"เซ็นทรัล" พับแผนการจัดตั้งพร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ต่างแดนหลังภาครัฐประกาศยกเลิกมาตรการ 30% และซับไพรม์พ่นพิษลามไปทั่วโลก ล่าสุดประกาศแผนเทคโอเวอร์กิจการขยายธุรกิจศูนย์การค้าต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โตขึ้น 15% จากปีก่อน ระบุปัญหาเรื่องที่ดินเซ็นทรัลลาดพร้าวจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ โบรกเกอร์ แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมสูงถึง 12 บาท
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า สำหรับแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่จะนำไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์นั้น ปัจจุบันบริษัทได้ชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องมาจากภาครัฐได้มีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ประกอบกับขณะนี้การลงทุนในต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ในสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้บริษัทต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการเข้าไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทตัดสินใจแน่นอนที่จะเข้าลงทุนในต่างประเทศแล้ว ก็จะหยิบยกแผนงานการออกกองทุนมาพิจารณาใหม่
" ส่วนเรื่องเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรทในปีนี้ บริษัทจะขายศูนย์การค้าเชียงใหม่และเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเข้าเป็นทรัพย์สินกองทุน ซึ่งขณะนี้รอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ซึ่งการขายดังกล่าวน่าจะทำให้ CPN ได้เม็ดเงินประมาณ 7 พันล้านบาท ส่วนกองทุนสำนักงานคงจะชะลอออกไปก่อนเป็นปี 2552 " นายนริศ กล่าว
ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัท นายนริศ กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยการซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) ในต่างจังหวัด 1 แห่ง ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเจรจาซื้อกิจการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งมองหาที่ดินใหม่เพื่อขยายสาขาเพิ่มเติม
นอกจากนี้บริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าในจังหวัดขอนแก่นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 8,650 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายสินทรัพย์ให้แก่ CPNRF และกระแสเงินสดบริษัท
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 8.4 พันล้านบาท แม้ว่าปัจจุบันปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/2551 นี้จะใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,200 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 3 นั้นเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้เช่าพื้นที่ในสาขาปิ่นเกล้า และเซ็นทรัลเวิลด์ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
นายนริศ กล่าวถึงการเจรจาต่อสัญญาเช่าที่ดินศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยดีคาดว่าจะได้ข้สรุปในเร็วๆ นี้ ก่อนที่อายุสัญญากำลังจะหมดลงในสิ้นปี 2551 แน่นอน อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนรองรับแล้วหากไม่สามารถต่อสัญญาเช่าสถานที่ดังกล่าวได้อีก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ ส่วนที่ดินสวนลุมไนซ์บาร์ซ่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอส่งมอบที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแม้จะล่าช้าออกไปบ้าง
นอกจากนี้บริษัทมีศูนย์การค้าใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเข้าเทคโอเวอร์กิจการรวม 7 แห่ง ซึ่งเมื่อดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 17 แห่งใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยเรื่องดังกล่าวยังไม่รวมถึงแผนการเข้าเทคโอเวอร์อีก 2 แห่ง ได้แก่ การลงทุนยังต่างประเทศ และการสร้างศูนย์การค้าใหม่ที่ยังไม่รวมในแผนงานนี้ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการหาทำเลอีก 2-3 แห่ง
บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทให้คำแนะนำ "ซื้อ" หลักทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท โดยกำหนดราคาฟื้นฐานที่ 12 บาท เนื่องมาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ CPNRF มีผลกำไร 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 5% จากไตรมาสที่ผ่านมาเพราะรายได้ค่าเช่าและบริการที่สูงขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy) และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น โดยสิ้นเดือนมีนาคม 2551 โครงการเซ็นทรัลพระราม 2 และพระราม 3 มีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 99.6% และ 94.6% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าหลังจากนี้อัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการเซ็นทรัลพระราม 3 จะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากฟูด์พาร์คแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันกองทุนยังมีแผนที่จะซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ ซึ่งการซื้อสินทรัพย์จะทำให้กองทุนมีการเติบโต และยังช่วยกระจายความเสี่ยง
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาราคาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ปรับขึ้นมาแล้ว 16% จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งดีกว่าการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทนย ทำให้บล.คาดการณ์ว่าในปีนี้ กองทุนน่าจะมีอัตราปันผลเท่ากับ 8%
ล่าสุด ณ วันที่ 27 พ.ค.51 ราคาของหลักทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรทปิดที่ 10.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า มูลค่าการซื้อขาย 15.55 ล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า สำหรับแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่จะนำไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์นั้น ปัจจุบันบริษัทได้ชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องมาจากภาครัฐได้มีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ประกอบกับขณะนี้การลงทุนในต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ในสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้บริษัทต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการเข้าไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทตัดสินใจแน่นอนที่จะเข้าลงทุนในต่างประเทศแล้ว ก็จะหยิบยกแผนงานการออกกองทุนมาพิจารณาใหม่
" ส่วนเรื่องเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรทในปีนี้ บริษัทจะขายศูนย์การค้าเชียงใหม่และเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเข้าเป็นทรัพย์สินกองทุน ซึ่งขณะนี้รอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ซึ่งการขายดังกล่าวน่าจะทำให้ CPN ได้เม็ดเงินประมาณ 7 พันล้านบาท ส่วนกองทุนสำนักงานคงจะชะลอออกไปก่อนเป็นปี 2552 " นายนริศ กล่าว
ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัท นายนริศ กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยการซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) ในต่างจังหวัด 1 แห่ง ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเจรจาซื้อกิจการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งมองหาที่ดินใหม่เพื่อขยายสาขาเพิ่มเติม
นอกจากนี้บริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าในจังหวัดขอนแก่นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 8,650 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายสินทรัพย์ให้แก่ CPNRF และกระแสเงินสดบริษัท
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 8.4 พันล้านบาท แม้ว่าปัจจุบันปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/2551 นี้จะใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,200 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 3 นั้นเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้เช่าพื้นที่ในสาขาปิ่นเกล้า และเซ็นทรัลเวิลด์ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
นายนริศ กล่าวถึงการเจรจาต่อสัญญาเช่าที่ดินศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยดีคาดว่าจะได้ข้สรุปในเร็วๆ นี้ ก่อนที่อายุสัญญากำลังจะหมดลงในสิ้นปี 2551 แน่นอน อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนรองรับแล้วหากไม่สามารถต่อสัญญาเช่าสถานที่ดังกล่าวได้อีก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ ส่วนที่ดินสวนลุมไนซ์บาร์ซ่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอส่งมอบที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแม้จะล่าช้าออกไปบ้าง
นอกจากนี้บริษัทมีศูนย์การค้าใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเข้าเทคโอเวอร์กิจการรวม 7 แห่ง ซึ่งเมื่อดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 17 แห่งใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยเรื่องดังกล่าวยังไม่รวมถึงแผนการเข้าเทคโอเวอร์อีก 2 แห่ง ได้แก่ การลงทุนยังต่างประเทศ และการสร้างศูนย์การค้าใหม่ที่ยังไม่รวมในแผนงานนี้ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการหาทำเลอีก 2-3 แห่ง
บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทให้คำแนะนำ "ซื้อ" หลักทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท โดยกำหนดราคาฟื้นฐานที่ 12 บาท เนื่องมาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ CPNRF มีผลกำไร 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 5% จากไตรมาสที่ผ่านมาเพราะรายได้ค่าเช่าและบริการที่สูงขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy) และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น โดยสิ้นเดือนมีนาคม 2551 โครงการเซ็นทรัลพระราม 2 และพระราม 3 มีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 99.6% และ 94.6% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าหลังจากนี้อัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการเซ็นทรัลพระราม 3 จะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากฟูด์พาร์คแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันกองทุนยังมีแผนที่จะซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ ซึ่งการซื้อสินทรัพย์จะทำให้กองทุนมีการเติบโต และยังช่วยกระจายความเสี่ยง
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาราคาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ปรับขึ้นมาแล้ว 16% จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งดีกว่าการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทนย ทำให้บล.คาดการณ์ว่าในปีนี้ กองทุนน่าจะมีอัตราปันผลเท่ากับ 8%
ล่าสุด ณ วันที่ 27 พ.ค.51 ราคาของหลักทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรทปิดที่ 10.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า มูลค่าการซื้อขาย 15.55 ล้านบาท