บลจ.อเบอร์ดีนจับจังหวะดัชนีหุ้นรูด ทยอยซื้อหุ้นเดิมที่ถืออยู่แล้วเข้าพอร์ตกองทุนหุ้น ชี้ไม่ห่วงผลกระทบด้านการเมือง-เงินเฟ้อ เหตุเน้นลงทุนรายบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ด้านผลการดำเนินงานรอบ 5 เดือน ผลตอบแทนยังใกล้เคียงตลาดหลักทรัพย์ แต่เจอภาวะความผันผวนน้อยกว่า
นายออเสน การบริสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นภายใต้การบริหารของบริษัทไปตามภาวะเช่นกัน แต่หากมองในแง่ความผันผวนของกองทุนแล้ว จะมีค่อนข้างน้อยกว่าความผันผวนขงอตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากการลงทุนของอเบอร์ดีนส่วนใหญ่ไม่มีหุ้นขนาดใหญ่ (บิ้กแคป) มากนัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลงดังกล่าว ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะทยอยลงทุนเพิ่มในหุ้นที่เราถืออยู่ในพอร์ตอยู่แล้ว เนื่องจากหุ้นแต่ละตัวที่อเบอร์ดีนลงทุน มีการสกรีนออกมาแล้วว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ดังนั้น การที่เราให้ความสำคัญกับตัวบริษัทมากกว่าปัจจัยทางด้านแมคโครที่จะส่งผลต่อภาวะการลงทุนโดยรวมทำให้ไม่กังวลที่จะลงทุนเพิ่ม
ขณะเดียวกัน การที่ตลาดหุ้นปรับลดลงดังกล่าว พอร์ตการลงทุนของกองทุนหุ้นเองไม่ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญแต่อย่างใด เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับพื้นฐานของตัวบริษัทมากกว่า ซึ่งปัจจัยทางด้านการเมืองเอง เราเชื่อว่ามีผลกระทบในทางอ้อมเท่านั้น ส่วนภาวะเศรษฐกิจ เราก็ไม่ได้พิจารณาจากเชิงแมคโคร
"ผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา กองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของอเบอร์ดีน มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหลักทรัพย์ แต่การลงทุนในช่วง 5 เดือนนั้นเรามองว่าเป็นแค่การลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เพราะสไตล์การลงทุนของเราจะเน้นลงทุนระยะยาวมากกว่า" นายออเสนกล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นจำนวน 5 กองทุน (ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2551) ของบลจ.อเบอร์ดีน พบว่า กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกรท มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.81% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.62 % ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% โดยผลการดำเนินงานตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -2.25% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานคือ -2.85% ผลการดำเนินงานตั้งเเต่ต้นปีของกองทุนนั้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 0.6%
ขณะที่กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สยามลีดเดอร์ส มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.24% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% โดยผลการดำเนินงานนั้นสูงกว่ามาตรฐานถึง 1.19% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -2.58% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.27% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85%
ส่วนกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอลเเค็พ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0.82% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.61% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 นั่นอยู่ที่ -3.09%ให้ผลตอบเเทนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง -0.24 ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85%
สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีนไทย เอคควิตี้ ดีวิเด็น มีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -1.52% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.33% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85% ขณะที่กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.03% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 1.39% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังอยู่ที่ -2.60% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.25% เกณฑ์มาตรฐานชี้วัดดัชนีอยู่ที่ 2.85%
ก่อนหน้านี้ บลจ.อเบอร์ดีนรายงานสถานการณ์ตลาดประจำสัปดาห์ (26 พฤษภาคม 2551)ว่า ธนาคารเเห่งประเทศไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้คงเดิมที่ 3.25% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักลงทุน ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเร่งเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นครั้งที่สองโดยมีเป้าหมายที่การประหยัดพลังงานเเละเร่งเเผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน อัตรการขยายตัวของภาคการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 27% เป็นครั้งเเรกในรอบสามเดือน เนื่องจากระดับราคาที่สูงขึ้นของสินค้าอาหาร รวมถึงราคาข้าว น้ำตาลและยางพารา ซึ่งช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนตัวจากสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ฤดูรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเเรกขององค์กรเอกชนสิ้นสุดลง โดยบริษัทที่อเบอร์ดีนลงทุนถือหุ้นอยู่ ยังคงรายงานผลประกอบการที่น่าพอใจ ดังนี้ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) รายงานผลกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายเเละส่วนต่างกำไรก่อนภาษีที่สูงขึ้น รวมถึงมีต้นที่ลดลง ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการโยกย้ายโรงงานในจีนของบริษัท
ด้านกำไรสุทธิของบริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปรับเพิ่มขึ้นจากการได้รับค่าสินไหมทดเเทนจากบริษัทประกันภัยซึ่งเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่วนบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) รายงานตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะเดียวกันกำไรสุทธิของ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กลับมาเป็นบวกอย่างน่าพอใจอีกครั้ง หลังจากใช้เวลานานในการปรับโครงสร้างต้นทุนเกี่ยวเนื่องในปีภาษี 2550
นายออเสน การบริสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นภายใต้การบริหารของบริษัทไปตามภาวะเช่นกัน แต่หากมองในแง่ความผันผวนของกองทุนแล้ว จะมีค่อนข้างน้อยกว่าความผันผวนขงอตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากการลงทุนของอเบอร์ดีนส่วนใหญ่ไม่มีหุ้นขนาดใหญ่ (บิ้กแคป) มากนัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลงดังกล่าว ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะทยอยลงทุนเพิ่มในหุ้นที่เราถืออยู่ในพอร์ตอยู่แล้ว เนื่องจากหุ้นแต่ละตัวที่อเบอร์ดีนลงทุน มีการสกรีนออกมาแล้วว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ดังนั้น การที่เราให้ความสำคัญกับตัวบริษัทมากกว่าปัจจัยทางด้านแมคโครที่จะส่งผลต่อภาวะการลงทุนโดยรวมทำให้ไม่กังวลที่จะลงทุนเพิ่ม
ขณะเดียวกัน การที่ตลาดหุ้นปรับลดลงดังกล่าว พอร์ตการลงทุนของกองทุนหุ้นเองไม่ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญแต่อย่างใด เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับพื้นฐานของตัวบริษัทมากกว่า ซึ่งปัจจัยทางด้านการเมืองเอง เราเชื่อว่ามีผลกระทบในทางอ้อมเท่านั้น ส่วนภาวะเศรษฐกิจ เราก็ไม่ได้พิจารณาจากเชิงแมคโคร
"ผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา กองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของอเบอร์ดีน มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหลักทรัพย์ แต่การลงทุนในช่วง 5 เดือนนั้นเรามองว่าเป็นแค่การลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เพราะสไตล์การลงทุนของเราจะเน้นลงทุนระยะยาวมากกว่า" นายออเสนกล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นจำนวน 5 กองทุน (ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2551) ของบลจ.อเบอร์ดีน พบว่า กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกรท มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.81% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.62 % ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% โดยผลการดำเนินงานตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -2.25% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานคือ -2.85% ผลการดำเนินงานตั้งเเต่ต้นปีของกองทุนนั้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 0.6%
ขณะที่กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สยามลีดเดอร์ส มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.24% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% โดยผลการดำเนินงานนั้นสูงกว่ามาตรฐานถึง 1.19% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -2.58% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.27% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85%
ส่วนกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอลเเค็พ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0.82% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 0.61% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.43% สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 นั่นอยู่ที่ -3.09%ให้ผลตอบเเทนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง -0.24 ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85%
สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีนไทย เอคควิตี้ ดีวิเด็น มีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปี 2551 อยู่ที่ -1.52% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.33% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -2.85% ขณะที่กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.03% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 1.39% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังอยู่ที่ -2.60% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.25% เกณฑ์มาตรฐานชี้วัดดัชนีอยู่ที่ 2.85%
ก่อนหน้านี้ บลจ.อเบอร์ดีนรายงานสถานการณ์ตลาดประจำสัปดาห์ (26 พฤษภาคม 2551)ว่า ธนาคารเเห่งประเทศไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้คงเดิมที่ 3.25% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักลงทุน ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเร่งเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นครั้งที่สองโดยมีเป้าหมายที่การประหยัดพลังงานเเละเร่งเเผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน อัตรการขยายตัวของภาคการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 27% เป็นครั้งเเรกในรอบสามเดือน เนื่องจากระดับราคาที่สูงขึ้นของสินค้าอาหาร รวมถึงราคาข้าว น้ำตาลและยางพารา ซึ่งช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนตัวจากสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ฤดูรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเเรกขององค์กรเอกชนสิ้นสุดลง โดยบริษัทที่อเบอร์ดีนลงทุนถือหุ้นอยู่ ยังคงรายงานผลประกอบการที่น่าพอใจ ดังนี้ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) รายงานผลกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายเเละส่วนต่างกำไรก่อนภาษีที่สูงขึ้น รวมถึงมีต้นที่ลดลง ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการโยกย้ายโรงงานในจีนของบริษัท
ด้านกำไรสุทธิของบริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปรับเพิ่มขึ้นจากการได้รับค่าสินไหมทดเเทนจากบริษัทประกันภัยซึ่งเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่วนบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) รายงานตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะเดียวกันกำไรสุทธิของ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กลับมาเป็นบวกอย่างน่าพอใจอีกครั้ง หลังจากใช้เวลานานในการปรับโครงสร้างต้นทุนเกี่ยวเนื่องในปีภาษี 2550