xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมความพร้อมก่อนลงทุนเมืองนอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กริ้งๆๆๆๆๆๆ ...กริ้งๆๆๆๆๆๆ

“สวัสดีจ้า บ้าน...”

“แม่ครับ...ต้นเองครับแม่”

“อ้าวต้นเหรอลูก...โทรหาแม่เวลานี้ กลับบ้านช้าอีกแหงๆ”

“แม่นี่รู้ทันผมอีกแล้วนะครับ...พอดีผมเจอเข้มนะครับแม่ แล้วมันก็มีเรื่องจะปรึกษาเรื่องการลงทุนนิดหน่อย ก็เลยหาที่คุยกันก่อนหลับบ้านครับ วันนี้ไม่ต้องรอทานข้าวนะครับแม่” ต้นกล้าทำเสียงอ้อน

“จ้าลูก...อย่ากลับดึกมากแล้วกัน แม่เป็นห่วง”

“ผมทราบครับแม่...ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะครับ”

“จ้า หวัดดีจ๊ะลูก”

“หวัดดีครับแม่” ต้นกล้าวางสายจากคุณนายสุขใจ “แล้วเราจะไปไหนกันดีละ” ต้นหันไปถามเข้มที่นั่งอยู่ข้างๆ บนรถไฟฟ้า

“ฉันอยากกินอาหารเกาหลีนะ...นายสนไหม”

“น่าสนนะ...ที่ไหนดีละ”

“เดี๋ยวฉันพาๆไปเอง”

****************************
เข้มและต้นกล้าจัดแจงสั่งอาหารมาทานทันทีที่มาถึง...เมนูที่เขาสั่งเป็นอย่างแรกคือ เนื้อย่างเกาหลี...ต้นกล้ารู้สึกจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเขาไม่เคยทานอาหารเกาหลีมาก่อน แล้วยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นเนื้อย่างเกาหลี ที่มีวิธีกินแบบแปลกๆ เพราะมันคล้ายกับการกินเมี้ยงคำของบ้านเรา ที่ต้องเอาเนื้อไปห่อกันผักก่อนแล้วถึงทาน ซึ่งไม่เหมือนกับที่เคยกินในร้านหมูกะทะบ้านเรา ที่จิ้ม จิ้ม แล้วก็จิ้มอย่างเดียวพอ

“นายมีเรื่องอะไรจะปรึกษาก็ว่ามา”ต้นกล้าถามเข้มขณะกำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก

“ฉันอยากรู้เรื่องการลงทุนต่างประเทศ”

“ลงทุนต่างประเทศ...อย่างนายเนี้ยะนะ จะลงทุนต่างประเทศ!”

“ทำไมเหรอ มีข้อจำกัดด้วยเหรอว่าใครลงทุนได้ลงทุนไม่ได้”

“เปล่าหรอก...เห็นนายค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ ลงทุนอะไรที่เสี่ยงต่ำๆ ทั้งนั้น”

“ก็แหม!..ฉันเพิ่งเริ่มลงทุนเองนี่น่า แล้วถ้าจะขยับไปลงทุนอย่างอื่นบ้าง...ไม่ดีเหรอไง”

“เอาละ...แล้วนายอยากรู้เรื่องอะไร”

“ถ้าฉันจะลงทุนต่างประเทศ...ฉันต้องทำยังไงบ้าง”

“อะแฮ่มๆ” ต้นกล้ายืดอกขึ้น ยกฝ่ามือสองข้างขึ้นมาถูกัน “อะแฮ่มๆ”

“วางฟอร์มจริงๆ เลยนะนาย”

“จริงๆ แล้ว การลงทุนต่างประเทศ มันไม่ต่างกับการลงทุนในประเทศหรอก สิ่งที่เราจะต้องเข้าใจเบื้องต้นคือ วัตถุประสงค์ในการไปลงทุนในต่างประเทศ โดยก่อนจะลงทุนเราต้องรู้ก่อนว่า เราจะลงทุนในต่างประเทศเพื่ออะไร… นายตอบฉันมาซิว่า นายอยากไปลงทุนต่างประเทศเพื่ออะไร”

“อืมห์...ลงทุนต่างประเทศเพื่ออะไรนะเหรอ...ก็เห็นเขาบอกว่าลงทุนต่างประเทศได้ผลตอบแทนสูงกว่า

“เหตุผลนั้นมันก็ถูก แต่สิ่งที่ฉันอยากให้นายเข้าใจมากกว่า ก็คือ ลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับเงินลงทุนของนาย

“กระจายความเสี่ยงยังไงเหรอ” เข้มไม่เข้าใจ

“ก็แทนที่นายจะลงทุนในประเทศอย่างเดียว แล้วได้ผลตอบแทนอยู่แค่ตลาดเดียว นายก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศด้วย...เอาอย่างนี้ สมมติหุ้นไทยตก นายจะเป็นยังไง”

“ฉันก็ขาดทุนไง”

“แล้วถ้าหุ้นไทยตก แต่หุ้นต่างประเทศขึ้น...นายจะเป็นยังไง”

“เข้าใจแล้ว...ถ้าฉันมีการลงทุนในต่างประเทศด้วย ก็จะลดความผันผวนของผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนของฉัน”

“ถูกต้อง…นายนี่ก็เข้าใจง่ายเหมือนกันนี่”

“นายนึกว่าตัวเองเป็น วอแรนซ์ บัฟเฟตเหรอ?”

“วอแรนซ์ บัฟเฟต” ต้นกล้าพูด ก่อนจะขำตามออกมา

“แล้วฉันสามารถลงทุนผ่านช่องทางไหนบ้างละ” เข้มพูดสวนขึ้นมา...เขาเบื่อท่าทีของต้นกล้าเต็มที แม้ต้นกล้าจะเป็นแบบนี้บ่อย แต่เขาก็ไม่ชินซะที

“ตอนนี้นายสามารถลงทุนได้ 3 รูปแบบ คือ ลงทุนโดยตรง คือเลือกซื้อหุ้น หรือกองทุนโดยตรง โดยผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศ ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล โดยมีผู้จัดการกองทุนดูแลให้ แต่หลักทรัพย์หรือตราสารจะยังเป็นชื่อของคุณอยู่ และลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่เรียกกันย่อๆว่า เอฟไอเอฟ (FIF) โดยจะลงทุนร่วมกับผู้ลงทุนอื่นๆที่ต้องการลงทุนเหมือนๆกัน...นักลงทุนหน้าใหม่อย่างนาย ลงทุนผ่านกองทุนเอฟไอเอฟ เหมาะสมที่สุด”

“ทำไมละ?”

“การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นการเอาเงินไปให้ผู้จัดการกองทุนเขาบริหารแทนเรา ซึ่งผู้จัดการกองทุนเองเขาจะมีข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศดีกว่าเรา ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารความเคลื่อนไหว กระแสการลงทุนของโลก แล้วเขายังมีการติดต่อกับที่ปรึกษาการลงทุนในต่างประเทศด้วย...ซึ่งคนเริ่มต้นลงทุนอย่างนาย คงไม่มีข้อมูลเหล่านี้หรอก ดังนั้น การที่มีคนบริหารให้เราน่าจะเหมาะมากกว่า”

“แล้วฉันจะเชื่อมั่นเขาได้มากน้อยแค่ไหน”

“เป็นคำถามที่ดีมาก...กองทุนเอฟไอเอฟแต่ละกอง ก่อนที่เขาจะออกมา บลจ.เขาต้องวิเคราะห์แล้วว่า มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่านายเองจะมีมุมมองตรงกับเขาหรือเปล่า…แต่ตอนนี้ ทางเลือกลงทุนในต่างประเทศก็ค่อนข้างหลากหลายนะ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ คอมมอดิตี้ ตลาดเกิดใหม่…สินทรัพย์เหล่านี้ ตอบโจทย์การกระจายความเสี่ยงของนายได้ดีทีเดียว”

“นอกจากต้องตอบตัวเองว่าลงทุนเพื่ออะไร แล้วจะลงทุนในสิทรัพย์ประเภทใดแล้ว ฉันต้องรู้อะไรอีกบ้าง”

“ข้อแรกต้องดูค่าธรรมเนียมที่บลจ.แต่ละรายคิดว่าเป็นเท่าไร เพราะแต่ละบลจ.เก็บไม่เท่ากัน ข้อสอง ต้องดูว่าผลตอบแทนที่กองทุนไปลงทุนนั้นเป็นเงินสกุลใดและมีการคุ้มครองอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ และข้อสาม ตราสารที่จะไปลงทุนเป็นประเภทใด...จำไว้ว่าอย่าไปดูเฉพาะผลตอบแทนที่บลจ. เขาคาดการณ์ไว้เท่านั้นนะ...เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ”

“ฉันชักเริ่มอิ่มแล้วซิ” เข้มเอนตัวไปข้างหลัง แล้วเอามือลูบท้อง

“จะไม่ให้อิ่มได้ไง ก็นั่งฟังฉันพูดอยู่คนเดียว…นายนี่มันจริงๆเลย” พูดจบ ต้นกล้าก็ก้มหน้าก้มตากิน...แล้วก็กินทันที

....อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น