเคสของ “ไอซ์” ประสบความสำเร็จดีมาก เนื่องจากเป็นคนที่มีคาแรกเตอร์สนุกสนาน ร่าเริง และเรียบง่าย สะท้อนความเป็นคนไทยชัดเจน ทำให้ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนญี่ปุ่นเป็น Prince of Smile  ถือเป็นศิลปินป๊อปที่ลงตัว คือ อยู่ตรงกลางระหว่างความเป็นศิลปินญี่ปุ่นที่ดูเปราะบาง กับศิลปินเกาหลีที่มีความเป็น sexual ค่อนข้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น